ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ฟื้นจากอาการป่วยปางตายได้ราวปาฏิหาริย์ และได้รับการพักโทษกลับมาดูแลคอกหมาที่บ้านจันทร์ส่องหล้า อย่างอิสรเสรีไม่มีกำไลอีเอ็มพันธนาการแต่ประการใด ก่อนกลับมา ยอมรับผิด รับโทษในประเทศไทยเขาเคยพูดว่าเลี้ยงหมาไว้ 50 ตัว บางตัวก็เลียตีนตอนให้อาหารมัน บางตัวอันธพาลงับมือเจ้าของบ้าง ได้กลับบ้านจันทร์ส่องหล้าหลังจากห่างหายไปสิบแปดปี หมาบางตัวคงตายหรือออกจากคอกไปแล้วแต่เข้าใจว่าหมาหลายตัวคงออกลูกออกหลานมาเต็มบ้านจันทร์ส่องหล้า และกระดิกเลียตีนนายให้ฉ่ำใจที่นายใหญ่กลับมาแล้ว
เพื่อนอดีตนักข่าวคับข้องใจที่นายทักษิณได้รับอภิสิทธิ์เป็นนักโทษเทวดาสถิตอยู่บนวิมานชั้นสิบสี่เรียกว่า Royal Suit ในโรงพยาบาลตำรวจนานหกเดือนโดยไม่ต้องจำคุกแม้แต่วันเดียว พูดให้ผู้เขียนฉุกคิดก่อนลิงโลดดีใจกับนายทักษิณว่า # โกงที่ชั่วร้ายที่สุดคือโกงความยุติธรรม เพราะการโกงความยุติธรรมมันทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยวสร้างความเสียหายต่อหลายสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นกรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ ตลอดถึงรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรที่เสื่อมเสียหมดความศรัทธาจากประชาชน
การโกงความยุติธรรมอันเลวร้ายครั้งนี้ จะไปโทษนายทักษิณคนเดียวไม่ได้ เพราะมันเป็นขบวนการใหญ่ที่ครอบคลุมถึงสองรัฐบาลและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ตลอดถึงนักการเมืองระดับเสนาบดีหลายคน โดยที่รัฐบาลก่อนหน้ารัฐบาลเพื่อไทย ได้แก้กฎกระทรวงระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยสถานที่กักกันนักโทษไว้ก่อนหน้า โดยเขียน TOR ให้ตรงกับสเปกของนักโทษหนีคุกคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ
หลังจากที่ ทีโออาร์ ชั่วช้าเสร็จเรียบร้อยก็เริ่มเจรจาระหว่างผู้มีอำนาจในตอนนั้น เข้าใจว่ามีการเจรจาต่อรองจนได้ข้อตกลงที่เรียกตามฝรั่งว่า “ดีล” กันหลายครั้งมีทั้งดีลสิงคโปร์ ดีลฮ่องกง ดีลลังกาวี และ สุดท้ายหลังเลือกตั้ง เมื่อมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลก็สรุปกันที่ดีลฮ่องกง และ ดีลชั่วช้าสามานย์ ที่ย่ำยีความยุติธรรม และหยามหน้าคนไทยผู้รักความยุติธรรม นำมาใช้ในทางปฏิบัติทันทีที่นายทักษิณ ลงจากเครื่องบินส่วนตัวออกมาถ่ายรูปหมู่กับครอบครัวและเดินยิ้มร่าออกมาทักทายสมุนบริวารหน้าห้องรับรองขอสนามบิน บน.6 อย่างอิสรเสรีไม่มีเครื่องพันธนาการใดๆก่อนขึ้นไปนั่งในรถหรูเป็นขบวนแห่แหนกันไปศาลอาญา เสร็จสิ้นฟังคำตัดสินจำคุกแปดปี ขบวนรถหรูก็มุ่งหน้าไปเรือนจำพิเศษคลองเปรมประมาณห้าโมงเย็น
เวลาหนึ่งทุ่มคืนวันที่ 22 สิงหาคม 2566 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าพบนายทักษิณ ทั้งสองพูดจากันนานสองชั่วโมง ประมาณสามทุ่มนายวิษณุลากลับ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น มีรายงานว่านายทักษิณป่วยกะทันหันอาการปางตายต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปโรงพยาบาลตำรวจทันที
ตั้งแต่นั้นมาคนไทยไม่ได้เห็นหน้าอดีตนายกรัฐมนตรี ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมยกย่องเทิดทูนว่า มีคุณูปการต่อประเทศไทย สามวันต่อมานายทักษิณได้รับพระราชทานอภัยลดโทษจำคุกจาก 8 ปี เหลือ 1 ปี ซึ่งตามกฎหมายนายทักษิณต้องเข้าไปอยู่คุก 1 ปี
แต่เนื่องจากได้ทำดีลชั่วช้าไว้ ตามทีโออาร์รัฐบาลก่อนหน้า กรมราชทัณฑ์กับโรงพยาบาลตำรวจจึงอ้างระเบียบกรมราชทัณฑ์และจรรยาบรรณแพทย์ให้ทักษิณอยู่ห้อง ROYAL SUIT ได้นานเท่าที่พอใจ จนกระทั่งถึงวันนายทักษิณได้กลับไปเลี้ยงหมาที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ครอบครัวทักษิณและสมุนบริวารลิงโลดดีใจที่หัวหน้าครอบครัวและนายใหญ่ได้รับอิสรภาพ
แต่สังคมไทยที่ไม่ได้กินหญ้าดังที่ขบวนการดีลชั่วช้าเข้าใจ คนส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าตราบาปมันตรึงตราอยู่บนหน้าผากของผู้ร่วมขบวนโกงความยุติธรรมเหมือนที่คำพระท่านว่า “สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ” และ วลีที่ว่า #กรรมยุติธรรมเสมอ ไม่นานไม่ช้าเวรกรรมจะตามมาล้างผลาญผู้ร่วมโกงความยุติธรรม ซึ่งกรรมอาจมาในรูปมาตรา 157 เนื่องจากว่า กรรมกำหนดได้ คนไทยไม่เคยปล่อยให้คนชั่วลอยนวลตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 ผู้ที่โกงความยุติธรรมไม่ได้ตายดีสักรายขึ้นอยู่กับว่า กรรมตามทันวันนี้หรือวันหน้า
สำหรับขบวนการโกงความยุติธรรมร่วมกับนายทักษิณ วันนี้ตัวแทนเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกองทัพธรรม กำลังเรียกร้องหาความยุติธรรมให้กับสังคมไทยพวกเขา กำลังร่วมมือร่วมใจกันฟื้นฟูเกียรติภูมิศักดิ์ศรีให้ข้าราชการดีให้เดินเชิดหน้าในสังคมไทยได้อีกครั้ง
ขบวนการโกงความยุติธรรมอย่าเพิ่งย่ามใจว่า ชนะประชาชนแล้ว เพราะชัยชนะของขบวนโกงความยุติธรรม อุปมาเหมือน สงครามมหาภารตะในสมรภูมิทุ่งกุรุเกษตร ที่ฝ่ายอธรรมคือเการพที่มีพี่น้อง 101 คนมีกองทัพ 11 อักเษาอิณี (2.4 ล้านคน) ทำสงครามกับฝ่ายธรรมะ คือ ปาณฑพที่มีพี่น้อง 5 และมีกองทัพเพียง 7 อักเษาอินี (1.5 ล้านคน) ผลสุดท้ายพี่น้องเการพตายหมดส่วนพี่น้องปาณฑพ นอกจากไม่ตายแล้วยังได้ขึ้นสวรรค์ หนังสือมหาภารตะ ที่เขียนมาเป็นพันปีสอนให้รู้ว่าธรรมะชนะอธรรมเสมอ
ดังนั้นจึงเปรียบได้ว่าขบวนการโกงความยุติธรรม คือ อธรรมที่มีกองทัพมากมายมหาศาลทั้งในกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ ในทำเนียบรัฐบาล ในสภาผู้แทนราษฎร ตลอดถึงโรงพยาบาลตำรวจ กำลังต่อสู้กับฝ่ายธรรมะ ซึ่งนำโดย คปท. กองทัพธรรม และศปปส.ซึ่งมีกำลังน้อยกว่าหลายร้อยเท่าตัว แต่มีพลังเงียบเป็นลมใต้ปีกฝ่ายธรรมะมากมายมหาศาลสนับสนุนอยู่เบื้องหลังซึ่งทำให้ คปท.สู้ไม่ถอยและมีกลศึกเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ เมื่อแพ้ในสมรภูมิรบที่เรียกว่า “ยิกทักษิณกลับเข้าคุก” ก็เปลี่ยนกลศึกใหม่โดยการยื่นหนังสือให้ สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินคดีอาญามาตรา 112 ต่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการพักโทษจำคุก นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. ในฐานะตัวแทนกลุ่ม ได้ยื่นหนังสือต่อ นายณรงค์ ศรีระสันต์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อกระตุ้นให้อัยการสูงสุดแสดงความชัดเจนในแนวทางการดำเนินคดีมาตรา 112 ของ นายทักษิณ
“อัยการสูงสุดดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แก่ผู้ต้องขังเด็ดขาด ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 แล้วนั้น การดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องขังที่ต้องขังภายใต้การควบคุมตัวของกรมราชทัณฑ์” นายพิชิต กล่าว
“ถึงแม้ไม่ได้อยู่ในเรือนจำตามที่ผู้ต้องขังผู้อื่นต้องอยู่นั้น จำเป็นต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย หลังจากผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้นได้พ้นโทษหรือการพักโทษชั่วคราว เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป” นายพิชิต กล่าวเพิ่มเติม
ด้าน นายณรงค์ กล่าวหลังรับหนังสือว่า“คดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้บริหารเป็นคดีนอกราชอาณาจักร จึงต้องให้อัยการสูงสุดเป็นผู้สั่งคดี และจะนำเรียนต่ออัยการสูงสุดในวันนี้ ซึ่งถ้ามีคำสั่งจะแถลงให้ทราบ”
หนังสือที่ คปท. ศปปส. และ กองทัพธรรม ยื่นต่ออัยการสูงสุด มีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ โดยสรุปคือ 1. อสส. พิจารณาว่าการขอความเป็นธรรมของนายทักษิณเหมาะสมหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาได้พยายามหลบหนีคดีมาตลอด 2. อสส. ต้องเปิดเผยขั้นตอนการดำเนินการต่อนายทักษิณหลังพักโทษ และเคร่งครัดในกระบวนการตามกฎหมาย และ 3. อสส. ควรเปิดเผยต่อสาธารณชนว่าได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อหน้านายทักษิณหรือไม่
สำหรับคดีที่นายทักษิณ ถูกแจ้งข้อหาในมาตรา 112 สืบเนื่องจากนายทักษิณได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่างประเทศ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2558 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ พาดพิงถึงสถาบันกษัตริย์ ซึ่งทำให้วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 อสส. รับฟ้องคดีของนายทักษิณ ในข้อหาฝ่าฝืน มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ “หากหลังวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ยังไม่ได้รับความชัดเจนในเรื่องนี้ เราจะกลับมาทวงถามอีกครั้ง วันที่นายทักษิณจะได้รับการพักโทษนั้นเรามีการทำกิจกรรม ต้อนรับที่หน้าโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง” นายพิชิต กล่าว
การเคลื่อนไหวของ คปท. กองทัพธรรม และ ศปปส. อาจไม่ได้รับคำตอบใดๆ จาก ออส. ซึ่งอุปมาเหมือนสงครามทุ่งกุรุเกษตร ยิ่งฝ่ายอธรรมกลั่นแกล้งฝ่ายธรรมะมากเท่าไหร่ พลังใต้ปีกของฝ่ายธรรมยิ่งมากขึ้นหลายเท่าทวีคูณ จึงมั่นใจว่า สุดท้ายขบวนการโกงความยุติธรรมต้องตายยกครัวเหมือนพี่น้องเคารพ
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี