วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
สัปดาห์นี้ “ที่นี่แนวหน้า” ขอนำสารจาก มาร์คัส รัค (Markus Ruck) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบความมั่นคงทางสังคม องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ที่กล่าวในงาน “โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ งานที่มีคุณค่าและการคุ้มครองทางสังคม ปฏิบัติการเพื่อศักดิ์ศรีสำหรับทุกคน” ณ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) เนื่องใน“วันสากลแห่งการขจัดความยากไร้” เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2566 มานำเสนอกับท่านผู้อ่าน ซึ่งการมีงานทำอย่างมีคุณค่า และมีระบบความคุ้มครองทางสังคม เป็นกลไกสำคัญในการแก้ปัญหาความยากจน
ความยากจนไม่เพียงแต่เกี่ยวกับการขาดแคลนรายได้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัจจัยหลายมิติ เช่น สุขภาพ การศึกษา ความมั่นคง และการไม่ถูกแบ่งแยกทางสังคม ความยากจนมักกักขังบุคคลและรุ่นต่อรุ่นไว้ในวงจรที่ดูเหมือนจะไม่มีวันแตกหัก สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาความยากจนอย่างต่อเนื่อง การขาดสภาพการทำงานที่ดีและการคุ้มครองทางสังคมทำให้เกิดความไม่มั่นคงที่ปฏิเสธไม่ให้พวกเขารับผิดชอบชีวิตของตนเอง และต้องเผชิญกับการแสวงหาผลประโยชน์ ความอัปยศอดสู และ
ความรู้สึกไร้ประโยชน์ที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในชุมชน
“ในทศวรรษหน้า ธนาคารโลก (World Bank) ประเมินว่าคนหนุ่มสาว 1 พันล้านคน จะพยายามเข้าสู่ตลาดงาน แต่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งจะได้งานอย่างเป็นทางการจริงๆ ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากความยากจนขั้นรุนแรงจะต้องเผชิญกับการเลือกปฏิบัติ ไม่สามารถได้งานที่มีคุณภาพ เนื่องจากสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม ระดับการศึกษาและการฝึกอบรมที่ต่ำกว่าที่ได้รับ รวมถึงการตีตราจากการเป็นคนยากจน ในวันสากลแห่งการขจัดความยากไร้ ปี 2566 นี้เราจึงเน้นย้ำถึงความเชื่อมโยงที่ใกล้ชิดระหว่างงานที่มีคุณค่าและการคุ้มครองทางสังคม”
ILO ให้นิยาม “งานที่มีคุณค่า (Decent Work)” ว่าเป็น “งานที่สร้างสรรค์สำหรับผู้หญิงและผู้ชายภายใต้ เงื่อนไขของเสรีภาพ ความเสมอภาค ความมั่นคง และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” งานที่มีคุณค่าจะต้องเข้าใจในบริบทของชีวิตที่มีศักดิ์ศรีและจัดการกับมิติที่ซ่อนอยู่ของความยากจน การปฏิบัติที่ไม่ดีทางสังคมและสถาบัน การมีส่วนร่วมที่ไม่ได้รับการยอมรับซึ่งตัดทอนอำนาจผู้คนที่อยู่ในความยากจน และก่อให้เกิดความทุกข์ทางร่างกายและจิตใจ
ในการจัดการกับมิติที่ซ่อนเร้น การทำงานที่มีคุณค่าจะช่วยต่อสู้กับการกีดกันทางสังคม และส่งเสริมการทำงานร่วมกันโดยการเชิญชวนบุคคลที่ถูกกีดกันผู้ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังให้กลับเข้าสู่ชีวิตสาธารณะ โดยจัดให้มีสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนบริบทที่ไม่เป็นการตัดสิน ซึ่งช่วยให้บุคคลที่ถูกแยกออกไปเข้าถึงงานที่เหมาะสมในสถานที่ใกล้กับที่พวกเขาอาศัยอยู่
“งานที่มีคุณค่าจะเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกันโดยการยอมรับคนงานในฐานะผู้ถือสิทธิ์ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนและได้รับการศึกษาและการฝึกอบรมที่จำเป็นในการทำงาน มีสิทธิได้รับค่าจ้างที่ยุติธรรม ประกันสังคม และสภาพการทำงานที่ปลอดภัย งานที่มีคุณค่าคืองานที่ส่งเสริมคนงานและช่วยให้พวกเขาสามารถควบคุมรายได้ที่ได้รับได้”
สำหรับ “การคุ้มครองทางสังคมอย่างถ้วนหน้า (Universal Social Protection)” ทุกคนรวมถึงผู้ที่อยู่นอกกำลังแรงงาน (เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่ไม่สามารถทำงานได้) มีสิทธิ์ได้รับความมั่นคงทางรายได้และการเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่จำเป็น เพื่อป้องกันปัญหาความยากจนและปัจจัยเสี่ยงต่อการดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี โดยคำแนะนำของ ILO ฉบับที่ 202 ระบุเกณฑ์การคุ้มครองทางสังคมระดับชาติ ว่า ควรประกอบด้วย 4 ประการต่อไปนี้
1.การเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่จำเป็น รวมถึงการดูแลการคลอดบุตร 2.ความมั่นคงรายได้ขั้นพื้นฐานสำหรับเด็ก การให้การเข้าถึงโภชนาการ การศึกษา การดูแล และสินค้าและบริการที่จำเป็นอื่นๆ 3.หลักประกันรายได้ขั้นพื้นฐานสำหรับบุคคลในวัยกระฉับกระเฉง(วัยทำงาน) ที่ไม่สามารถหารายได้เพียงพอ โดยเฉพาะกรณีเจ็บป่วย การว่างงาน การคลอดบุตร และทุพพลภาพ และ 4.หลักประกันรายได้ขั้นพื้นฐานสำหรับผู้สูงอายุ
การจัดการกับความยากจนต้องใช้แนวทางที่หลากหลายซึ่งเกี่ยวข้องกับการผสมผสานระหว่างนโยบาย โครงการ และความพยายามของชุมชน ควรมุ่งเน้นไปที่การจัดหาเครื่องมือ ทรัพยากร และโอกาสที่บุคคลและครอบครัวจำเป็นต้องใช้ในการหลบหนีความยากจน หลุดพ้นจากความยากจน และปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพวกเขา ประเด็นการดำเนินการบางประการจากมุมมองของวาระการทำงานที่มีคุณค่าเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน
คือ 1.ส่งเสริมนโยบายและกลยุทธ์ที่กระตุ้นการสร้างงาน โดยเฉพาะในภาคส่วนที่มีศักยภาพสูงในการได้รับโอกาสในการทำงานที่ดี ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และการเป็นผู้ประกอบการ 2.ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคนงานสามารถเข้าถึงสิทธิแรงงานขั้นพื้นฐาน รวมถึงค่าจ้างที่ยุติธรรม สภาพการทำงานที่ปลอดภัย สิทธิในการจัดตั้งและเข้าร่วมสหภาพแรงงาน
3.สร้างชั้นการคุ้มครองทางสังคมซึ่งประกอบด้วยชุดหลักประกันประกันสังคมขั้นพื้นฐานที่กำหนดไว้ในระดับชาติ ซึ่งให้ความคุ้มครองที่มีจุดมุ่งหมายในการป้องกันหรือบรรเทาความยากจน การรับประกันเหล่านี้ควรรับประกันอย่างน้อยว่าตลอดวงจรชีวิต ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือทุกคนจะสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นและความมั่นคงทางรายได้ขั้นพื้นฐาน 4.การพัฒนาทักษะและการศึกษา ลงทุนด้านการศึกษาและจัดเตรียมทักษะที่จำเป็นให้กับพนักงานเพื่อเข้าถึงโอกาสในการทำงานที่ดีขึ้น
5.ส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศในสถานที่ทำงาน จัดการกับช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศ สร้างความมั่นใจในการเข้าถึงโอกาสและผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน
6.มุ่งเน้นไปที่การจัดการการจ้างงานของเยาวชนโดยการสร้างโอกาสให้เยาวชนเข้าถึงงานที่มีคุณภาพ และการฝึกงาน 7.พัฒนานโยบายและความริเริ่มในการเปลี่ยนคนงานจากเศรษฐกิจนอกระบบ ไปสู่เศรษฐกิจในระบบ 8.สนับสนุนค่าจ้างที่เป็นธรรมและเหมาะสม เพื่อให้คนงานและครอบครัวมีมาตรฐานการครองชีพที่ดี
9.ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบครอบคลุม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทุกส่วนของสังคม ลดความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ และสร้างความมั่นใจว่ากลุ่มเปราะบาง-ชายขอบ สามารถเข้าถึงโอกาสในการทำงานที่ดี 10.ดำเนินนโยบายด้านเครื่องหมายการค้าแรงงานเชิงรุก เช่น การบริการจัดหางาน โครงการพัฒนาทักษะ และการสนับสนุนแรงงานที่เผชิญกับการถูกไล่ออกเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
11.ส่งเสริมการเจรจาทางสังคมและความร่วมมือระหว่างรัฐ นายจ้างและคนงาน เพื่อพัฒนานโยบายและกลยุทธ์ที่พัฒนาวาระการทำงานที่มีคุณค่า และการจัดการความยากจนอย่างมีประสิทธิภาพ 12.ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดและประสานงานความพยายามในการจัดการกับความยากจนและส่งเสริมการทำงานที่มีคุณค่าในระดับโลก และ 13.สร้างกลไกในการติดตามและประเมินความก้าวหน้า ในการบรรลุเป้าหมายของวาระงานที่มีคุณค่า รวมถึงการลดความยากจน

'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้
'ปราชญ์ สามสี'ฟาด! 'พรรคส้ม' ใช้ 'สองมาตรฐาน' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค
ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่
'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น
'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี