“เตะเดียวสะท้านถึงดวงดาว” กรณีฝรั่งชาวสวิสใช้ความรุนแรงกับหมอที่จังหวัดภูเก็ต จนกลายเป็นเรื่องราวบานปลาย ซึ่งเจ้าตัวผู้ก่อเหตุกับภรรยาชาวไทยคงไม่คาดคิดมาก่อนว่าเรื่องราวจะบานปลายถึงขนาดนี้
เรียกว่าเป็น “อาฟเตอร์ช็อก” จากชนวนเหตุ กรณี “พญ.ธารดาว จันทร์ดำ” วัย 26 ปีแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ถูกนายอูรส์บีท เฟอร์ หรือ เดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ อายุ 45 ปี สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของศูนย์อนุรักษ์ช้างเดินเข้ามาเตะเข้าบริเวณหลัง พร้อมกับใช้ถ้อยคำหยาบคาย ขณะนั่งเล่นบริเวณบันไดริมชายหาดยามู ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 27 กุมภาพันธ์ปลายเดือนที่ผ่านมา
และจากการที่นายเดวิดทำร้ายร่างกายหมอสาวด้วยข้ออ้างว่าเธอและเพื่อนสาวของหมอบุกรุกพื้นที่วิลล่าของเขา ก็กลายเป็นว่าวิลล่าแห่งนั้นได้บุกรุกชายหาดยามูซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ มิหนำซ้ำหลังเกิดกรณีก็ยังได้มีการขยายความเกี่ยวกับความฟอนเฟะต่างๆ ที่ถูกซุกเอาไว้ให้ผู้คนในสังคมได้เห็น ทั้งพฤติกรรมส่วนตนของผู้ก่อเหตุรายนี้ และรวมไปถึงหน่วยงานราชการในพื้นที่ที่หย่อนยานปล่อยปละละเลย จนถึงขั้นละเว้นให้มีการละเมิดกฎหมาย
ที่ไม่รู้ก็ทำให้รู้ว่า นายเดวิดคนนี้มีพฤติกรรมกร่างแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้งเคยมีปากเสียงทะเลาะกับชาวบ้านในชุมชนบ้านยามู ถึงขั้นเปิดประตูลงมาจากรถ และโชว์ให้เห็นว่ามีอาวุธปืน ชาวบ้านเห็นแล้วรับไม่ได้กับพฤติกรรมก้าวร้าวที่ว่านี้และก็ไม่สามารถทำอะไรกับนายเดวิดได้ รวมทั้งนายเดวิดยังเคยชูนิ้วกลางกร่างใส่รถกู้ชีพ ซึ่งเวลามีเรื่องกับชาวบ้านก็มักจะอ้างว่า “ฉันรู้จักตำรวจใหญ่ๆ ภูเก็ตหลายคน” ทั้งนี้ หนึ่งในนั้นอย่างน้อยก็มีนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ที่สื่อในโลกโซเชียลนำภาพมาเปิดเผยระหว่างนั่งดื่มกินกับชาวสวิสรายนี้
ถึงแม้ว่าล่าสุดนายเดวิดและภรรยาชาวไทยจะออกมายอมรับผิด และกล่าวขอโทษแพทย์หญิงธารดาว จันทร์ดำ หรือ “คุณหมอปาย” ไปแล้ว โดยพูดภาษาอังกฤษผ่านทนายความชาวไทย ว่ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากๆ และอยากจะขอโทษชาวไทยทุกคนและแพทย์หญิงธารดาวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาว่า “ผมรักเมืองไทยมาก และสนับสนุนชาวไทยทุกคน แม้ผมจะเป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ แต่ ณ ปัจจุบัน เมืองไทยคือบ้านของผม ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะบานปลายขนาดนี้”
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทุกอย่างคงไม่จบลงง่ายๆเพียงแต่คำขอโทษของนายเดวิด เนื่องจากเรื่องราวได้บานปลายไปถึงการบุกรุกชายหาดซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ ที่ไม่เพียงแต่วิลล่าที่เกิดเหตุแห่งเดียวเท่านั้น ยังรวมไปถึงวิลล่าอื่นๆ ริมชายหาดยามูด้วย พบความผิดก่อสร้างอาคารรุกล้ำที่สาธารณะ(ชายหาด) รวม 4 แห่ง โดยนายปัณยา สำเภารัตน์นายกเทศมนตรีตำบลป่าคลอก ได้มอบหมายให้นิติกรเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบริษัทเอกชนเจ้าของวิลล่า และสั่งให้มีการรื้อภายใน 30 วันสำหรับการรื้อถอนต้องกระทำภายใน 30 วัน นับจากวันที่มีการแจ้งความดำเนินคดี โดยผู้ถูกร้องสามารถอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้ แต่ถ้าไม่อุทธรณ์คำสั่งภายใน 30 วัน และไม่มีการรื้อถอน ทางเทศบาลจะเข้าไปดำเนินการรื้อถอนเอง
นอกจากนั้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตยังได้ออกมาชุมนุมที่หาดยามู เพื่อรณรงค์เรียกร้องขอคืนพื้นที่หาดยามูและชูป้ายประท้วง“Get Out David”
เรียกร้องให้รีสอร์ทที่นายเดวิดเช่าอาศัยอยู่ขับชาวสวิสรายนี้ออกจากพื้นที่
ภาพโดยสรุปจากกรณี“เตะเดียวสะท้านถึงดวงดาว” ไม่เพียงแต่จะมีเฉพาะคดีทำร้ายร่างกาย และการบุกรุกพื้นที่ชายหาดเท่านั้น ยังมีผลทำให้นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ต้องสั่งตั้งคณะตรวจสอบความประพฤติของชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยและทำมาหากินในจังหวัดภูเก็ต โดยคณะกรรมการฯชุดนี้จะมีอำนาจในการพิจารณาเพิกถอนหนังสือเดินทาง หากมีการตรวจสอบพฤติกรรมของชาวต่างชาติในรายที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม
จังหวัดภูเก็ตถือเป็นจังหวัดท่องเที่ยวลำดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยว
ชาวไทยและต่างประเทศ เข้ามาจำนวนมาก ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยระบุว่า ในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งรัสเซีย ออสเตรเลีย อินเดีย ฮ่องกง และจีน มากกว่า 8 ล้านคนเดินทางเข้ามาเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต
สำคัญที่สุด ไม่เพียงแต่แค่มาท่องเที่ยวเท่านั้น ว่ากันว่าชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อย ติดใจในเสน่ห์เมืองไทย มีภรรยาเป็นคนไทย ยังได้ซื้อบ้านพักอาศัยด้วย เท่ากับสร้างแรงกระเพื่อมใหญ่ให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดภูเก็ต ทั้งซื้อที่ดินเพื่อสร้างบ้านพัก และมีหมู่บ้านจัดสรร โดยเฉพาะราคาที่ดินซึ่งอยู่ติดชายหาด มีราคาแพงกว่าจังหวัดอื่นๆ หลายเท่า โดยราคาประเมินสูงสุดอยู่ที่ตารางวาละ 2 แสนบาท
ปัญหาที่ต้องสะสางต่อไปก็คือ เป็นที่รู้กันดีว่าจังหวัดภูเก็ตมักจะมีปัญหาเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่า พื้นที่สาธารณะ มีการก่อสร้างสิ่งรุกล้ำลงทะเลและชายหาดในหลายพื้นที่ แม้ส่วนใหญ่จะอ้างว่ามีเอกสารสิทธิในที่ดิน มีการ “ซื้อ-ขาย”ถือครองโดยชอบด้วยกฎหมายก็ตาม แต่ก็ไม่เคยมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าได้มาโดยชอบหรือไม่
ถึงเวลาแล้วที่จะต้องสังคายนากันอย่างจริงจังเสียที-ทั้งหมดนี้เป็นภาระหน้าที่โดยตรงของรัฐบาล !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี