เขียนทิ้งท้ายเรื่องผู้นำทหารรับจ้างวากเนอร์ เครื่องบินตกตายอย่างปริศนาไว้ฉบับก่อนว่า สหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญเรื่องการยุแยงตะแคงรั่ว ทำปฏิบัติการข่าว หรือสร้างสถานการณ์ให้บุคคลชั้นนำประเทศคู่กรณีเกิดการขัดแย้งแตกแยกภายในและไม่ไว้ใจกันเอง และสิ่งที่เขียนทิ้งท้ายไม่กี่วัน อเมริกันออกลาย ขุดเรื่องความขัดแย้งภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อห้าสิบปีก่อนขึ้นมา เปรียบเทียบกับความขัดแย้ง เยฟกินี พริโกซิน กับประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน และ ความขัดแย้งภายในระหว่างประธาน เหมา เจ๋อตุง กับ หลิน เปียว
เครื่องบินตกที่เป็นเหตุการณ์ตายของกลุ่มวากเนอร์ คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ในจีน ที่ท่านประธานเหมา เจ๋อตุง กำจัด หลิน เปียว ผู้นำอันดับสองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งหลิน เปียวเครื่องบินตกตายอย่างปริศนาคล้ายกับการตายของพริโกซิน
เดอะ ดิโพลแมท สื่อโฆษณาชวนเชื่อของวอชิงตัน เสนอข่าวเป็นนัยว่า รัสเซียทำให้พริโกซินตาย เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม เดอะ ดิโพลแมท นำบทความที่เขียน โดย เจมส์ เกธีน อีแวนส์อาจารย์มหาวิทยาลัยวอชิงตันมานำเสนอข่าวพาดหัวว่า“นาทีพิโกรชินเครื่องบินตกตายเป็นปริศนาเหมือนกับที่หลิน เปียว เครื่องบินตกตาย”
หลิน เปียว อดีตผู้นำหมายเลข 2 ของจีนคอมมิวนิสต์ และ บุคคลที่ถูกวางตัวเป็นทายาททางการเมือง เหมา เจ๋อตุงได้เสียชีวิตลงในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2514 อย่างมีปริศนาจากเหตุการณ์เครื่องบินตกในมองโกเลียพร้อมกับลูกและภรรยา
ดิโพลแมท บรรยายว่า ออนดอร์คาน เป็นเมืองสงบเงียบในที่ราบทุ่งกว้าง ประเทศมองโกเลีย เมืองนี้มีประชากรราว 20,000 คน ผู้คนส่วนใหญ่มีอาชีพทำเหมืองถ่านหิน เมื่อเร็วๆ นี้ เมืองถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองชิงกิสเพื่อเป็นเกียรติแก่เจงกิสข่าน ตำนานผู้ปกครองยิ่งใหญ่ที่กำเนิดใกล้เมืองนี้
ปี 2514 เมืองที่สงบกลายเป็นสถานที่เกิดความรุนแรง จากแผนการล้างแค้นการแย่งชิงอำนาจภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีน (ซีซีพี) เครื่องบินที่นำ หลิน เปียว รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งประธานเหมาวางตัวให้เป็นทายาททางการเมือง ตายในเหตุการณ์เครื่องบินตกใกล้เมืองนี้พร้อมกับผู้โดยสารในเครื่องบินทั้งลำ
มีข่าวลือต่างๆ นานา ว่า สาเหตุเครื่องบินตก เรื่องเครื่องบินตก มีการกล่าวขานกันว่าเป็นเหมือนพล็อตละครโอเปรา และ ทฤษฎีสมคบ พรรคคอมมิวนิสต์จีน ออกข่าวว่า หลิน เปียว ระดมกำลังคนใกล้ชิดเขา วางแผนการลอบสังหารประธานเหมา เมื่อแผนการมีรหัสว่า “โครงการ 571”ล้มเหลว หลิน เปียว พยายามหนีออกจากปักกิ่งแปรพักตร์ไปมอสโก แต่เครื่องบินเติมน้ำมันไว้ไม่มากพอเป็นเหตุให้เครื่องบินดิ่งตกลงในทุ่งหญ้ามองโกเลีย
ส่วนคำพูดปากต่อปากที่แพร่กระจายในประเทศจีนกระซิบบอกต่อๆ กันว่า เครื่องบินถูกยิงโดยเครื่องบินรบ ตามคำสั่งของ โจว เอินไหล นายกรัฐมนตรี
ข่าวลือบางส่วนพูดแม้กระทั่งว่า หลิน เปียว ถูกยิงตายคารถยนต์ในกรุงปักกิ่งและลูกชายของเขา หลิน ลีเก๋า พยายามหนีไปกับเครื่องบินมรณะลำนั้น
ก่อนเสียชีวิตอย่างปริศนาหลิน เปียว เป็นมือขวา ผู้สร้างภาพให้ประธานเหมา เป็นต้นแบบของการปฏิวัติโลก และหลิน เปียว เป็นที่เคารพศรัทธาของกลุ่มเรด การ์ด และนักกิจกรรมต่อต้านจักรวรรดินิยมทั่วโลก
ปี 2512 หลิน เปียว ไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งระดับสูงในพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเขามีส่วนสำคัญในการวางแผน และสั่งการให้เรดการ์ดปฏิวัติวัฒนธรรมจีน หลิน เปียว เป็น
ผู้รวบรวมและตีพิมพ์คำปราศรัยประธานเหมา และเขียน “หนังสือแดงเล่มน้อย” (“Little Red Book”) ที่ใช้ปลุกระดมปั่นกระแสความรุนแรงในปี 2503 ถึงปี 2513
ที่สำคัญ หลิน เปียว มีตำแหน่งทางทหารสูงฐานะนายพลของกองทัพปฏิวัติประชาชนจีน เขานำชัยชนะมาให้พรรคคอมมิวนิสต์ในหลายสมรภูมิสงคราม กลางเมือง เพราะเขามีกองทัพช่วยหนุนหลัง ความสำเร็จเหล่านั้นเป็นแรงผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำหนดชื่อ หลิน เปียว เป็นผู้สืบตำแหน่งประธานประเทศต่อ เหมา เจ๋อตุง ชื่อ หลิน เปียว มักปรากฏคู่กับการโฆษณาชวนเชื่อของประธานเหมา ในโฆษณาชวนเชื่อที่แสดงให้เห็นความเป็นผู้อาวุโสของเขาในพรรคคอมมิวนิสต์จีน
นอกจากนั้น หลิน เปียว ผู้มีอำนาจอิทธิพลเหนือกองทัพปฏิวัติประชาชนจีนผลักดันให้กองทัพมีอิทธิพลเหนือการเมือง ซึ่งเป็นต้นเหตุความตกต่ำของเขา ในเวลาที่ฐานะตกต่ำเขามีภัยคุกคามจากหลายด้าน ซึ่งไม่มีภัยคุกคามใดเป็นอันตรายร้ายแรงกว่าภัยจากผู้นำอำนาจนิยม ภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่โดยทั่วไปมักมาจากการถูกแทงข้างหลังโดยผู้มีอำนาจในแวดวงเดียวกัน หลิน เปียว มีอำนาจในกองทัพปฏิวัติประชาชนจีน ซึ่งเป็นการคุกคามโดยตรงต่อประธานเหมาผู้ผูกขาดอำนาจ และเมื่อปฏิบัติการ “571” ล้มเหลว หลิน เปียว พยายามทอดสะพานสร้างความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกา ที่น่าจะเป็นฟางชิ้นสุดท้ายที่ประธานเหมาทนไม่ได้จึงมีข่าวลือตอนนั้นว่า “หลิน เปียว ต้องไป”
มีทางเดียวที่ไม่ทำให้ทหารผู้ภักดีต่อเขาลุกฮือขึ้นมา คือ ทำโฆษณาชวนเชื่อว่า หลิน เปียว เป็นผู้ทรยศแปรพักตร์ไปหามอสโก และระหว่างหลบหนีเครื่องบินตกตาย ซึ่งพิสูจน์ว่า มันได้ผลและสะดวกมากกว่า วิธีเผชิญหน้า เครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เคยยกย่องสรรเสริญ หลิน เปียว เป็นผู้นำระดับสูงของประเทศเมื่อสองปี ก่อนเปลี่ยนมาเป็นการประณามเขาว่าเป็นผู้ทรยศต่อการปฏิวัติ เหมือนที่พรรคเคยทำกับคนอื่นๆ ที่มีสงสัยว่าไม่เป็นคุณต่อผลประโยชน์ของพรรค และการโฆษณาชวนเชื่อเช่นนั้นทำให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนสามารถหยุดยั้งการปฏิวัติวัฒนธรรมลงได้ (:ปฏิวัติวัฒนธรรมในจีนปี 1966 ถึง 1976 ไม่ตัวเลขผู้เสียชีวิตเป็นทางการแต่ประมาณการว่ามีคนตายประมาณยี่สิบล้านคนข้อมูล : วิกิพีเดีย:)
ผู้นำอำนาจนิยมขจัดคู่แข่งให้พ้นทางได้หลายวิธีเครื่องบินตกเป็นทางเลือกที่อ่อนไหวเปราะบาง แต่มันได้ผลแน่นอน
และการกระทำวิธีนี้มักโยนความผิดไปที่เครื่องยนต์ขัดข้องหรือเหตุผลอื่นๆ ที่ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น และในเวลาเดียวกันมันทำให้สาธารณชนหันไปสนใจกับเสียงระเบิดกลุ่มควันจากการเผาไหม้ เปิดโอกาสให้ผู้มีอำนาจมีเวลาบิดเบือนเรื่องราว และเล่าเรื่องเสียหายของผู้ที่ตายไปด้วย สำหรับประธานเหมาเครื่องบินตกเป็นแนวทางที่ขจัดหลิน เปียวไปพร้อมๆ กับการเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อ หลิน เปียว จากผู้นำที่น่าศรัทธาเป็นผู้นำที่ทรยศ
ยังมีเรื่องอีกมากมายที่เราไม่รู้เกี่ยวกับเครื่องบินของเยฟเกนี พริโกซิน ตก รู้แต่เพียงว่าเขามีชื่อยู่ในบัญชีผู้โดยสารเที่ยวบินนั้น แต่นั่นไม่ใช่สิ่งยืนยันว่าเขาอยู่บนเครื่องบินลำนั้น เอาล่ะเหมาเอาว่าเขาอยู่ในเครื่องบินมรณะ มันก็มีความเป็นไปได้สูงที่เครื่องบินไม่ได้ตกเพราะอุบัติเหตุ รายงานจากหลายแหล่งเชื่อว่า เครื่องบินถูกยิงตกโดยจรวดต่อต้านอากาศยานของรัสเซีย หากพริโกซินอยู่ในเครื่องบินมรณะนั้น มันก็ตกเป็นเป้าหมายเหมือนเครื่องบินหลิน เปียว พริโกซินถูกขจัด ในภาวะและสถานการณ์คลุมเครือยากจะพิสูจน์ได้ และความสนใจของสาธารณชนถูกเบี่ยงเบนไปกับเรื่องเล่าก่อนหน้าว่า พริโกซินเป็นผู้มีอิทธิพลมีอำนาจที่บังอาจท้าทายการปกครองของปูติน ซึ่งนำไปสู่ความล้มเหลวของผู้ทรยศ
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเหตุการณ์เครื่องบินตกต้องกลายเป็นสารจากปูตินส่งไปถึงผู้ที่คิดจะยึดอำนาจคนอื่นๆ ว่า การกระทำสิ่งนั้นคือ เสี่ยงต่อชีวิตคุณเอง ผู้สังเกตการณ์รัสเซียบางคนเชื่อว่าชื่อของพริโกซินอยู่ในบัญชีผู้สูญหายก่อนตายหรือก่อนหน้าเป็นศพ ในกรณีเครื่องตกครั้งนี้ แต่หากเขายังไม่ตาย เป็นทางสะดวกสำหรับเขาที่จะปลดระวาง หรือไม่หายสาบสูญไปนั้นเป็นวิธีที่รักษาหน้าอีกฝ่าย ปูตินไม่อาจปล่อยให้พริโกซินลอยนวลอยู่ได้ จากผลตามมาของการท้าทายโดยตรงต่ออำนาจเครมลิน
อีกไม่กี่อาทิตย์ต่อจากนี้ไปเราควรคาดหมายว่า ต้องมีพัฒนาการหลายอย่างถึงความเป็นไปได้ พริโกซินน่าจะถูกประกาศว่าตายแล้ว ไม่สำคัญว่าเขาตายจริงหรือไม่ เพราะนี้มันเป็นการสะดวกที่เครมลินอธิบาย ส่วนสาเหตุการตายคือเครื่องยนต์ขัดข้อง จากอาวุธต่อต้านอากาศยานของรัสเซีย หรือ นาโต หรือ อาวุธต่อต้านอากาศยานของยูเครนยิง ขึ้นอยู่กับว่าเครมลินต้องการให้คู่ขัดแย้ง อื่นๆ รู้แค่ไหนในชะตากรรมของพวกเขา ถ้าพวกเขาตั้งใจให้เหมือนกับตอนที่วากเนอร์พาเหรดไปมอสโก และมันก็ขึ้นอยู่กับการอธิบายอย่างเป็นทางการ ไม่ว่าจะเล่าเรื่องทางทิศไหน นี่มันเป็นอุบัติเหตุเศร้าใจ
อย่างไรก็ตามบัดนี้สื่อมวลชนนานาชาติโฟกัสเรื่องเบื้องหลังการตายของพริโกซิน มากกว่าปัญหายูเครนที่ยืดเยื้อมานานถือเป็นชัยชนะอย่างหนึ่งในการโฆษณาชวนเชื่อของมอสโก
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ามอสโกจะดราม่าเรื่องเครื่องบินตกอย่างไร รับประกันได้ว่าผู้สนับสนุนพริโกซินจะไม่ลุกฮือขึ้นประท้วงอีก เครมลินก็เหมือนกับรัฐบาลอำนาจนิยมจำนวนมาก ที่เราไม่รู้การทำงานลับ งานใต้ดินของพวกเขา เมื่อมองย้อนกลับดูประวัติศาสตร์จีน ทำให้เราเห็นร่องรอยสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวว่า มีความหมายอย่างไรต่ออนาคตรัสเซีย
ทั้งหมดคือปฏิบัติการข่าวของซีไอเอ ที่โจมตีทั้งจีนและรัสเซียในเวลาเดียวกัน โดยใช้เหตุการณ์เครื่องบินของพริโกซินตก เป็นข้ออ้างในการกล่าวหาว่า ผู้นำอำนาจนิยมขจัดศัตรูทางการเมืองด้วยวิธีรุนแรงโหดร้าย โดยที่ยังไม่ชัดเจนว่าเกิดอุบัติเหตุหรือเป็นการกระทำโดยฝ่ายไหน
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี