“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า / แนวหน้าออนไลน์ www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ทันเหลี่ยม นักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติติ่งแดงด้อมส้มส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสีอย่างเท่าเทียม”...

nn สภาชุดไหนๆ ก็ไม่ต่างกันพฤติกรรมเดิมๆ เสียข้าวสุก ประชุมสมัยแรกก็ตีรวนกันจนล่ม ปัญหาทุกเข็ญพี่น้องประชาชนไม่มีโอกาสได้ร้องเรียนในสภา ก้มหน้ารับกรรมราคาพืชผลและสินค้าเกษตรตกต่ำต่อไป เพียงเพราะต่อรองเอาละครการเมืองเรื่อง “รัฐธรรมนูญ”มาหลอก “อุปกรณ์การเกษตร-ด้อมส้ม” เหมือนละครยอดเยี่ยม “แก้ไข/ยกเลิก ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112” ที่เล่นไปอ้างเสียงสวรรค์ 14 ล้านเสียงไปแล้วมาโอดครวญโดน “พรรคเพื่อไทย”ปล้นเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” จากความรู้สึกสงสาร กลายเป็น “สาแก่ใจกับความเดียงสา” ที่หยิ่งผยอง...

nn “พิธาคิโอทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ทรงเกียรติพรรคก้าวไกล” ไม่สำเหนียกข้อเท็จจริงเลยหรือ “...การออกเสียงลงคะแนนแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่สามขั้นสุดท้าย ให้ใช้วิธีเรียกชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผยและต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการที่จะให้ออกใช้เป็นรัฐธรรมนูญมากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา โดยในจํานวนนี้ต้องมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองที่สมาชิกมิได้ดํารงตําแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบของทุกพรรคการเมืองดังกล่าวรวมกัน และมีสมาชิกวุฒิสภาเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา” ... ร้อยละ 20 ของทุกพรรคฝ่ายค้านรวมกันเอามาจากไหน เอาแบบมีตัวตนแท้จริง ไม่ใช่หลอกอุปกรณ์การเกษตรเหมือนเสียงสมาชิกวุฒิสภา เท็จจริงตรงนี้ค่อยไปขอเลื่อนญัตติกะโหลกกะลา ... อย่างที่กระทำเมื่อการประชุมสภาเมื่อวันพุธ-พฤหัสบดีที่ผ่านมา...

nn ผ่านไปหนึ่งเปลาะกับ “ท่านรองประธานหมูกระทะ-ปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และรองประธาน
สภาฯคนที่ 1” หลังสร้างวีรกรรมสองเรื่องสามเรื่องดีๆ ทั้งนั้น ได้เวลาก็เคลียร์คดีแรกที่ตะแบงโต้เถียงออกสื่อแบบเข้ารกเข้าพง กรณี “โพสต์ข้อความและภาพเชียร์เบียร์ยี่ห้อหนึ่ง” ที่เจ้าตัวบอกเป็นสินค้าท้องถิ่นที่ตัวเป็นผู้แทน เพื่อต้องการให้สังคมมาถกเถียงกันในข้อกฎหมาย มาตรา 32 พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 ที่อ้างว่าเอื้อประโยชน์แก่ทุนผูกขาด ท้ายที่สุดตั้งสติมีสมาธิปัญญาก็บังเกิดจึงเดินทางเข้าพบ “นายแพทย์ไกรสุข เพชระบูรณิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) พิษณุโลก” เพื่อปรึกษาหารือข้อกฎหมาย ... แก้ตัวถึงเจตนาในการโพสต์ข้อความและภาพดังกล่าว ก่อนยินยอมให้ดำเนินการตามข้อกฎหมาย หลังมีชาวบ้านร้องเรียนมาที่สสจ.พิษณุโลก ซึ่งบทลงโทษตามมาตรา 43 บัญญัติว่า “ตามมาตรา 43 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ...

nn กรณีดังกล่าว ทาง สสจ.ถือว่าเป็นการกระทำความผิดครั้งแรก จะมีโทษปรับ 50,000 บาท” เท่ากับว่าความวัวจบกันไปแล้ว เหลือแค่ความหมออ๋องที่ต้องหาข้อแก้ตัวและหาช่องทางออกให้เจอกรณีใช้เงินรับรองเลี้ยงหมูกระทะ แม่บ้านกว่า 370 ชีวิตในรัฐสภา ที่ “หมออ๋อง” ตะแบงประดาผู้เห็นต่างว่า เป็นการลดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของ “แม่บ้านเหล่านี้” ดูเอาเถอะ “ไร้เดียงสา” สิ้นดี ทั้งยืนยันว่า เงินที่ใช้ดำเนินการทั้งหมดไม่มี “งบส่วนตัว
ที่เลี้ยงเพื่อเป็นหน้าเป็นตาแก่ตนเอง แต่งบที่ใช้ทั้งหมดคือ ภาษีของประชาชนที่ถูกจัดให้มาเป็นงบรับรองของรองประธานสภาคนที่ 1 จำนวน 2 ล้านบาท ต่อปีงบประมาณล้วนๆ จึงไม่ใช่เรื่องที่ทำเพื่อหน้าตาตัวเอง ... เวงกำ เป็นปายยยยดร้ายยยยย...

nn โถ ... ปัญญา!!!กลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียลไปเสียแล้วเมื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” ถูกเหล่า “ด้อมส้ม-อุปกรณ์การเกษตร” ตัดคลิปสั้นๆ โพสต์ลง “ทวิตเตอร์” ระหว่าง “นายกฯจริงคนที่ 30” โยนปากกา อาการคล้ายใจร้อนเร่งทุ่มเททำงานแก้ปัญหาประชาชนวันหยุดเดินสายลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชนเยอะไม่รู้จะแก้ตรงไหนก่อน เพราะเวลา 4 ปีน้อยมาก โดยหวังสร้างกระแสบูลลี่โยงว่า เป็นอำนาจนิยมคล้าย “ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีจริงคนที่ 29 คล้ายจะบอกว่า “ไม่อ่อนโยนละมุนละไม ยิ้มหวาน อ้อนแอ้น ประดิษฐ์ทุกอิริยาบถ เหมือนนายกฯทิพย์, นายกฯโซเชียล” ที่ “ไม้หน้าสาม” ขอไม่พูดชื่อ, เอ่ยสกุลให้เป็นเสนียดปากจัญไรองค์กรแล้วกัน...

nn วันนี้อานิสงส์ที่ “อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ได้เพียรสร้างไว้จากการทุ่มเทสรรพกำลังความรู้ความสามารถแต่ไม่ทันได้เก็บกินดอกผล ต้องส่งต่อให้ “เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30” โดยเฉพาะรายได้รัฐที่จะนำมาใช้กับนโยบายที่ “พรรคเพื่อไทย” หาเสียงไว้ก่อนการเลือกตั้ง ล่าสุดปรากฏว่าช่วง 8 เดือนของปีงบ 2566 สามารถจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าประมาณการถึง 125,000 ล้านบาท...

nn อ้าว !!! เว้ย ... เฮ้ย!!! “สุนัขจรจัดและฝูงไฮยีน่า” ทั้งเพศผู้เพศเมียทั้งใหญ่ล่ำสันทั้งเตี้ยต่ำตม ที่เคย“เห่ากระโชก” ใส่ร้ายรัฐบาล “ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ว่าทำเศรษฐกิจประเทศป่นปี้ วิกฤตเศรษฐกิจเกิดปัญหาปากท้อง ช่วยมา “แหกตา” ดูด้วยเถิด ทราบไหม ว่า องค์กรโลก “นิตยสารอินเตอร์เนชั่นแนล ลีฟวิง” เขาจัดให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพต่ำเหมาะแก่คนวัยเกษียณมาพักอาศัยใช้ชีวิตแย่งคนไทยสูดอากาศบริสุทธิ์เพื่อต่ออายุขัยให้ยืนยาวในระดับ “ท็อปเทน” แถมเป็นประเทศเดียวในเอเชียอีกต่างหาก ... “เจ๊ปุ๋ง-สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” และ “เสี่ยนิด-เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง” ผู้ประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สมควรวางแผนอย่างรัดกุมดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาสัมผัสความเป็นไทยอย่างเต็มที่พร้อมหามาตรการให้คนวัยเกษียณเข้ามาใช้บั้นปลายชีวิตในประเทศไทย เพราะผลสำรวจของ “นิตยสารอินเตอร์เนชั่นแนล ลีฟวิง” ที่เน้นว่า “ธรรมชาติสวยงาม อสังหาริมทรัพย์ถูก” เศรษฐกิจไม่เงยหัวก็ต้องโทษความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดินแล้วครานี้...

nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ต้องสรุปกรณีนักโทษเด็ดขาดชาย “ทักษิณ ชินวัตร”ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษว่า ต่อแต่นี้ “น.ช.ทักษิณ ชินวัตร” จะไม่ใช่ “ผู้ถูกกล่าวหา” ในทางการเมืองอีกต่อไป แต่จะเป็นผู้ต้องขังเฉกเช่นผู้ต้องขังคนอื่นๆ ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และเรือนจำต่างๆ ของกรมราชทัณฑ์ทั่วประเทศเพราะได้ยอมรับโดยดุษณีว่า ในการกระทำความผิดตามบรรยายฟ้องในคดีต่างๆ, มีความสำนึกในการกระทำความผิด และด้วยความเคารพในกระบวนการยุติธรรมจึงขอรับโทษตามคำพิพากษา...nn
 

ไม้หน้าสาม