ไม่มีใครห้ามคนไทยที่กำลังหลบหนีคดีอาญาแผ่นดินกลับประเทศไทย เพราะเขาเป็นคนไทย อย่างไรเขาก็มีสิทธิ์กลับประเทศไทยได้ทุกเมื่อ แต่สำหรับคนทำผิดกฎหมายฐานความผิดปล้นประเทศชาติ เมื่อเขากลับมาโดยยังมีลมหายใจ เขาต้องติดคุกในทุกกรณี ไม่มีข้อยกเว้น
คนไทยที่หลบหนีคดีอาญาแผ่นดินนั้นมีมากมายจนเกินจะบอกกล่าวชื่อเสียงได้ครบทุกคน บางคนหนีคดีไปจนตัวตาย ไม่ยอมกลับประเทศไทย เพราะไม่ต้องการกลับมาติดคุกติดตะราง บางคนที่ทำผิดในคดีที่มีอายุความ ก็หลบหนีไปจนคดีหมดอายุ ก็กลับประเทศไทย เพราะเมื่อหมดอายุความแล้ว ก็ไม่ต้องติดตะราง
ส่วนคนบางคนที่ทำผิดฐานปล้นประเทศ คดีจำพวกนี้ไม่มีวันหมดอายุความ ซึ่งในความเป็นจริงนั้น คดีที่เกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่น โกงบ้านกินเมือง ฉ้อฉลปล้นแผ่นดิน ต้องไม่มีวันหมดอายุความ เพราะเป็นการจงใจก่อความผิดที่ฉกาจฉกรรจ์ เป็นคดีที่เกิดจากความตั้งใจ และจงใจ เพราะมีการวางแผนไว้ก่อน
การโกงบ้านกินเมืองไม่ใช่เรื่องหรือคดีที่เกิดขึ้นโดยประมาท หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ย้ำว่าเป็นคดีที่เกิดจากความจงใจ ความตั้งใจดังนั้นจึงไม่สมควรที่ผู้ก่อความผิดในคดีเช่นนี้จะหลุดพ้นจากการถูกลงโทษ ต่อให้เขาหลบหนีคดีไปอยู่ในที่แห่งใดบนโลกใบนี้ ก็ต้องนำตัวกลับมาลงโทษให้จงได้
ต้องย้ำว่าประเทศไทยนั้นมีผู้ก่อคดีโกงบ้านกินเมือง ฉ้อฉลปล้นแผ่นดินหลายราย มิได้มีแค่เพียงทักษิณ ชินวัตร เพียงรายเดียวเท่านั้น
แต่สำหรับผู้ที่ก่อเหตุปล้นประเทศแล้วหลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนมากมักจะไม่ยอมเปิดเผยตัวตนว่าอยู่ที่ไหน และไม่มีข่าวปรากฏว่ามีใครไปพบเขาบ้าง แต่สำหรับกรณีของทักษิณนั้น เป็นเรื่องที่น่าสังเกตมาก เพราะเขาหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ แต่ก็ยังมีผู้คนมากมายไปพบเขาได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวของทักษิณ หรือคนที่รู้จักทักษิณในรูปแบบต่างๆ นานา เช่น นักการเมืองสังกัดพรรคของทักษิณ และนักการเมืองต่างพรรคที่ต้องการจับมือร่วมงานกับพรรคการเมืองของทักษิณ แม้กระทั่งลิ่วล้อบริวารของทักษิณ แต่ที่น่าสนใจยิ่งก็คือ แม้กระทั่งคนทำรายการทาง social media หลายราย รวมถึงคนทำสื่อฯที่นำเสนอผ่านสื่อฯ กระแสหลักของบางช่อง บางสำนักก็ยังอุตส่าห์บินไปพบ ไปสัมภาษณ์ ไปกอดทักษิณได้เป็นประจำ แต่ที่สุดอุบาทว์คือ หน่วยงานของรัฐบาลที่มีหน้าที่ติดตามนำตัวทักษิณกลับมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม กลับไม่มีปัญญานำตัวทักษิณกลับมารับโทษ
ทักษิณหนีคดีอาญาแผ่นดินไทยไปตั้งแต่ปี 2551 จวบจน พ.ศ. นี้คือ 2566 รวมความว่าทักษิณหนีคดีไทยแล้ว 15 ปี ต้องถามย้ำๆ ว่าทำไมคนอื่นๆ รู้ว่าทักษิณอยู่ไหน แล้วไปพบทักษิณได้ตลอดเวลา แต่ทำไมหน่วยงานของรัฐบาลไทยที่มีหน้าที่นำตัวทักษิณกลับมาลงโทษตามคำพิพากษาของศาล จึงไม่มีปัญญานำตัวทักษิณกลับมา เป็นเพราะว่าสติปัญญาของผู้ทำงานในองค์กรของรัฐอ่อนด้อย ไร้สติ สิ้นปัญญา หรือไม่มีความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ ใช่หรือไม่ หรือจงใจไม่ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด
ถามว่ารัฐบาลไทยทุกชุด ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่อยู่ใต้อาณัติของทักษิณ หรือเป็นรัฐบาลอื่นใด แม้กระทั่งรัฐบาลที่ก่อรัฐประหารโค่นล้มทักษิณ และรัฐบาลใต้อาณัติของทักษิณ ไม่มีปัญญารู้หรือว่าทักษิณอยู่ที่ไหน จึงไร้ปัญญานำตัวทักษิณกลับมารับโทษ หรือเป็นเพราะว่ารัฐบาลทุกชุดไม่ต้องการนำตัวทักษิณกลับมาลงโทษ จึงจงใจนิ่งดูดาย ไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด
บางคนบอกว่า ปล่อยให้ทักษิณอยู่นอกประเทศดีกว่า เพราะเมื่อนำกลับมาแล้ว บ้านเมืองจะยิ่งวุ่นวาย ดังนั้นให้อยู่นอกประเทศต่อไป แต่ทว่าการที่ทักษิณอยู่นอกประเทศก็ใช่ว่าจะยุติการก่อเหตุปั่นบ้านป่วนเมือง เพราะทักษิณได้ก่อเหตุปั่นป่วนบ้านเมืองมาโดยตลอด
สำหรับเรื่องทักษิณให้ข่าวสร้างกระแสว่าจะกลับเมืองไทยนั้น ต้องบอกว่าทักษิณปั่นกระแสนี้มาโดยตลอดเช่นกัน หลายคนบอกว่าจำไม่ได้แล้วว่าทักษิณบอกว่าจะกลับไทยมากี่สิบครั้ง เพราะเสียเวลาจดจำ เนื่องจากพูดว่าจะกลับ จะกลับ และจะกลับบ่อยมาก แต่สุดท้ายไม่กลับ
ดังนั้น วาทะของทักษิณที่บอกว่าจะกลับประเทศไทย จึงถูกมองว่าเป็นวาทะที่สร้างขึ้นเพื่อหวังผลให้เกิดคลื่นการเมืองเท่านั้น เพราะทักษิณพูดแล้วไม่ทำ มิหนำซ้ำ ในหลายต่อหลายครั้ง ทักษิณก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องกลับประเทศไทย เพราะอยู่ที่ไหนก็ได้ เนื่องจากมีหลายประเทศยินดีต้อนรับทักษิณ แต่วาทะเรื่องหลายประเทศยินดีต้อนรับทักษิณก็เป็นเพียงการพูดไปเรื่อยๆ เท่านั้น เพราะเอาเข้าจริงๆก็ไม่มีกี่ประเทศที่ยินดีต้อนรับทักษิณ และไม่มีความประสงค์ให้ทักษิณมีสถานะเป็นพลเมืองของประเทศนั้นๆ
พูดกันตามข้อเท็จจริง ทักษิณถูกรัฐประหารโดย คสช. ชุดของบิ๊กบัง (สนธิ บุญยรัตกลิน) เมื่อปี 2549 ในวันที่ทักษิณไปทำภารกิจการเมืองในประเทศสหรัฐฯ ครั้งนั้นไม่ถือว่าทักษิณหลบหนีออกนอกประเทศ เพราะทักษิณถูกรัฐประหารขณะกำลังอยู่ในต่างประเทศ แต่เมื่อรัฐประหารแล้ว ทักษิณก็ไม่ได้เดินทางกลับ แต่ดูจังหวะทางการเมืองอยู่นาน จึงได้ตัดสินใจกลับมา
ต้องถือว่าทักษิณหนีคดีอาญาไปอย่างจริงๆ จังๆ ในปี 2551 เมื่อทักษิณอ้างว่าขออนุญาตไปชมพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิก ณ กรุงปักกิ่ง แล้วจากวันที่ 31 กรกฎาคม 2551 จนถึงวันนี้ ทักษิณก็ไม่ได้กลับเข้ามาในประเทศไทยอีกเลย แต่ระหว่างนั้น ทักษิณก็ปรากฏตัวตามสถานที่ต่างๆ ตลอดเวลา และมีผู้คนมิใช่น้อยไปหา ไปพบตัวทักษิณตลอดเวลา ยกเพียงเพียงคนที่มีหน้าที่ติดตามตัวทักษิณเพื่อนำกลับมารับโทษ ไม่มีปัญญาไปพบทักษิณ และไม่มีปัญญานำตัวทักษิณกลับมารับโทษ
มีผู้ถามว่า เมื่อทักษิณถูกบิ๊กบัง (สนธิ บุญยรัตกลิน) ทำรัฐประหารแล้ว ทักษิณกลับไทยหรือไม่ ตอบว่ากลับไทยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 ถือเป็นการกลับไทยคร้้งแรกหลังถูกทำรัฐประหาร เมื่อเดือนกันยายน 2549
แต่ก่อนทักษิณจะกลับเข้ามาไทยช่วงหลังจากถูกทำรัฐประหาร ทักษิณก็ได้ใช้รูปแบบต่างๆ สื่อสารกับผู้สนับสนุน และศรัทธาทักษิณเป็นระยะๆแม้ทักษิณจะไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแต่ทักษิณก็ใช้การสื่อสารผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เข้ามาสนทนาบ้าง ปลุกระดมบ้าง เป็นประจำ
ส่วนเรื่องที่ทักษิณบอกว่าจะกลับประเทศไทย หรือกลับบ้านนั้น ทักษิณพูดเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการพูดผ่านระบบ VDO calling และผ่านระบบอื่นๆ เช่น Club House ที่ทักษิณจงใจเปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบ และเหมือนเป็นการจงใจบอกให้ฝ่ายผู้มีอำนาจรัฐของไทยรับรู้ว่าทักษิณยังสามารถสื่อสารกับคนที่สนับสนุนตนเองได้ตลอดเวลา แม้เขาจะไม่มีอำนาจรัฐในมือ แต่เขาก็สามารถติดต่อสื่อสารได้ตลอดเวลา โดยที่ผู้มีอำนาจรัฐของไทยไม่มีปัญญาสกัดกั้นหรือขัดขวางเขาได้ ซึ่งเรื่องนี้เท่ากับใช้ฝ่าเท้าลูบหน้าผู้มีอำนาจรัฐอย่างชัดเจน เพราะผู้มีอำนาจรัฐของไทยไร้ปัญญาจับตัวทักษิณมาลงโทษ และไร้ปัญญาขัดขวางการปลุกระดมโดยทักษิณ
กลับมาที่ประเด็นทักษิณใช้กลวิธีปล่อยข่าวเรื่องจะกลับบ้านครั้งล่าสุด โดยใช้การปล่อยข่าวผ่านลูกสาวคนเล็ก จนทำให้สังคมเกิดความแตกตื่นพอประมาณ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ขวัญอ่อน และในกลุ่มที่ต้องการรอพบทักษิณ แต่ขณะเดียวกันก็พบว่าภาครัฐบางส่วนก็เกิดอาการแตกตื่นมิใช่น้อย มีการพูดถึงเรื่องทักษิณจะกลับไทยไปต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นการให้ความปลอดภัยกับทักษิณ ในวันที่เขาจะกลับมาถึงไทย รวมถึงการพูดในประเด็นจัดเตรียมสถานที่ควบคุมตัว กักขัง และพูดถึงเรื่องที่แสนตลกคือ ทักษิณมาถึงไทยแล้วติดคุกเพียงวันเดียวแล้วได้รับอภัยโทษเป็นการพิเศษ
เรื่องตลกเบาป้ญญาเหล่านี้เกิดขึ้นมาตลอดระยะเวลาประมาณ2-3 วัน หลังจากลูกสาวทักษิณปล่อยข่าวว่าทักษิณจะกลับไทยวันที่ 10 สิงหาคม 2566
แต่เรื่องตลกยิ่งกว่าก็คือ เรื่องที่มีคนของรัฐบาลบอกว่าทักษิณจะติดคุกเพียงวันเดียว คนของรัฐบาลที่ว่านั้นคือวิษณุ เครืองาม ผู้ที่หลายคนรู้ว่าวิษณุสามารถทำงานกับรัฐบาลทักษิณก็ได้ และทำงานกับรัฐบาลที่โค่นทักษิณก็ยังได้ วิษณุบอกว่าทักษิณเข้ามาติดคุกเพียงวันเดียว แล้วขออภัยโทษได้เรื่องนี้น่าคิดมาก เพราะคนพูดคือวิษณุ เนติบริกร
น่าสนใจตรงที่ว่าในเมื่อกระแสสังคมเรียกร้องให้ผู้ก่อเหตุปล้นบ้านปล้นเมือง ทุจริตโกงกินประเทศ ไม่มีวันหมดอายุความในความผิดดังกล่าว แม้กระทั่ง ป.ป.ช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ยังพยายามเรียกร้องให้คดีโกงบ้านกินเมือง เป็นคดีที่ไม่มีวันหมดอายุความ เพราะถือว่าทำความผิดร้ายแรง แต่แล้วทุกคนก็เกือบล้มทั้งยืนเมื่อได้ยินเนติบริกรบอกว่า ทักษิณกลับมาติดคุกเพียงวันเดียว แล้วขออภัยโทษได้
สำหร้บโทษที่ทักษิณต้องได้รับคือติดคุก 10 ปี จากความผิดสี่คดี เพราะศาลพิพากษาไปเรียบร้อยแล้ว ได้แก่คดี หวยบนดิน (โทษจำคุก 2 ปี) คดีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (โทษจำคุก 3 ปี)และคดีใช้ Nominee ถือหุ้นบริษัท ชินคอร์ป เข้าไปรับสัมปทานงานของรัฐ (โทษจำคุก 3 ปี) และคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาฯ (โทษจำคุก2 ปี)
สรุปคือทักษิณถูกศาลพิพากษาจำคุกรวม 10 ปี โดยทักษิณหนีคดีมาโดยตลอด แต่แล้วเมื่อบอกว่าจะกลับประเทศไทย ก็ดันมีคำพูดจากเนติบริกรว่า เข้ามาติดคุกเพียงวันเดียว แล้วขออภัยโทษ เรื่องแบบนี้มันยิ่งกว่าเอาเท้าลูบหน้ากระบวนการยุติธรรมของไทย
หากการก่อคดีโกงบ้านกินเมืองจนถูกศาลพิพากษาเด็ดขาดแล้วว่ามีโทษจำคุก 10 ปี แต่ทว่าดันมีผู้บอกว่ากลับมาแล้วติดคุกเพียง 1 วัน แล้วขออภัยโทษ หากเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ ก็หมายความว่าคนที่ทำผิดในลักษณะเดียวกับทักษิณทุกคน ก็ต้องได้รับในสิ่งเดียวกันที่ทักษิณจะได้รับเหมือนๆ กันทุกคน
หากเป็นเช่นนี้แล้ว จะหาความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมไทยได้อย่างไร แล้วนั่นก็หมายความว่า ผู้กระทำความผิดด้วยการจงใจโกงบ้านกินเมืองเกือบไม่ต้องรับโทษทัณฑ์ใดๆ เลย
อย่างไรก็ตาม มีผู้บอกไว้ว่า ผู้จงใจกระทำการโกงบ้านกินเมืองทุกราย ต้องได้รับโทษทัณฑ์ตามกฎบ้านกบิลเมืองโดยไม่มีข้อยกเว้น หากยังไม่ได้รับโทษทัณฑ์ตามเกณฑ์ที่ระบุไว้ สำหรับผู้ที่ได้รับการยกเว้นก็น่าจะเพียงแต่ศพของผู้กระทำผิดในคดีโกงบ้านกินเมือง ปล้นประเทศเท่านั้นเพราะคุกไทยไม่ได้มีไว้ขังศพ แม้จะมีคนวิพากษ์มาโดยตลอดว่าคุกไทยมีไว้ขังหมาก็ตาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี