“ดีที่กรรมการบริหารพรรค (ปชป.) ไม่ยอมร่วมทำงานกับรัฐบาลพรรคนั้น ประกอบกับเจ้าของพรรคที่ว่าไม่รับ สส.บางส่วน ซึ่งเป็นส่วนมากเข้าร่วมรัฐบาล” ท่านชวนกล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะการเมืองไม่สุจริต
ถึงตอนนี้ ท่านชวนให้สติว่า ในฐานะที่เราเป็นสื่อ ควรทำความเข้าใจกับประชาชนว่าเจ้าของพรรคการเมืองนั้น สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติมากแค่ไหน ในการทุจริตคอร์รัปชั่นทั้งทางนโยบายและทุจริตคอร์รัปชั่นทางตรงที่สำคัญต้องช่วยรณรงค์ให้ชาวบ้านเข้าใจว่าพรรคนั้นกลั่นแกล้งคนใต้อย่างไร...
...“ผมเป็นหนี้บุญคุณคนใต้ที่ไม่เลือกพรรคนั้นตลอดเวลายี่สิบปีที่ผ่านมา เพราะว่าคนใต้เชื่อเรื่องที่เรารณรงค์ว่าพวกเขาเอาเปรียบคนใต้อย่างไร งบประมาณพัฒนาแทบไม่ลงภาคใต้เลย แล้วพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมงานกับพรรคนั้นได้อย่างไร...”
ท่านชวน มอบหนังสือที่ท่านดำริให้ทำขึ้นมาเล่มหนึ่งชื่อว่า “สุจริตชน เพื่อเสริมสร้าง บ้านเมืองสุจริต”หนังสือเล่มนี้ จัดทำขึ้นโดยสถาบันพระปกเกล้า โดยการดำริของนายชวน หลีกภัย ในฐานะประธานสถาบันพระปกเกล้า เป็นหนังสือ มีความหนา ๑๑๗ หน้าที่บรรยายถึงการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การยึดมั่นในคุณธรรมจริยธรรม การมีจิตสำนึกที่ดี การมีจิตสาธารณะ ความมีวินัยและเคารพกฎหมาย และอื่นๆ ดูจากสารบัญแล้วมีอยู่ ๓๖ หัวข้อ
ท่านแนะนำให้ผู้เขียนช่วยเผยแพร่หนังสือเรื่อง “สุจริตชน เพื่อเสริมสร้าง บ้านเมืองสุจริต” เพื่ออย่างน้อยได้ปลุกจิตสำนึกสังคมไทยตลอดถึงนักการเมืองให้มีคุณธรรมจริยธรรมขึ้นมาได้บ้างไม่มากก็น้อย โดยหนังสือเริ่มต้นจาก “การยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หน้าแรกจึงเป็นพระบรมราโชวาทของ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ ๖ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๑๒ ซึ่งมีความตอนหนึ่งว่า...“ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองเป็นปรกติเรียบร้อยจึงไม่ใช่ทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากอยู่ที่การส่งเสริมให้คนดีได้ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวาย...”
ดังนั้น หากเราเคารพรักเทิดทูนในหลวงรัชกาลที่ ๙ คนไทยต้องส่งเสริมให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวาย...”
หน้าต่อมา กล่าวถึงพระบรมราโชวาทในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ในพิธีพระราชทานประกาศนียบัตร ทุน และรางวัล ของวชิราวุธวิทยาลัยประจำปีการศึกษา ๒๕๕๘ ณ วชิราวุธวิทยาลัย วันอังคารที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ความตอนหนึ่งว่า
“...การจะเป็นคนเก่งจริงและดีจริงนั้น ต้องเป็นให้ตลอดกล่าวคือ ไม่ว่าอยู่ที่ใด ในสถานะใดก็ตาม ต้องตั้งตัวตั้งใจให้มั่นคงหนักแน่น ที่จะประพฤติตนปฏิบัติงานทุกอย่าง โดยยึดมั่นในความดีและความถูกต้องเสมอไป...”เนื่องจากหนังสือ “สุจริตชน เพื่อเสริมสร้าง บ้านเมืองสุจริต” ได้บรรยายถึงความดี คุณธรรมจริยธรรมไว้มากเพื่อให้เหมาะกับเนื้อที่ จึงจำเป็นต้องตัดเอาตอนสำคัญมาเสนอเป็นช่วงๆ
ในหน้า ๒๖ บางตอนได้บรรยายถึงทศพิธราชธรรม ของบูรพกษัตริย์ในราชวงศ์จักรีว่า...รากฐานสำคัญที่ทำให้สังคมไทยยังคงธำรงมาจนวันนี้ ย่อมเกิดจากบุญคุณของแผ่นดินและบรรพบุรุษไทยทั้งสิ้น ซึ่งจากสิ่งที่กล่าวมาในส่วนนี้ สะท้อนให้เห็นว่ากว่าประเทศไทยจะมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงประมุขนั้น บรรพบุรุษของไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ เป็นหลักสำคัญในการผลักดันให้เกิดระบอบประชาธิปไตยของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัชสมัยของรัชกาลที่ ๕ เป็นต้นมา ดังนั้นสถาบันพระมหากษัตริย์จึงต้องธำรงอยู่คู่กับระบอบการปกครองนี้ ในฐานะสถาบันหลักของชาติที่มีคุณูปการต่อการก่อเกิดประชาธิปไตยของไทย จึงควรอย่างยิ่งที่ทุกคนในแผ่นดินไทยต้องเคารพสักการะและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของบูรพกษัตริย์ไทย ตลอดถึงความเชื่อมั่นและยอมรับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขด้วยความเต็มใจ
หน้า ๔๓ หนังสือเรื่อ “สุจริตชน เพื่อเสริมสร้าง บ้านเมืองสุจริต” บรรยายถึงการมีจิตสำนึกดีต่อชาติบ้านเมือง ว่า...นายชวน หลีกภัย ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม ในช่วง พ.ศ. ๒๕๔๐-๒๕๔๔ นอกจากท่านทุ่มเทใจกับหน้าที่ของท่านแล้ว ท่านยังเป็นแบบอย่างในด้านการมีจิตสำนึกที่ดีต่อบ้านเมือง ดังกรณีใช้จ่ายเงินแผ่นดินอย่างรู้คุณ แม้จะเป็นเงินราชการลับในส่วนที่ท่านสามารถเบิกจ่ายได้ แต่ท่านก็มิได้ลุแก่อำนาจมีจิตสำนึกที่ดีที่จะคืนเงินส่วนที่ไม่ได้ใช้กลับไปเป็นผลประโยชน์ของชาติ
“ผมอยู่ที่ไหน ผมก็ต้องศึกษาเรียนรู้กติกาของหน่วยงานนั้น ผมไปอยู่กระทรวงกลาโหมผมก็ต้องอ่าน ผมอ่านมากกว่าทหารอีก อ่านกระบวนการของทหาร ระเบียบอะไรเป็นอย่างไร แต่ว่าความซื่อตรงสุจริต อันนี้แม้กระทั่งมีสิทธิผมก็ยังไม่เอาเลยนะ ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สามปี เชื่อไหมวันสุดท้ายผมมีเงินราชการลับ ๗,๕๐๐,๐๐๐ บาท ผมไม่ต้องเช่าบ้านเดือนละ ๕,๐๐๐ บาท ทุกวันนี้ผมสามารถนำเงิน ๗,๕๐๐,๐๐๐ บาท ไปซื้อคฤหาสน์ได้เลย แต่ผมคืนหมด ยุ่งกันทั้งกระทรวง เพราะไม่เคยมีใครคืนเงินราชการลับ
...ในที่สุดก็ไปหาระเบียบมา แล้วแบ่งให้ ๕ หน่วยงานหน่วยงานละ ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท ผู้ใหญ่บอกปลัดกระทรวงบอก อันนี้เป็นของท่านนะ ผมบอกผมรู้ พอผมเข้ามาปั๊บ รัฐมนตรีคนก่อน ก็เบิกงบราชการลับไปหมดแล้ว ในปีนั้นช่วงนั้น ผมเข้ามา เพราะผมมาจากเลือกตั้งและเป็นหนี้บุญคุณชาวบ้าน เขาเลือกนี่ไม่ต้องจ่ายเงินสักบาทหนึ่งและผมต้องเป็นหนี้เขา ในชีวิตที่ตอบแทนบุญคุณได้คือ ความซื่อตรงตั้งแต่วันแรก จนวันสุดท้าย ซื่อตรงสุจริต เบี้ยประชุม เบี้ยบรรยาย ไม่ใช่เองเอาไปเป็นทุนเป็นอะไรให้เด็ก เพราะเรามีแค่นี้ไม่ได้คิดจะมาสร้างเนื้อสร้างตัวทางการเมือง”
เนื่องจากคอลัมน์นี้ มีพื้นที่จำกัดขอตัดไปที่หน้า ๕๑ ว่าด้วยเรื่องการตระหนักของความสำคัญต่อการยึดมั่นในหน้าที่ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้กล่าวย้ำในเรื่องความสำคัญในแทบทุกโอกาสที่ไปปาฐกถา บรรยายหรือให้สัมภาษณ์ที่ใดก็ตาม ท่านจะเน้นย้ำถึงพระราชดำรัส ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม๒๕๕๒ และ ๒๕๕๓ อยู่เสมอ
...“เรื่องที่พระองค์ท่านได้รับสั่งในปี ๒๕๕๒ กับปี ๒๕๕๓ ปกติในหลวงไม่รับสั่งซ้ำ แต่ ๒ ปีที่รับสั่งซ้ำ และทั้งหมดมาจากเรื่องของความรับผิดชอบ ทั้งหมดเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ความไม่สงบและกระทบต่อประเทศชาติอย่างรุนแรง คือ กรณีการทำลายการประชุมที่พัทยา เกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดจากคนกลุ่มหนึ่งแต่ก็ไม่สำคัญว่าเป็นคนกลุ่มไหน มีตำรวจ มีทหารมีฝ่ายปกครอง มีเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายแต่ทำไมเรื่องเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมถึงปล่อยให้เกิดขึ้นได้ โดยสรุปคือความรับผิดชอบของคนเหล่านั้นไม่มี...วันนั้นคนที่มาก่อเหตุไม่ใช่ว่าจะมีกำลังกองทัพจากต่างประเทศ ไม่ใช่ว่ามีจำนวนมากมายอะไรนัก ถ้าเจ้าหน้าที่เข้าไปสกัดกั้นก็สกัดได้ไม่ปล่อยให้ผู้ชุมนุมเข้าไปไล่ผู้มาชุมนุม ซึ่งเรียนว่าเหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย และไม่เคยเกิดที่ไหนในโลกในอดีตและปัจจุบัน และเชื่อว่าในอนาคตไม่มีที่ไหนในโลกเกิดเหตุการณ์อย่างนี้...”
สำหรับเหตุการณ์ถล่มการประชุมอาเซียนซัมมิทที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช พัทยา ผู้เขียนอยู่เหตุการณ์ตลอดและเป็นคนหนึ่งที่ผู้บุกเข้าไปในโรงแรมตามหา ผู้เขียนจึงยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ขาดความรับผิดชอบตามที่หนังสือบรรยาย
ทั้งหมด คือ เรื่องย่อๆ จากหนังสือ สุจริตชน เพื่อเสริมสร้าง บ้านเมืองสุจริต ท่านที่สนใจหาอ่านได้จากสถาบันพระปกเกล้า
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี