วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เมื่อมีคนตายก่อนเวลาอันสมควรย่อมนำความโศกเศร้าเสียใจแก่ทุกฝ่าย ไม่ว่าผู้ที่ล่วงลับไปแล้วจะความคิดเห็น หรืออุดมการณ์ทางการเมือง ความเชื่อแตกต่างจากเราอย่างไร ก็ต้องแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและญาติของผู้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
และการตายของผู้ที่มีความคิด และการกระทำสุดโต่งที่เอาชีวิตเข้าแลกเพื่อให้ได้มาตามที่ตัวเองต้องการซึ่งไม่มีวันจะเป็นไปได้ต้องพิเคราะห์ศึกษาว่า ที่คนเหล่านั้นยอมตายเพื่ออะไร ใครคือตัวการปลุกปั่นล้างสมองให้คนเหล่านั้นให้ถลำลึกไปไกลเกินกว่าจะกลับตัวได้ และอะไร คือ ปัจจัยทำให้คนเหล่านี้คิดสุดโต่ง กรณีนักศึกษารามคำแหงวัย 20 ปีราดน้ำมันจุดไฟเผาตัวตาย เมื่อวันที่ 14ตุลาคม 2533 มองจากประสบการณ์ทำข่าวในห้วงเวลานั้น สันนิษฐานจากความเข้าใจเองว่า คนรอบข้างที่หนุนหลังการเคลื่อนไหวด้วยกันมีส่วนสำคัญกดดันให้ นักศึกษาคนนั้นฆ่าตัวตาย
นักศึกษาวัย 20 ปี ที่ราดน้ำมันเผาตัวตายเป็นหนึ่งในกลุ่มนักศึกษา 10 คนที่รวมตัวกันชุมนุมแบบอหิงสาเพื่อเรียกร้องให้พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และจัดให้มีสภาประชาชนขึ้นบริหารประเทศแทนการชุมนุมเรียกร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้จึงไม่ได้ความสนใจจากประชาชนทั่วไป นักศึกษาเคราะห์ร้ายคนนั้นเลยโกนหัว กรีดเลือดประท้วงเรียกร้องความสนใจ การกระทำของเขาได้รับการสรรเสริญเยินยอจากคนรอบข้างและสื่อมวลชนให้ความสนใจมากขึ้น
นักศึกษาคนนั้นให้สัมภาษณ์สื่อว่า “เป้าหมายของเราคือขับไล่รัฐบาลพ่อค้า ขับไล่รัฐบาลเผด็จการรัฐสภา สถาปนารัฐสภาของประชาชนขึ้นมา..ฯลฯ” แต่ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว ยังไม่มีแนวร่วมเพิ่มขึ้นกดดันให้ นักศึกษาคนนั้น ประกาศว่า “หากพลเอกชาติชายไม่ลาออกผมพร้อมแลกด้วยชีวิต..” เวลาผ่านไปสองวันเหยื่อเคราะห์ร้ายคนนั้นถูกเยาะเย้ยถากถางจากคนรอบข้างว่าไม่แน่จริงบ้าง แสดงละครบ้าง และเป็นไปได้ว่า ถูกพรรคการเมืองที่อยู่เบื้องหลังลอยแพ สุดท้ายไม่รู้ใครหาน้ำมันเบนซินมาให้ ผู้เขียนรู้อีกที นักศึกษาคนที่ราดน้ำมันเผาตัวตายแล้ว
เชื่อว่าต้นเหตุความคิดสุดโต่งของ นักศึกษากลุ่มนั้น น่าจะได้รับการปลูกฝังแนวทางปฏิวัติจาก ประเสริฐ ทรัพย์สุนทรอดีตคอมมิวนิสต์ใหญ่ ที่เคลื่อนไหวปลุกปั่นการสร้าง “สภาประชาชน” ในเวลานั้น และมีรายงานว่าการเคลื่อนไหวปลุกปั่นให้มีสภาประชาชนได้รับการสนับสนุนจากพรรคความหวังใหม่ และหนึ่งในสิบ นักศึกษาที่เคลื่อนไหวเป็นอดีตผู้สมัคร สส.พรรคความหวังใหม่จึงสันนิษฐานว่า นักศึกษาวัย 20 ปี ที่ใช้น้ำมันเผาตัวตายได้ความคิดสุดโต่งมาจากอดีตคอมมิวนิสต์ใหญ่
ส่วนผู้ตายที่ระหว่างอยู่ภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์นั้น ยังสันนิษฐานไม่ได้ว่า ความคิดสุดโต่งของผู้ตายได้รับการปลูกฝังปลุกปั่นมาจากไหน เนื่องจากว่ามีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย รวมทั้งพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบัน และเจ้าหน้าที่ทูตตะวันตกที่มีเป้าหมายทำลายความมั่นคงภายในของประเทศไทย ตลอดถึงเอ็นจีโอที่เคลื่อนไหวให้ยกเลิกกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายปกป้องสถาบันฯ
พิเคราะห์จากพฤติกรรมของพรรคการเมือง เจ้าหน้าที่ทูตตะวันตก และเอ็นจีโอกลุ่มต่างๆ ที่เคลื่อนไหวให้การสนับสนุนให้กำลังทรัพย์ ให้กำลังใจผู้ตายอนุมานได้ว่า ผู้ตายได้รับการปลูกฝังปลุกปั่นมาจากองค์กรต่างๆ รวมทั้งพรรคการเมืองดังกล่าว และเป็นไปได้สูงว่าผู้ตายได้รับความเกื้อหนุนปัจจัยจากองค์กรทั้งหลายเหล่านั้น
มีกระแสข่าวมานานแล้วว่ามหาอำนาจตะวันตกใช้เงินมากมายมหาศาลให้พรรคการเมืองและเอ็นจีโอ กลุ่มต่างๆ เคลื่อนไหวทำลายความมั่นคงภายในของประเทศในเป้าหมายรวมถึงประเทศไทย แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันได้ ในกรณีผู้ตายระหว่างอยู่ภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์นั้น เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม Darin Karn โพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยหลักฐานที่ Forum Asia โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ชื่อผู้ตาย 139.000.00 บาท ทำให้เกิดสงสัยว่า Forum Asia ซึ่งจดทะเบียนเป็นองค์กรไม่ค้ากำไรตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมพัฒนาสิทธิมนุษย์และประชาธิปไตย ให้เงินผู้ตายเพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษยชน และพัฒนาประชาธิปไตยจริงหรือไม่?
จากภูมิหลังของผู้ตายมีความเคลื่อนไหวเน้นไปที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันสูงสุดของประเทศไทย และมีพฤติกรรมกร้าวก้าวท้าทายตลอดถึงเข้าข่ายดูหมิ่นสถาบันฯและละเมิดอำนาจศาล ผู้ตายถูกดำเนินคดีอาญา มาตรา 112 สามครั้ง และทุกครั้งที่ถูกคุมขังระหว่างการดำเนินคดี มีพรรคการเมืองกลุ่มเอ็นจีโอ และองค์กรต่างๆ แห่กันไปให้กำลังใจตลอดถึงทำเรื่องประกันตัวให้ จึงทำให้เกิดความสงสัยว่า ทำไมผู้แทนจากประเทศตะวันตกและพรรคการเมืองนั้นจึงเจาะจงสนับสนุนช่วยเหลือให้กำลังใจเฉพาะจำเลยที่กระทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 112
การสนับสนุนทั้งกำลังใจ และปัจจัยจากฝ่ายต่อต้านสถาบันฯ อาจทำให้ผู้ตายเหิมเกริมว่า ได้ทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่กล้าทำความกร้าวดุดันจึงเพิ่มขึ้นทุกวันจนถึงจุดที่คิดว่า ข้าคือผู้ยิ่งใหญ่ที่ต้องการสิ่งใดต้องได้รับตอบสนองจากทุกฝ่าย เมื่อถูกควบคุมตัวครั้งสุดท้ายผู้ตายถึงกับเรียกร้องในสิ่งที่ปฏิบัติไม่ได้ คือ “ให้ปล่อยนักโทษการเมืองทั้งหมดทันทีและปฏิรูปศาล”มิฉะนั้นเธอจะอดอาหารจนตาย
ข้อเรียกร้องผู้ตาย ได้การสนับสนุนจากทุกกลุ่มทุกฝ่ายที่มีอุดมการณ์เดียวกันกับผู้ตาย โดยไม่มีใครสักคนเตือนสติเธอว่าสิ่งที่เรียกร้องไม่อาจทำได้ การหมิ่นประมาทสถาบันสูงสุดของชาติ เป็นความผิดอาญา มิใช่ความเห็นต่าง หรือทำความผิดทางการเมือง การกัดกร่อนบ่อนทำลายสถาบันฯคือทำลายความมั่นคงภายใน ตรงกันข้ามผู้สนับสนุนคนตายพากันกดดันศาลและกรมราชทัณฑ์ให้ทำตามที่ผู้ตายต้องการเพื่อรักษาชีวิตจำเลย แต่ไม่มีใครสักคนบอกผู้ตายให้เลิกอดอาหารเพื่อรักษาชีวิตไว้ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ต่อไป
จึงอนุมานว่า นอกจากความคิดสุดโต่งแล้วผู้ที่สนับสนุนคนตายนั่นแหละที่คอยยุยงให้อดอาหารต่อไปจนสภาพร่างกายเธอไม่ไหวประกอบกับเธอใจสลาย เพราะคนใกล้ชิดทำร้ายในเดือนสุดท้ายก่อนเธอจะหมดลมหายใจ การตายของจำเลยอยู่ระหว่างถูกคุมขังจึงเป็นข่าวใหญ่ที่ทูตตะวันตกและพรรคการเมืองสนับสนุนปลูกฝังปลุกปั่นผู้ตายพากันแสดงความเสียใจ และตั้งคำถามว่า ใครต้องรับผิดชอบ การตายของจำเลยคดี 112 ถ้าตอบแบบขวานผ่าซากก็ต้องบอกว่า ผู้ที่สนับสนุนปลุกปั่นเธอนั่นแหละต้องรับผิดชอบต่อการตายในครั้งนี้ การตายของจำเลยอยู่ระหว่างถูกกักขัง จึงเป็นอุทาหรณ์สอนใจ มิใช่เป็นแบบอย่างที่คนรุ่นหลังควรทำตาม
สุทิน วรรณบวร

‘ทั่วไทย’ฝนกระหน่ำ อุตุฯเตือน‘7 จว.ภาคเหนือ’ตกหนัก ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าหลาก
‘คุณน้ำผึ้ง’เที่ยวเจาะลึก Unseen สามพันโบก
‘หนุ่ม-แท่ง’ พาทัวร์ ‘วัดสารนารถธรรมาราม’ สักการะคุณแม่บุญเรือน อร่อยกับอาหารทะเล จ.ระยอง
‘ลุค อิชิคาว่า’ นำทีมนักแสดง ‘Rock and Soul จังหวะร็อก ปาฏิหาริย์รัก’ เปิดคาแรกเตอร์ในจอ สู่ตัวจริงนอกจอ
‘มิตรรัก ทั่วไทย’ พาเที่ยวเมืองโอ่งมังกร จ.ราชบุรี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี