คอลัมน์นี้ เคยรายงานว่า วันนี้ชาวอิสราเอลสามัคคีร่วมมือร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อต่อสู้กับฮามาสปีกติดอาวุธของปาเลสไตน์ และเมื่อเหตุการณ์ร้ายผ่านไปประชาชนจะระเบิดความโกรธแค้นใส่รัฐบาลขวาสุดโต่งที่ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพและคอร์รัปชั่น และแล้วความโกรธแค้นชิงชังต่อรัฐบาลเนทันยาฮู ก็เกิดขึ้นเร็วเกินคาดหมายถึงเมื่อประชาชนจำนวนมากเริ่มส่งเสียงไล่รัฐบาล สำนักข่าวรอยเตอร์สและแหล่งข่าวในประเทศอิสราเอล กล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงาน เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ว่า ซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยี ผู้ผลิตยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ออกปากขับไล่รัฐบาลผสมนายเบนจามิน เนทันยาฮู ที่กำลังถล่มกาซา ทั้งทางเรือ ทางบกและทางอากาศซึ่งเป็นเหตุให้ชาวปาเลสไตน์ ที่แออัดยัดเยียดกัน อยู่บนพื้นที่เพียง 365 ตารางกิโลเมตร ในฉนวนกาซาตายไปแล้วกว่า 8,000 คน
รอยเตอร์สให้รายละเอียดว่าเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม นายอัมโนน ชาชัว ประธานบริหารบริษัท Mobileye (MBLY.O) หนึ่งในบริษัทชั้นนำในประเทศอิสราเอล เรียกร้องให้“ขับไล่นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูและรัฐบาลของเขาออกไปในทันที”
ชาชัว เป็นบุคคลชั้นนำในบริษัทเอกชนผู้มีอิทธิพลมากคนหนึ่ง ที่ออกมาประณามนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในที่สาธารณะ กล่าวว่า“รัฐบาลเนทันยาฮูล้มเหลว และ มีความผิด ทำงานไม่สอดคล้องกันในพรรคร่วมรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ ที่ปล่อยให้ฮามาสตะลุยข้ามชายแดนจากกาซาเข้ามาถล่มฆ่าทำลายล้างอิสราเอล
วันแห่งความตาย วันที่ 7 ตุลาคม ” นายชาชัว เขียนแสดงความคิดเห็นในบทบรรณาธิการคาลคาลิสต์ (Zcalcalist) ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล เดลีย์
สื่อทั่วโลกรายงานว่าในวันที่ 7 ตุลาคม มีคนจากหลายสัญชาติถูกฆ่าตายในอิสราเอลถึง 1,400 คน และถูกจับเป็นตัวประกันเกือบ 300 คน ในจำนวนนี้ มีคนไทย
ถูกฆ่าตาย 32 คน ได้รับบาดเจ็บ 22 คน และถูกจับเป็นตัวประกัน 19 คน รอยเตอร์สรายงานด้วยว่านายเนทันยาฮูสร้างความอัปยศให้ตัวเอง ในวันอาทิตย์ที่30 ตุลาคม เมื่อเขาโทษหัวหน้าหน่วยข่าวกรองว่า“พวกเขาไม่เคยรายงานว่า ฮามาส เตรียมการเข้าโจมตี” แต่ภายหลัง เขากลับคำพูด และ ขอโทษอย่างเป็นทางการ
นายชาชัวออกความเห็นเพิ่มเติมแก่ไฟแนนเชียลเดลีย์ว่า...“รัฐบาลดูเหมือนว่ากังวลเรื่องความอยู่รอดทางการเมืองมากกว่าความอยู่รอดของประเทศชาติ...เราต้องตัดนิ้วร้ายออกไปและต้องทำอย่างรวดเร็ว ข้อสรุปอย่างเดียวกับสถานการณ์ในขณะนี้ที่ทำได้ คือ จัดตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมาแทน เราสามารถเปลี่ยนรัฐบาลได้โดยไม่ต้องเลือกตั้งใหม่ เพื่อลดทอนความสับสนวุ่นวาย ด้วยการฟอร์มรัฐบาลผสมชุดใหม่ จากพรรคการเมืองที่มี สส.อยู่ในสภาขณะนี้”
นายเนทันยาฮูไม่ได้แสดงความรับผิดชอบในความล้มเหลวของข่าวกรองและปฏิบัติการตอบโต้ฮามาส เพียงแต่กล่าวว่า ยังมีเวลาอีกมากที่ตั้งคำถามร้ายแรงต่อเขาหลังจากสงคราม ส่วนคำวิจารณ์ที่ว่ารัฐบาลกังวลเรื่องการอยู่รอดของรัฐบาลมากกว่าการอยู่รอดของประเทศชาตินั้น เพราะว่านายเนทันยาฮู กำลังประสบกับวิกฤตร้ายแรงที่สุดในชีวิตการเมืองเนื่องจากว่าเขาถูกฟ้องข้อหาคอร์รัปชั่นและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 เขาจึงพยายามอยู่ในอำนาจต่อไปเพื่อได้ชะลอการตัดสินคดี...
... “เนทันยาฮู ยังต้องสู้คดีในศาลต่อไป แต่การพิจารณาคดีล่าช้าเพราะศาลสั่งเลื่อนการพิจารณาคดีครั้งแล้วครั้งเล่า” แหล่งข่าวกล่าวกับ แนวหน้า
ส่วนประเด็นที่นายชาชัวโจมตีว่า รัฐบาลผสมบริหารงาน ไม่สอดคล้องกันนั้น เป็นเพราะว่านายเนทันยาฮูรวบอำนาจบริหารประเทศ และสั่งการบริหารเรื่องสำคัญๆ ไว้เพียงผู้เดียว
ถึงตอนนี้อยากให้ติ่งส้มและนักวิชาการร่านวิชาทั้งหลาย ได้เข้าใจว่า ไม่ใช่ มีแต่ในประเทศไทยที่พรรคชนะเลือกตั้งได้สส.เข้าสภามากกว่าพรรคใดๆ แต่ไม่ได้เป็นรัฐบาล ในประเทศอิสราเอล ก็เหมือนกันพรรคลิคุดของนายเนทันยาฮู ชนะเลือกตั้งได้ สส.เพียง 32 คน จากจำนวน สส.120 คน ของสภาอิสราเอล
ในขณะที่พรรคเสรีนิยม โดยการนำของ นายยาอีร์ ลาปิด ชนะเลือกตั้ง เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2565 ได้ สส.เข้าสภาถึง 51 ที่นั่ง แต่นายยาอีร์ ผู้นำพรรคเสรีนิยม เป็นฝ่ายค้าน
ส่วนนายเนทันยาฮู ที่ได้ 32 ที่นั่ง เมื่อรวมเสียงเข้ากับพรรคยิวอัลตรา-ออร์โธดอกซ์และพรรครีลิเจียดไซออนิสต์ได้ สส.65 ที่นั่ง เกินครึ่งหนึ่งของสภาพรรคลิคุด จึงเป็นแกนนำรัฐบาล และ นายเนทันยาฮู เป็นนายกรัฐมนตรีจนวันนี้
แหล่งข่าว ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าสำนักข่าวยูพีไอ ที่ไปตั้งรกรากในประเทศอิสราเอลกว่าสองทศวรรษ กล่าวกับแนวหน้าว่า... “ไม่ใช่มีแต่นายชาชัวที่ขับไล่รัฐบาลออกหน้า เวลานี้โซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยข้อความขับไล่รัฐบาลเนทันยาฮู ชาวอิสราเอลหลายล้านคน ที่ต้องการให้รัฐบาลเนทันยาฮูออกไปเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ แต่ระหว่างสงครามการเปลี่ยนรัฐบาล ทำได้ยากกว่าในสถานการณ์ปกติ”
แหล่งข่าวผู้เคยบอก กับ แนวหน้า ว่า วันนี้คนอิสราเอลรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อต่อสู้กับฮามาส แต่เมื่อเหตุร้ายผ่านไปชาวอิสราเอล จะระเบิดความโกรธแค้นใส่รัฐบาลที่ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ และ คอร์รัปชั่น
“ประชาชนไม่มีวันให้อภัยแก่รัฐบาลที่ปล่อยประชาชนร้องความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวังนานกว่าเจ็ดชั่วโมง และเวลานี้ประชาชนเริ่มชุมนุมต่อต้านรัฐบาลบ้างแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวผู้ถูกจับเป็นตัวประกันกังวลในมาตรการช่วยเหลือตัวประกัน”
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่าเธออยากส่งข้อความต่างๆในโซเชียลมีเดียมาให้ผู้เขียนดูแต่จนใจที่ว่าข้อความขับไล่รัฐบาลทั้งหมด เขียนเป็นภาษาฮิบรู จึงได้แต่ส่งภาพที่มีมือเปื้อนเลือดลูบหน้าเนทันยาฮูมาให้ดูเพื่อยืนยันว่าคนจำนวนมากอยากขับไล่รัฐบาลเนทันยาฮู
จึงคาดการณ์ได้ว่า หากสงครามไม่ขยายวงออกไปและสงบลงได้เร็ววัน รัฐบาลเบนจามิน เนทันยาฮู กับรัฐบาลโย่งถุงเท้าแดง ต้องเดินออกจากทำเนียบรัฐบาลในเวลาไล่เลี่ยกัน
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี