กรณี “หญิงนอกใจสามี” จนกลาย “เป็นคดีดังสุดปัง เป็นนิทานเตือนใจสุดช็อกเป็นนวนิยายหักเหลี่ยม หักหลัง หักมุมกันหลายตลบและเป็นตำนานที่ถูกจดจำเล่าขานกันไม่รู้เลิก” นั้น มีและเกิดขึ้นด้วยกันทุกภาษาชาติ รวมถึงประเทศไทยด้วย
ปรับโฟกัสมาที่ประเทศไทย “ตำนานหญิงนอกใจผัว” ที่ถูกนำมา “ก่นด่ากันอย่างสุดมัน เล่าขานกันอย่างสุดแสบและบูลลี่กันอย่างสุดฮิต” ได้แก่ “ตำนานนางโมราฆ่าตัว” จากเรื่องจันทโครพ “ตำนานนางวันทองสองใจ” จากเรื่องขุนช้าง-ขุนแผน และ “ตำนานนางกากี นารีมากชู้” ที่สุดฉาว
น่าแปลกใจ คนไทยส่วนใหญ่ต่างเล่า “ตำนานนางโมรา” และ “ตำนานนางวันทอง” ได้อย่าง“ฉอดฉอด” แต่ส่วนน้อยยิ่งนักที่จะรู้จัก “ตำนานนางกากี”
ทั้งๆ ที่การดุด่าตาชันหญิงมากชู้ ทั้งนั้นมักจะถูกคนปากไว “สวดชยันโตสวดกงเต๊ก และสวดยับ” ให้เป็น “นางกากี”อย่าง “สุดกระหน่ำ”
เพื่อให้คุณผู้อ่านได้ “กระจ่างแจ้ง” กับ “ตำนานนางกากี” อย่างทั่วถึงจึงขอนำเรื่อง “กากี” ที่เกิดมากว่า 4,000 ปี มาเล่าอย่าง “กระชับย่อ” ดังนี้
“กากี” เป็นชายาของท้าวพรหมทัตแห่งกรุงพาราณสี โดย “นางเป็นหญิงสาวสุดสวย” ที่ถูกจารึกไว้ว่า “ผิวเนื้องดงามเหลืองอร่ามดุจดวงจันทร์ ดวงหน้าแฉล้มสดใสดั่งนางอัปสร (นางฟ้า) ที่แรกแย้ม นางมีกลิ่นกายที่หอมเหมือนดอกมณฑาทิพย์อย่างถาวรโดยกลิ่นหอมจะติดตัวผู้ชายที่สัมผัสนางอย่างยาวไกลและยาวนานถึง 7 วัน”
จากคุณสมบัติอัน “สุดเฉิดไฉไลยอดประทับใจ” ดังกล่าวทำให้ “ท้าวพรหมทัต” ผู้เป็นสามี “หลงใหลและคลั่งรักกากีอย่างจับใจ”
วันหนึ่ง “พญาครุฑ” ซึ่งเป็น “เทพปักษาตระกูลสูง และมีฤทธิ์เดชมากมายบันดาลได้ สรรพสิ่งแต่เป็นเทพที่รักศักดิ์ศรีของตนอย่างอหังการ” ได้แปลงกายเป็น “มานพหนุ่ม” มาเล่นสกากับท้าวพรหมทัต
“กากี” เดินผ่านมาทำให้อยากรู้ว่า “ชายรูปหล่อ” คนนั้นคือใครจึง “แอบดูอยู่ข้างประตู”แล้วเกิดอัศจรรย์ฟ้าแลบฟ้าผ่าโดยฉับพลัน “นางกากีอยากได้มานพหนุ่มสุดหล่อคนนี้มาเป็นสามีอีกคนอย่างสุดห้ามใจ”
แล้วทั้งคู่ก็ได้ “แอบสบตากัน” แล้วต่างฝ่ายเกิดพิศวาสต่อกันอย่างอัศจรรย์
หลังเลิกเล่นสกา “พญาครุฑ” ก็บันดาลให้เกิดพายุลมเมฆจนบดบังดวงอาทิตย์และกรุงพาราณสีมืดดำจนไม่เห็นสิ่งใด พญาครุฑร่อนไปสู่ปราสาทนางกากีแล้วแปลงกายกลับเป็น มานพหนุ่มหลังลวนลามและปากบอกรักนางกากีจน “อารมณ์นารีสุดพีค” มานพหนุ่มก็ชักชวนนางกากีไป “วิมานฉิมพลี” ซึ่งเป็นที่อยู่ของพญาครุฑ โดย “นางกากีเห็นดีเห็นชอบโดยไม่มีอิดเอื้อน”
“แล้วพญาครุฑก็ได้อุ้มนางกากีบินลัดฟ้าผ่านทะเลสีทันดรอย่างรวดเร็วโดยกระพือปีก หนึ่งครั้ง ก็สามารถผ่าฟ้าไปไกลได้ถึง 8,000 หลา”
ชั่วเวลาไม่นาน ทั้งคู่ก็ถึง “วิมานฉิมพลี” แล้วจบลงอย่าง “สุขสันต์” ทั้งคู่ต่างเป็น “ชู้กัน” ชนิดไม่มีอะไรมาขวางกั้น
“ตำนานนางกากี” ยังไม่จบ ขอเล่าต่อฉบับวันพรุ่งนี้
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี