วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ซึ่งเป็นสัมภเวสีหนีโทษ 5 ปีจากคดีทุจริตโครงการับจำนำข้าวอยู่ในเวลานี้ ได้ชื่อว่าใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเดินสายตะลอนทัวร์ต่างประเทศมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยเฉลี่ยแล้วเดือนละ 2 ครั้ง รวมแล้วเวลา 2 ปีกับ 275 วันที่อยู่ในตำแหน่งระหว่างวันที่ 5 สิงหาคม 2554-7 พฤษภาคม 2557 เดินทางไปต่างประเทศถึง 57 ครั้ง ไม่น้อยกว่า 40 ประเทศ
ถึงวันนี้ด้วยระยะเวลา 6 เดือนในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน ที่เป็น“นายกฯหุ่นเชิด” คนล่าสุดของนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ยิ่งมายิ่งแรง กำลังจะทุบสถิติ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”เรื่องการเดินสายทัวร์ต่างประเทศ
6 เดือนบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของ“เศรษฐา ทวีสิน”เดินทางไปต่างประเทศมาแล้ว 14 ประเทศ ซึ่งรวมคราวนี้ด้วยที่ยังอยู่ระหว่างการเดินทางแบบฉวัดเฉวียนในประเทศออสเตรเลีย เยอรมนี และฝรั่งเศส ขณะที่ในประเทศไทย นายเศรษฐาไปโชว์ตัวเหมือนออกงานอีเว้นท์มาแล้ว 27 จังหวัด บางจังหวัดก็เคยไปซ้ำ เหมือนไปรักษาฐานคะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยให้กระชับแน่นยิ่งขึ้น
ที่นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 5 มีนาคมนี้เอง ระหว่างเข้าร่วมประชุมสุดยอดสมัยพิเศษอาเซียน-ออสเตรเลีย เห็นนายเศรษฐา ทวีสิน ถ่ายภาพโพสต์เหมือนนาง(สาว)ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เวลาไปเยือนต่างประเทศไม่ผิดเพี้ยน คล้ายกับเด็กได้ของเล่นแปลกใหม่ ทั้งนี้ ระหว่างเดินเล่นบริเวณด้านหลังโรงแรมที่พักใกล้กับสะพาน Evan Walker ซึ่งเป็นเส้นทางเลียบแม่น้ำ Yarra ในนครเมนเบิร์น นายเศรษฐาแต่งชุดสูทสากล สวมผ้าพันคอเป็นลายผ้าขาวม้าสีเหลือง-ดำ ที่ชาวบ้านจากจังหวัดกาฬสินธุ์มอบให้ในช่วงลงพื้นที่ ได้นั่งถ่ายภาพพร้อมโชว์ถุงเท้าลายหมีโคอาล่าที่“พล.อ.เดวิด เฮอร์ลีย์” ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลียมอบให้เป็นของขวัญ
อย่างไรก็ตาม เวลาเดินทางไปต่างประเทศตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน ประกาศตัวว่า เป็นเซลส์แมนเบอร์หนึ่งของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและส่งเสริมการลงทุน มักจะได้ยินได้ฟังทุกครั้งเมื่อเดินทางกลับมาหรือให้สัมภาษณ์ระหว่างอยู่ในประเทศที่ไปเยือนว่าประสบความสำเร็จ พร้อมกับคำพูดที่ว่าจะมีนักลงทุนต่างชาติแห่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย
เช่น เมื่อคราวที่นายเศรษฐา ทวีสิน ไปสหรัฐอเมริกาครั้งที่สองหลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 30 (2023 APEC Economic Leaders’ Meeting) ที่นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ระหว่างวันที่ 12-19 พฤศจิกายนปีที่แล้ว นายเศรษฐาคุยโอ่ว่า มีบริษัทยักษ์ใหญ่ ด้านไอที 2 บริษัท คือ Google และ Microsoft จะเข้ามาลงทุน“Data Center”ในประเทศไทย รวมมูลค่ากว่า 2 แสนล้าน รวมทั้งบริษัทชั้นนำอย่าง Tesla ที่มีความคิดจะมาลงทุนในไทยเพื่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ EV เป็นต้น ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นมีความคืบหน้าแต่อย่างใด
เมื่อตอนไปญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 14-19 ธันวาคม ปีที่แล้ว เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว นายเศรษฐา ทวีสิน ก็คุยฟุ้งว่า บริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างน้อย 7 บริษัทมีแผนจะมาลงทุนผลิตรถยนต์ EV ในประเทศไทย เช่น บริษัทฮอนด้าจะมาลงทุน 5 หมื่นล้านบาท และอีซูซุจะมาลงทุน 3.2 หมื่นล้านบาท เป็นต้น แต่เอาเข้าจริงกลายเป็นเรื่องของอนาคต เพราะบริษัทที่นายเศรษฐาอ้างนั้น
บอกว่าจะมาลงทุนในอีกห้าปีข้างหน้า ซึ่งจะมาหรือไม่มาเมื่อถึงวันนั้นนายเศรษฐาก็พ้นจากเก้าอี้ไปแล้ว
นายกษิต ภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสมัยรัฐบาล“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” และอดีตเอกอัครราชทูตไทยในหลายประเทศ เช่น รัสเซีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันเป็นคอลัมนิสต์“แนวหน้าออนไลน์” คอลัมน์ “เขียนเพื่อคิด” เคยเขียนบทความตั้งข้อสังเกตไว้เมื่อวันพุธที่ 6 ธันวาคม 2566 ว่า“นายกฯเศรษฐา ค้างส่งการบ้านให้ชาวไทย”
การบ้านที่ว่า ก็คือ ในการเดินทางไปประชุมระหว่างประเทศ 2 เวทีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาของนายเศรษฐา ทวีสิน คือการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (78th Session of the United Nations General Assembly: UNGA78) ณ มหานครนิวยอร์ก ระหว่างวันที่ 18-24 กันยายน 2566 และการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 30 (2023 APEC Economic Leaders’ Meeting) ที่นครซานฟรานซิสโก ระหว่าง
วันที่ 12-19 พฤศจิกายน 2566
ทั้งสองเวทีนี้สังคมไทยไม่เคยได้รับรู้เลยว่านายเศรษฐา ทวีสิน ได้ไปมีถ้อยแถลง และแสดงฝีไม้ลายมือไว้อย่างไรบ้าง ตลอดจนมีอะไรติดมือกลับมาเล่าสู่กันฟังและเพื่อมาดำเนินการตามคำมั่นสัญญา ข้อผูกมัด หรือพันธกรณี ที่เป็นมติของที่ประชุม ไม่ว่าจะการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ที่มหานครนิวยอร์ก หรือการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่นครซานฟรานซิสโก
“จึงเท่ากับว่านายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ยังมิได้ทำการบ้าน ที่จะส่งให้กับสังคมไทยว่า ได้ไปรับฟัง ไปแสดงท่าที ไปร่วมคิดอ่าน และร่วมจัดทำแถลงการณ์ดังกล่าวมาอย่างใด? และเมื่อกลับมาที่ประเทศไทยแล้วจะดำเนินการขับเคลื่อนคำมั่นสัญญา และพันธกรณีต่างๆ อย่างไร? ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมการในเรื่องบุคลากรในระดับต่างๆ เพื่อรองรับภารกิจ การค้นคว้าวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และขีดความสามารถไปจนถึงการมอบหมายหน่วยงานเจ้าภาพ และการจัดทำกรอบตารางเวลาของการทำภารกิจ เพื่อบรรลุเป้าหมายต่างๆ ซึ่งหากไม่รีบเร่งดำเนินการปรึกษาหารือ และขับเคลื่อนสั่งการ ก็คงไม่พ้นที่จะมีเสียงสะท้อนออกมาว่า ก็แค่ไปร่วมประชุมเพื่อให้เป็นข่าวเท่านั้น หรือบ้างก็จะพูดกันว่า นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน คงไม่ค่อยเข้าใจประเด็นปัญหาของเรื่องราวต่างๆ” นายกษิต ภิรมย์ ระบุไว้ในข้อเขียน
สรุปแล้ว นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีมา 6 เดือน ก็เป็นได้เพียงแค่“นายกฯหุ่นเชิด”เท่านั้น ไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ มีแต่ราคาคุย ออกงานอีเว้นท์เดินสายทัวร์เที่ยว และเก็บเกี่ยว“คอนเนคชั่น”เฉพาะตัวเท่านั้น !
รุ่งเรือง ปรีชากุล

‘ผบก.ตม.4’ลงพื้นที่‘ด่านช่องเม็ก’ สกัด‘รถน้ำมัน’ทะลักออกด่าน ตามคำสั่ง‘มทภ.2’
ในหลวง-พระราชินี ทรงรับผู้บาดเจ็บ-ผู้เสียชีวิต จากเหตุชายแดน ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์
มาลี แถลงโต้ ยันเขมรไม่ได้กักตัวคนไทย โอดถูกเครื่องบิน F-16 ระดมทิ้งระเบิด
สรุปเหรียญ กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ไทยยังคงนำเป็นจ้าวเหรียญทอง
โคราชจับตา! เฝ้าระวัง'ทหารรับจ้างรัสเซีย'ลอบเข้าพื้นที่ เอี่ยวแผนก่อเหตุจุดยุทธศาสตร์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี