สาเหตุที่ต้องเขียนถึงเรื่องความเลวร้ายของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ครั้งแล้วครั้งเล่า มิใช่เพราะว่ายังข้ามไม่พ้นนักโทษชายรายนี้ แต่ที่จำเป็นต้องตอกย้ำว่านักโทษชายทักษิณ ชินวัตร คือตัวละครการเมืองตัวหนึ่งที่มีความเลวร้ายมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
เพียงลำพังของตัวนักโทษชายทักษิณคงไม่ใช่มูลเหตุสำคัญที่ทำให้การเมืองไทยเลวร้ายอย่างสุดๆ เพราะจริงๆ แล้วยังมีปัจจัยการเมืองอื่นๆ อีกหลายประเด็นที่ช่วยหนุนส่งให้การเมืองไทยเลวร้ายอย่างที่ทุกคนได้ประสบพบเจอตลอดเวลา
โดยประวัติของนักโทษชายทักษิณก็คงไม่ค่อยแตกต่างไปจากประวัติของนักธุรกิจ และนักธุรกิจการเมืองรายอื่นๆ มากนัก สำหรับนักโทษชายทักษิณมาจากอดีตตำรวจที่มีความเกี่ยวพันกับอำนาจรัฐมาอย่างต่อเนื่อง จนวันหนึ่งเขาได้อาศัยกลไกอำนาจรัฐหนุนส่งให้ตนเองได้ผลประโยชน์ทางธุรกิจ แล้วจากนั้นเขาก็กระโดดเข้าไปสู่วงจรอำนาจการเมือง เพราะนักโทษชายทักษิณรู้แจ้งประจักษ์ใจว่าการมีอำนาจรัฐ คือการมีอิทธิพลอย่างสูง และสามารถใช้อิทธิพลนั้นเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจได้โดยสะดวก อีกทั้งยังสามารถใช้อำนาจรัฐช่วยเหลือให้การกระทำผิดต่างๆ นานา รอดพ้นจากการถูกลงโทษตามกระบวนการกฎหมาย
คอการเมืองไทยทุกคนจดจำได้ดีว่านักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เข้าสู่วงจรอำนาจรัฐด้วยการเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังธรรม แต่อันที่จริงเขาได้เคยติดต่อกับพรรคการเมืองอื่นมาก่อน ก่อนที่จะเข้าไปร่วมกับพลังธรรม เช่นประชาธิปัตย์ แต่ทว่าข้อตกลงการเมืองที่นักโทษชายทักษิณยื่นต่อประชาธิปัตย์ไม่เป็นไปตามที่เขาต้องการ เขาจึงไม่สามารถไปกับประชาธิปัตย์ได้ และมีข้อมูลว่านักโทษชายทักษิณตั้งข้อเรียกร้องสูงมากกับพรรคประชาธิปัตย์ จนประชาธิปัตย์ต้องปฏิเสธในที่สุด
เมื่อนักโทษชายทักษิณได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในโควตาของพรรคพลังธรรม ในรัฐบาลผสมที่มีประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ เขาก็ได้ทำให้ประเพณีปฏิบัติทางการทูตของไทย และของโลกเปลี่ยนไปคือ เขาใช้ตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศเดินทางไปพบปะกับประเทศคู่เจรจาวันหนึ่งสองประเทศ ซึ่งต้องย้ำว่าไม่เคยมีประเพณีปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนในวงการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่นักโทษชายทักษิณได้กระทำลงไป เพราะเขาคือนักธุรกิจการเมืองแท้ๆ เขาจึงจงใจละเลยประเพณีปฏิบัติทางการทูต
ต่อมาในปี 2541 นักโทษชายทักษิณตั้งพรรคไทยรักไทย แล้วหลังจากนั้นเขาก็มีชัยชนะทางการเมืองมาจนถึงปี 2548 แต่เป็นชัยชนะการเมืองที่เต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบายการเมือง ซึ่งก็นับเป็นเรื่องปกติของนักการเมืองไทยที่เต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบาย แต่เมื่อมาเจอเล่ห์ของนักโทษชายทักษิณ ก็ทำให้เห็นได้ชัดว่าเล่ห์การเมืองแบบเก่าๆ หมดความน่ากลัวไปทันที เพราะการเมืองในรูปแบบของนักโทษชายทักษิณทำให้คนไทยรู้ซึ้งกับคำว่าทุจริตเชิงนโยบาย และการทุจริตแบบกินรวบโดยผ่านนโยบายของรัฐ
ในยามที่นักโทษชายทักษิณมีอำนาจรัฐ เขาใช้อำนาจรัฐแบบเมามัน ไม่สนใจกฎระเบียบใดๆ จนกระทั่งวันที่ถูกทำรัฐประหารเมื่อปี 2548 จากนั้นเขาก็หนีออกนอกประเทศ แล้วร่อนเร่ไปเรื่อยๆ พร้อมกับปลุกระดมให้คนไทยลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากันตลอดเวลา
นักโทษชายทักษิณหนีคดีอาญาแผ่นดินไป 17 ปี แล้วเขากลับมาประเทศไทยแบบเท่ๆ ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2566 โดยไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว ซึ่งประเด็นนี้ทำให้สังคมไทยตั้งคำถามกันมาจนถึงทุกวันนี้ว่านักโทษชายทักษิณมีข้อตกลงพิเศษกับใคร จึงทำให้ไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว ประเด็นที่คนไทยยังคงให้ความสำคัญและพยายามติดตามจนถึงบัดนี้คือ ใครคือคนที่นักโทษชายทักษิณไปทำข้อตกลงด้วย จนทำให้เขาไม่ต้องติดคุก หรือว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยถึงกาลล่มสลายเสียแล้ว หรือว่าคุกไทยไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อจองจำคนทำผิดคดีอาญาร้ายแรงที่ชื่อนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี