นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลสำเร็จงาน “เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ 2567” หรือ“Maha Songkran World Water Festival 2024” โดยกล่าวขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งได้ร่วมกันจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ส่งผลให้ภาพรวมการจัดงานระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน 2567 มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานถึง 7.8 แสนคน เกิดเป็นกระแสเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 2.8 พันล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือโฆษกรัฐบาลได้กล่าวถึงการจัดงานมหาสงกรานต์ บริเวณถนนราชดำเนินกลาง และพื้นที่ท้องสนามหลวง ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)เป็นแม่งาน โดยชี้แจงในรายละเอียดว่า มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมงานถึง 784,883 คน มียอดขายร้านค้าภายในงาน รวม 9,334,335 บาท สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจถึง 2,886.82 ล้านบาท และจากการสำรวจของ ททท. นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติพึงพอใจอย่างมาก
“รัฐบาลชื่นชมความร่วมมือในการจัดงานเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ 2567 ขอบคุณทุกความร่วมมือที่ช่วยกันจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ และขอบคุณมิตรไมตรีที่คนไทยร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีในกิจกรรมวันสงกรานต์ 2567 ทั่วประเทศไทย เชื่อว่าความทรงจำ ที่เกิดจากการร่วมงานสงกรานต์ในไทย จะทำให้นักท่องเที่ยวติดใจเสน่ห์ความเป็นไทย และอยากเข้าร่วมงานสงกรานต์ปีต่อๆ ไปที่ประเทศไทย” นายชัย วัชรงค์ กล่าวชื่นชมและขอบคุณในนามรัฐบาล
และอันที่จริงแล้วเทศกาล“เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ 2567”ระดับเวิลด์เฟสติวัลอลังการงานสร้างในปีนี้นั้น ตัวตั้งตัวตีคือคุณหนูอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่เป็นคนตีเกราะเคาะปี๊บป่าวประกาศมาตั้งแต่ต้น ควรจะต้องอยู่ร่วมงานสงกรานต์ในปีนี้ที่ประเทศไทย
เพราะ“แพทองธาร ชินวัตร”เป็นคนออกตัวเรื่องการจัดงาน“มหาสงกรานต์”ที่จะใช้เป็นจุดขาย ขอยกคำพูดของเธอมาให้อ่านอีกครั้ง ซึ่งเธอได้กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมปลายปีที่แล้ว
“เราจะปักหมุดให้สงกรานต์ปีหน้า (เมษายน 2567) เป็นเทศกาลที่คนทั้งโลกต้องบินมาเล่นที่บ้านเรา และสงกรานต์ปีหน้า เราจะไม่เล่นน้ำแค่ 3 วันนะคะ แต่จะจัดงานกันทั้งเดือน ทยอยจัดกันทั้งประเทศ 77 จังหวัด เตรียมวางแผนกันได้เลยนะคะ ว่าสัปดาห์ไหนของเดือนเมษายน อยากจะไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่จังหวัดไหน มาร่วมกันทำให้สงกรานต์บ้านเรา เป็นเทศกาลที่ทั่วโลกต้องปักหมุดมาเล่นน้ำที่บ้านเรา และทำให้ประเทศไทยติด 1 ใน 10 ประเทศสุดยอดเฟสติวัลโลก”
ปรากกฎว่า แทนที่คุณหนูอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นทั้งรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะที่เป็นคนตีฆ้องร้องป่าวให้คนทั้งโลกมาปักหมุดเล่นสงกรานต์ในประเทศไทย กลับหนีไปเที่ยวต่างประเทศพร้อมลูกและสามี
ยังดีที่คุณหนูอุ๊งอิ๊งประกาศไว้ล่วงหน้าว่าจะ“ยกครัว”ไปเที่ยวฮ่องกงในช่วงสงกรานต์ หาไม่เช่นนั้นคงได้มีการประกาศแจ้งความ“คนหาย”ในช่วงที่มีการเฉลิมฉลอง“งานเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ 2567” เพราะผู้คนในโลกที่เป็นจริงไม่เห็นความเคลื่อนไหวของเธอในโลกเสมือนจริง อันเป็นเรื่องที่ผิดปกติตามวิสัยของอุ๊งอิ๊ง
เนื่องจากโดยปกติ “คุณหนูอุ๊งอิ๊ง”จะต้องโพสต์ความเคลื่อนไหวทั้งของตนเอง ของลูก ของสามี และในระยะหลังมีบิดาเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งคนอยู่ทุกเวลานาที ไม่ต่างจากนายเศรษฐา ทวีสิน เอะอะไรก็โพสต์“เสนอหน้า”ในสังคมออนไลน์ไว้ก่อน คล้ายกับผู้มีพฤติกรรม“Social Addiction” คือเกิด“ภาวะเสพติด” อันสุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคซึมเศร้า เครียด สมาธิสั้น และไบโพลาร์ได้
ทั้งในโลกเสมือนจริงและในโลกที่เป็นจริง ได้เห็นความเคลื่อนไหวของคุณหนูอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567 จากการไปร่วมเป็น“ตัวประกอบ”ในงาน“อภิมหาสงกรานต์รางน้ำ” ในคอนเซ็ปต์ “ม่วน หนุก สุข คัก” ระหว่างวันที่ 11-16 เมษายน 2567 ซึ่งกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงาน
“อุ๊งอิ๊ง”ไปปรากฏตัวพร้อมกับนายเศรษฐา ทวีสิน ที่เป็นประธานเปิดงาน และเธอยังได้ป่าวประกาศอย่างเจื้อยแจ้วแบบจับแพะชนแกะเกี่ยวกับประเพณีสงกราสต์ผสมปนเปกับ“ซอฟต์ พาวเวอร์”อีกว่า “จะทำให้พลังซอฟต์ พาวเวอร์ มหาสงกรานต์ไทย งานประเพณีมรดกโลกยูเนสโก ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ภายใน 4 ปีข้างหน้าจะเห็นผลอย่างชัดเจน ซึ่งจะทำให้ไทยมีจุดขายโดดเด่นในตลาดโลกต่อไป”
ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายนจนกระทั่งถึงวันนี้ วันสงกรานต์ที่เป็นจริงผ่านพ้นไปแล้ว ใครต่อใครเรียงหน้ากันออกมาชื่นชมว่า“งานสงกรานต์”ในปีนี้ประสบความสำเร็จ คนไทยและนักท่องเที่ยวต่างมีความสุขสนุกสนานรื่นเริงบันเทิงใจกันโดยทั่วถ้วน ได้สาดน้ำรดน้ำสอดคล้องกับสภาพอากาศร้อนจัดอย่างชื่นฉ่ำทั้งกายและใจ แต่คุณหนูอุ๊งอิ๊ง“เจ้าแม่ซอฟต์ พาวเวอร์”ก็ยังคงปักหมุดฉลองสงกรานต์อยู่ที่ฮ่องกง หรือที่ไหนบนโลกใบนี้โดยไม่เป็นที่เปิดเผย
ในท่ามกลางบรรยากาศของความสนุกสนานรื่นเริงบันเทิงใจจากเทศกาลสงกรานต์ในปีนั้นนี้ หากดูสถิติอุบัติเหตุ“ทางถนน”ที่เกิดขึ้นก็ยังนับว่าสูงแม้จะมีการรณรงค์กันอย่างเข้มข้นในช่วง 5 วันของของการรณรงค์ (11-15 เมษายน 2567) โดยเกิดอุบัติเหตุรวม 1,564 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 1,593 คน มีผู้เสียชีวิต 206 ศพ
เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีการรณรงค์ 7 วัน (11-17 เมษายน 2567) ไม่ใช่เพียงแค่ 5 วัน ก็จะเห็นว่าตัวเลขไม่ต่างกันมากนัก โดยปีที่แล้วเกิดอุบัติเหตุรวม 2,203 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 2,208 คน มีผู้เสียชีวิต 264 ศพ หรือเทียบกับปี 2565 ในช่วง 7 วันอันตราย เกิดอุบัติเหตุ 2,707 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 2,672 คน มีผู้เสียชีวิต 333 ศพ
สถิติที่ดีกว่าปีก่อน ก็คือ“คดีเมาแล้วขับ”มีจำนวนลดลง โดยในปีนี้คดีขับรถขณะเมาสุรามี 3,973 คดี เมื่อเทียบกับปี 2566 ปรากฏว่าลดลงถึง 32.3 เปอร์เซ็นต์ จากคดีที่เกิดขึ้นในปีที่แล้วทั้งหมด 5,869 คดี เท่ากับว่าปีนี้ลดลงมา 1,896 คดี ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครมีคดีเมาแล้วขับสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง รวม 446 คดี รองลงมาคือจังหวัดนนทบุรี 238 คดี และจังหวัดสมุทรปราการอันดับสาม 214 คดี
เทศกาลสงกรานต์ผ่านพ้นไปแล้ว อะไรๆ ก็ระเหยหายไปเร็วเหมือนน้ำที่สาดในวันสงกรานต์ แต่ที่ยังไม่หายก็คือความร้อนแรงทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ ทั้งเรื่องการแจกเงิน“ดิจิทัล วอลเล็ต” การปรับคณะรัฐมนตรี และรวมไปถึงการกลับมาของนักโทษหนีคดีที่ชื่อ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”โดยไม่ต้องติดคุก
ต้องจับตาดูว่า“เศรษฐา ทวีสิน”นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดจะสนองรับคำบัญชาของ“นักโทษเทวดา”อย่างไร เพราะทั้งสามเรื่องนี้คือ“ระเบิดเวลา”ที่อยู่ในมือของเศรษฐา ?!
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี