ถืออยู่ในมือท่านฉบับนี้คือ หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com ทุกบรรทัด ตรงไป ตรงมา...nn เรื่องหนี้ถือเป็นปัญหาของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะกลุ่ม เกษตรกร ที่ประสบปัญหาเรื่องหนี้สินจำนวนมาก พอๆกับพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติ ถึงแม้จะมีสารพัดยาเข้าไปรักษาหลายขนาน โดยหมอแต่ละสำนัก รักษาตรงจุดบ้าง ไม่ตรงจุดบ้าง (ฮา) แต่สุดท้าย เกษตรกรหลายรายก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากวงจรหนี้ไปได้ !!!!...
nn รัฐบาลของ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ก็ตัดสินใจใช้ยาขนานเดิมที่เคยประสบความสำเร็จเมื่อ 20 กว่าปีก่อน คือ “โครงการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี”ซึ่งถือเป็นการนำมา “ทะลุมัลติเวิร์ส” ใช้ในยุคที่โซเชียลมีเดีย ครอบงำไปทุกหย่อมหญ้า จนใครๆก็สามารถเป็นสื่อเพื่อชี้ถึงความผิดปกติต่างๆได้...
nn นายกฯเศรษฐา บอกว่ามาตรการพักหนี้เกษตรกร ถือเป็นมาตรการเร่งด่วน ที่รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะทำให้ได้ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยจะพักทั้งต้นและดอก ควบคู่กับการปรับโครงสร้างการผลิต เพื่อปลูกพืชตามความต้องการของตลาดโลก โดยตระหนักถึงภาวะโลกเดือด ควบคู่กับการถ่ายทอดองค์ความรู้...
nn อาทิ การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินและการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะเป็นมาตรการที่ฟื้นฟูจิตใจเกษตรกรให้มีแรงใจในการทำมาหากินอย่างมีเกียรติ และศักดิ์ศรี โดยจะคำนึงถึงวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด...
nn ด้าน โฆษกชัย วัชรงค์ บอกว่าตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566-30 กันยายน 2567 จะเริ่มโครงการพักชำระหนี้ให้เกษตรกรรายย่อย ทั้งหมด 2.7 ล้านราย ทั้งนี้ หากเกษตรกรรายใดที่มีความสามารถในการชำระหนี้และสามารถชำระหนี้ได้เร็ว ก็สามารถจ่ายเพียงเงินต้นเท่านั้น...
nn ส่วนดอกเบี้ยรัฐบาลจะช่วยจ่ายให้ และการชำระทุกๆ 1,000 บาทนั้นจะมีสลากให้ หากถูกสลากก็จะนำรางวัลที่ได้ไปตัดยอดชำระหนี้ได้ เพราะฉะนั้นผู้ที่มีวินัยการเงินการคลังดีมาก พร้อมจะชำระ ก็จะได้รับประโยชน์กับโครงการนี้...
nn ส่วน เสี่ยหนิม - จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวด้วยว่าการทำมาตรการพักหนี้ในครั้งนี้กระทรวงการคลังได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีข้อเสนอแนะ 2 ข้อคือ ไม่อยากให้เป็นมาตรการระยะสั้น และไม่อยากให้เป็นมาตรการในลักษณะหว่านแห ดังนั้น มาตรการพักหนี้ในครั้งนี้จึงออกแบบมาให้เป็นมาตรการระยะสั้นและให้ลูกหนี้เลือกเข้ามาตรการได้เอง...
nn สำหรับการกำหนดหลักเกณฑ์ผู้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า เรากำหนดเกณฑ์ลูกค้าที่เข้าร่วมมีมูลหนี้ไม่เกณฑ์ 3 แสนบาท เพราะโดยเฉลี่ยลูกค้ารายย่อย ธ.ก.ส.มีมูลหนี้รายละ 3.4 แสนบาท ซึ่งคาดว่าจะมีลูกค้าเข้าร่วมมาตรการกว่า 70% ส่วนที่เหลือไม่ได้พักหนี้ให้ 40% เป็นลูกค้าเกษตรกรกลุ่มแข็งแรง และธนาคารมีการสร้างแรงจูงใจในการชำระหนี้ เช่น ชำระดีมีโชค เป็นต้น...
nn มีเสียงสะท้อนจาก จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อและรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การพักหนี้เป็นเหมือนยาแดง แต่สิ่งที่อยากเห็น คือ การพักหนี้ระยะยาวการพักหนี้มีระยะเวลาเพียง 3 ปี แต่หากรัฐบาลคิดจะอยู่ 4 ปี แล้วปีที่ 4จะทำอย่างไร อีกทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย ก็เคยมีการศึกษาว่า การพักหนี้จะทำให้เกษตรกรเป็นหนี้เพิ่ม ถึง 70% ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องตระหนักและแก้ปัญหาไว้ล่วงหน้า...
nn ส่วนนักวิชาการ นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)เห็นว่า แนวทางในการแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรต้องพยายามแก้ที่เงินต้น คือควรพักเงินต้น 50-60% ที่เหลือ 40% เป็นการลดดอกเบี้ย จะทำให้เงินต้นเริ่มลดลงได้ซึ่งจะทำให้เกษตรกรหลุดพ้นกับดักหนี้ได้ ส่วนลูกหนี้ดีควรจะลดดอกเบี้ยให้แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องชำระเงินต้นเพิ่ม ซึ่งจะทำให้หนี้เกษตรกรโดยรวมลดลงได้...
nn โสมรัศมิ์ จันทรัตน์ ผอ.การวิจัยสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ระบุว่ามาตรการพักหนี้ 3 ปีที่กำลังออกมา ต้องดูความชัดเจนว่าจะให้ใคร หรือให้ทั้งหมด มีวิธีที่จะทำให้คนที่มีประวัติการชำระหนี้ดีไม่เข้ามาตรการหรือไม่ อย่างไรก็ตาม มองว่ามาตรการพักหนี้มีได้แต่ไม่ควรทำแบบเดิมเพราะในอนาคตแนวโน้มลูกหนี้เรื้อรังจะมีมากกว่ากลุ่มหนี้เสียขณะที่การทำมาตรการพักหนี้แบบเดิมอาจทำให้ลูกหนี้ดีกลายเป็นลูกหนี้เรื้อรังได้...
nn “มือปราบ” ก็เห็นใจบรรดาเกษตรกรที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ซึ่งแบกภาระหนี้สินจนหลังแอ่น และเข้าใจถึงรัฐบาลแทบทุกชุดที่มีนโยบายประคับประคองให้เกษตรกรลุกขึ้นสู้จากปัญหาหนี้สินที่รุมเร้าเพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าเป็นแหล่งผลิตอาหารดูแลพลเมืองของโลกที่มีอยู่เกือบ 8 พันล้านคน...
nn อย่างไรก็ตาม การดำเนินการเพื่อการช่วยเหลือนั้น จำเป็นจะต้องสร้างมาตรการเพื่อจูงใจให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการมีวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด เพื่อที่จะให้สามารถหลุดพ้นวงจรการเป็นหนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ใช่แค่เป็นโครงการเพื่อให้เกษตรกรตกอยู่ในวงจรทางการเมือง เพื่อเอาเรื่องหนี้มาเป็นเงื่อนไขในการหาคะแนนเสียงเท่านั้น !!!...
nn บรรทัดนี้ พี่น้องชาวกระบี่ ตัดพ้อไปยัง เสี่ยหนู-อนุทินชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เจ้าของสโลแกน“พูดแล้วทำ” เพราะเคยไปปราศรัยที่จังหวัดกระบี่มีพวงสะตอห้อยคอเป็นสักขีพยานว่า“ถ้ากระบี่ พรรคภูมิใจไทย ได้สส.ยกจังหวัด ก็จะมีรัฐมนตรี 1 ที่นั่ง” แต่ตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว ถ้าเกิดวันหน้า อนุทิน ไปเยือนกระบี่ระวังชาวบ้านจะประชดประชัน เอา“แห้ว”ให้อนุทิน เพื่อเตือนความจำที่พูดไว้ว่าอย่าให้กลายเป็นแห้ว...
nn ครับ ขุนพลภูมิใจไทยของจังหวัดกระบี่ คือสส.สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ยังทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งหลังนำลูกทีมกระบี่เข้าสภายกจังหวัดทั้งยังไปช่วยพื้นที่อื่นด้วย แม้ภูมิใจไทยไม่ได้ดูกระทรวงการท่องเที่ยวฯ แต่สส.สฤษฏ์พงษ์ ก็ยังประสานงานต่อเนื่องเพราะการท่องเที่ยวเป็นหัวใจหลักของภาคใต้...
nn ครับงานนี้ภูมิใจไทย ต้องเยียวยาแว่วๆ มาว่าจะให้ สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ไปเป็นประธานคณะกรรมาธิการแรงงาน ของสภาผู้แทนราษฎร ก็ขอภาวนาให้เป็นไปตามนั้น เมื่อถึงคราวปรับครม.กันใหม่ชาวกระบี่ก็ต้องลุ้นกันอีกยก...nn สวัสดีครับ
มือปราบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี