l ชีวิตคนเราสั้น จงทำสิ่งที่ชอบ และรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ก่อนที่จะไปสู่ที่ชอบ
l คิดและทำ ให้ดีที่สุด ต่อ สิ่งที่เราพิจารณาเห็นว่า มีคุณค่า ต่อตัวเรา ครอบครัว ชุมชน และสถาบันที่เป็นหลักสำคัญต่อชีวิตของเรา และประชาชนชาวไทย นั่น คือ ต้องให้เวลา และใช้เวลาไปในสิ่งที่เราสร้างขึ้น อย่างมีคุณค่าฯ คนส่วนใหญ่ รู้ว่า “ชีวิตเราสั้นนิดเดียว และ เรามีเวลาอยู่ในโลกนี้ไม่นานอีกทั้งเวลา ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว”
@ แต่ ในโลกแห่งความเป็นจริง คนส่วนใหญ่ใช้เวลาไปในสิ่งที่ตนชอบ สิ่งที่อารมณ์ความรู้สึกของเรานำไปความรักแบบหวือหวา ความสนุกร่าเริง ความสุขแบบชั่วแล่น ชั่วคราว ไร้ค่า ไร้สาระหรือ อำนาจ ความมั่งคั่ง ฐานะ ชื่อเสียงเกียรติยศ ปลอมๆ หมดไปวันๆ หนึ่ง ไม่ได้จริงจัง ไม่ได้เกิดผลงอกงาม ไม่คงทนถาวร
สรุป คือ ไม่ได้คิดและใช้ชีวิตของเรา ให้เกิดคุณค่าและความหมาย น่าเศร้านะ
l เรามาลองศึกษา และพิจารณาดู เป้าหมายของชีวิตมนุษย์ในทัศนะของอัลแบร์กามูส์ผลการศึกษาพบว่า
-แนวคิดทางจริยศาสตร์ในทัศนะของกามูส์ เกิดจากปฏิกิริยาที่ต่อต้านพื้นฐานแนวความคิดทางจริยศาสตร์ดั้งเดิมของสังคม ดังสะท้อนให้เห็นพฤติกรรมของตัวละครในทัศนะของกามูส์
-โดยมุ่งแสวงหาเป้าหมายของชีวิตมนุษย์ คือ ความสุขซึ่งมีบ่อเกิดมาจากร่างกายและจิตใจมีความสัมพันธ์กันโดยเน้น คุณภาพ ของความสุขมากกว่า ปริมาณ
-สําหรับความสุขที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อ มนุษย์เข้าใจสภาวะของโลกและชีวิต ซึ่งนําไปสู่เป้าหมายของชีวิตระดับปัจเจก อันเป็นความสุขที่มีความสัมพันธ์กับความไร้สาระ สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติเสรีภาพ เวลา และความตาย
พัฒนาไปสู่เป้าหมายของชีวิตระดับสังคม เป็นความสุขที่มีความสัมพันธ์กับความยุติธรรม และภราดรภาพระหว่างมนุษย์
-ผ่านการตั้งคำถาม และ แสวงหาคำตอบ ที่น่าจะเป็นไปได้ เกี่ยวกับความประพฤติหรือสิ่งที่ควรกระทำของมนุษย์เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้แก่มนุษย์
-ปัญหาทางปรัชญาที่มีความสำคัญและเกี่ยวข้องโดยตรงกับมนุษย์ คือ
๑.ปัญหาเกี่ยวกับ เป้าหมายของชีวิตมนุษย์คืออะไร?
๒.เราสามารถบรรลุสู่เป้าหมายของชีวิตที่ว่านี้ได้อย่างไร?
l เรามาลองคิดต่อกัน ตามทัศนะความคิดของเรา โดยการตั้งประเด็น หรือคำถาม ให้กับตนเอง โดยสรุปจาก “ประสบการณ์ของเรา” หรือการมองความจริง จากสภาพที่เราเจอ หรือคนรุ่นใหม่เจอ
หากการตั้งคำถามที่ดี ตรงกับ ความรู้สึกความคิดของเรา และสังคม ตามสภาพที่เป็นจริง เราก็จะสามารถนำเอามาใช้ในชีวิตจริงของเราได้
l ลองมาพิจารณา “ข้อคิด เกี่ยวกับการใช้ชีวิต ของคนเรา”
ต้องพยายามศึกษาค้นคว้า เรียนรู้ให้มาก แล้วคัดเลือก “ข้อคิด ที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของตน” เช่น
-อย่าตัดโอกาสตนเอง ด้วยคำว่า เป็นไปไม่ได้ ทำไม่เป็น
-ข้างหน้า คือ ความหวัง ข้างหลัง คือ บทเรียน
-อย่าสักแต่ว่าทำ ได้ทำ ต้องสรุปตนว่า ทำไปแล้ว เสียไปแล้วได้อะไรมาบ้าง
-สรรพสิ่งทุกอย่างต้องมีเริ่ม และมีสิ้นสุด
-ฯลฯ
l ศึกษา แล้วพิจารณาดู ในสิ่งที่ดี สิ่งที่ถูก สิ่งใดที่เราควรเชื่อ เพราะอะไร และเมื่อได้คิดอย่างถ่องแท้แล้วได้ความเชื่อที่ดี ที่ถูก มีคุณค่า มีประโยชน์แล้ว
๑.จงทำในสิ่งที่ตนเชื่อ อย่างมุ่งมั่น เอาจริง
๒.แต่เมื่อเวลาผ่านไป ต้องมาทบทวนว่า “สิ่งที่เราเชื่อนั่นยังถูกต้องไหม”
๓.หากถูกต้อง ก็ต้องพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไป
๔.หากผิดพลาด ต้องหยุด มาสำรวจตรวจสอบตัวเอง ทั้ง “ความคิดและการกระทำ” ซึ่งส่วนใหญ่
(๑) ไม่ได้ทำ
(๒) รู้ว่า “ผิด” แต่ไม่กล้าแก้ไข
๕.การจะเกิดการแก้ไข “ยากมาก” จะเกิดขึ้นได้
(๑) มีเรื่องใหญ่ ที่มากระทบจิตใจ ที่ทำให้เปลี่ยนได้
(๒) มีผู้ใหญ่ ที่เราเคารพนับถืออย่างยิ่ง มาแนะนำ และชี้ทางถูกให้ ประเด็นนี้ สำคัญ และเป็นจุดพลิกกลับของคน ที่คิดและทำผิด
l มาดูความเป็นจริงในสังคมไทยที่ผ่านมา
1.เหตุการณ์หลัง ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ ถึง เหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙
เยาวชนและผู้นำนักศึกษา ปีกซ้ายจัด : ซึ่งมีไม่มาก แต่เข้าไปกุมการนำขององค์กรนักศึกษาเยาวชน
โดยมีข้อดี คือ ความเร่าร้อน เอาจริง เข้มข้น ในการต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมไทยอย่างรวดเร็ว
ข้อเสียหรือ ความผิดพลาดใหญ่ คือ “ไปยึดเอาความคิดซ้ายจัดจากสังคมนิยมรุนแรง”
(๑) จากจีน (ในยุคRED GUARD แก๊ง ๔ คน) :ที่สร้างความเสียหายมหาศาลแก่ประเทศจีน
(๒) พรรคคอมมิวนิสต์ไทยปีกซ้ายจัด และนักวิชาการอคติฯ ทำให้มีความคิดเอียงซ้ายสุด เสนอคำขวัญในการเคลื่อนไหวและการต่อสู้ที่รุนแรง เช่น
(๑) ตายสิบเกิดแสน
(๒) ต้องใช้ความรุนแรง ตอบโต้กับความรุนแรง (ของปีกขวาจัดฯ)
(๓) ไม่มีการเสียสละ ชัยชนะไม่เกิด ซึ่งทำให้ไปเข้าแผนของฝ่ายขวาจัด ที่ต้องการเอา “อำนาจกลับคืน”
2.ในสังคมปัจจุบัน ในยุคของ “โซเชียลมีเดียที่ก้าวหน้าสุดๆ”
พรรคการเมือง และกลุ่มการเมืองปีกซ้ายจัด ใช้กลยุทธ์ชั้นเชิงทางสื่อโซเชียลอย่างแยบคายเป็นกระบวนการ มีระบบ จังหวะก้าว และขั้นตอน ในการสร้างกระแสข่าว ที่บิดเบือน ใส่ข้อมูลเท็จ กล่าวหาจาบจ้วงสถาบันพ่อแม่ครูพระทำมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเลือกตั้งล่าสุดโดยใช้ทุนมหาศาล และนักวิชาการมืออาชีพที่ช่ำชองในการรณรงค์การเลือกตั้งฯทำให้ประสบความสำเร็จสูงในการเลือกตั้ง ได้สส. มากที่สุดแต่จากการขาดประสบการณ์ และการใช้ “ข้อมูลเท็จบิดเบือนต่อสถาบันฯ” ทำให้ ฝ่ายรัฐและประชาชน เริ่มเห็น “พฤติกรรมที่เลวร้าย และรับไม่ได้” ซึ่ง “การต่อสู้ที่แหลมคมนี้ ยังไม่จบ” ภาครัฐ พรรคการเมืองและภาคประชาชน ที่เคารพรักเทิดทูนสถาบันฯต้องออกมาทำหน้าที่ ปกป้อง “หลักชัยและศูนย์รวมความมั่นคงของชาติ” และให้ความจริงแก่พ่อแม่ และเยาวชน ให้รู้ความจริงถึงคุณค่าและความหมายที่สำคัญยิ่งของสถาบันหลักต่อสังคมไทย
l กลับมาสรุป “หลักคิดที่สำคัญ ในการสร้างพัฒนาและต่อยอด ความคิด” ที่ผู้คน ประชาชนและเยาวชน จัดนำมาใช้เป็นแบบอย่างในการสร้างคุณค่าความหมายของเวลาที่คนเรามีอยู่ไม่มากในโลกนี้ โดยการ “ตอบคำถาม(โจทย์) ใหญ่ ๒ ข้อ”
๑.เป้าหมายของชีวิตมนุษย์ คืออะไร คือ การสร้างและพัฒนาคุณค่าและความหมาย ต่อชีวิตตน ครอบครัว ชุมชนและบ้านเมือง
๒.เราจะบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร
(๑) มี ๒ ส่วนสำคัญ คือ “ตัวเรา” และ “เวลา : ที่เรามีอยู่อย่างจำกัด” คนที่มีคุณภาพ จะสามารถ “คิดและทำ” สิ่งต่างๆ ที่มีคุณค่าได้มากกว่า “คนที่ไม่มีคุณภาพ”คนที่มีคุณภาพ จะใช้ “เวลา อย่างมีคุณภาพ” คือ คิดและทำอะไรได้มากกว่าฯ
(๒) ฉะนั้นเราต้องเน้นในการสร้างและพัฒนา ที่ “คุณภาพ” มากกว่า “ปริมาณ” คุณภาพของตัวเรา และ คุณภาพของเวลา
l เราต้องเข้าใจความจริงของชีวิตที่สำคัญคือ
๑.การสร้างชีวิตให้มี “คุณภาพ” ยากลำบาก และต้องทุ่มเทมากกว่า แต่คุ้มค่าและผลตอบแทนจะสูงกว่า
๒.ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ ต้องลงคิดลงแรงอย่างหนัก
๓.ชัยชนะ และผลสำเร็จ เป็นสิ่งที่เราปรารถนา
๔.แต่ “การล้มเหลว พ่ายแพ้” เป็นเรี่องปกติ เพราะเรายังไม่มีประสบการณ์พอเราต้องกล้า ลุกขึ้นมาสู้ใหม่ จะได้สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า
๕.ความสำเร็จ จะต่อยอดให้เราก้าวหน้า และพัฒนาขึ้นต่อไป
๖.เราต้องหมั่นสรุปบทเรียน เมื่อจบงานหนึ่ง จะได้เห็นข้อดีข้ออ่อนที่จักนำมาพัฒนาแก้ไข ปรับปรุงต่อไป
๗.ตัวที่ร้ายกาจที่สุด ที่จักนำเราไปสู่หายนะ คือ “อคติ ความเย่อหยิ่ง ความโลภ โทสะ โมหะ” เราต้องสนใจเรียนรู้ ฝึกและปฏิบัติ “ธรรม” ท่ามกลางการเดินทางไกล
๘.หัวใจของธรรมที่นำทาง คือ “ความสุข” ในการทำงานที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น
ความสุข จะทำให้เราทำงานอย่างมีสติ สนุกร่าเริง ทำงานได้ดีได้มาก ฯลฯ
๙.เราต้องเน้นที่ตัวเราเองก่อน แต่ก็จะต้องอาศัยความร่วมมือในด้านต่างๆ จากเพื่อนมิตรและสังคม
๑๐.สุดท้าย เราต้องใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ซื่อสัตย์สุจริต และมีความกตัญญูต่อแผ่นดิน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี