ฮอลลีวู้ดได้สร้างหนังประเภท “โหดดุดัน แอ๊กชั่นสุดซาดิสต์และผีดิบสุดสยอง” ออกมา มากมาย

หนัง “นรกแตก” แนวนี้ทุกเรื่อง “ตัวร้ายทั้งโขยง” ล้วนเป็นอสูรร้ายสายพันธุ์ “ข้ามาจากนรก” หรือ “Hellous” ทั้งสิ้น

โดยหนังฮอลลีวู้ดที่ใช้ชื่อ “Hell(นรก)” ปรากฏบนจอหนังตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ได้รับการกล่าวขานจาก “นักดูหนังระดับแฟนพันธุ์แท้” ได้แก่

“Hellous” เป็นหนังคาวบอยสุดโหดที่โด่งดังในทศวรรษที่ 1970 เนื้อเรื่องของหนัง “มีหนึ่งบิดาสุดกล้าและหกลูกชายสุดบ้า” ที่สร้างสีสันจนแฟนหนังนั่งก้นไม่ติดเก้าอี้ไปกับ“ความระห่ำ” ตลอดเรื่อง

ส่วนเรื่อง “The Hellbenders” สร้างในปีค.ศ.1967 และเรื่อง “Hellbent” สร้างในปีค.ศ.1993 เป็นหนังแนว “ซิ่งมหาภัย” ฉากตื่นเต้นคือเหยียบคันเร่ง “เข้าโค้งนรก” แบบไม่กลัวตาย

สำหรับเรื่อง “Hell and High Water” ที่สร้างในปีค.ศ.1954 และเรื่อง “Hell in the Pacific” สร้างในปีค.ศ.1968 เป็นหนังสงครามบู๊สนั่นหั่นแหลกระดับ “นรกแตกกลางทะเลลึก” เกี่ยวกับ ประวัติสงครามโลกครั้งที่ 2

โดยมีเรื่อง “Hell Night” สร้างปีค.ศ.1981 และเรื่อง “Hell Dolly (ตุ๊กตานรก)” สร้างปีค.ศ.1969 เป็นภาพยนตร์ปีศาจสยองขวัญเอาใจคนชอบหนังผี

ในบรรดาหนัง “สายพันธุ์นรก” หรือ “Hellous” ทั้งหลายทุกเรื่องที่ได้รับการกล่าวถึงนั้นคงต้อง “รีบชิดซ้าย” และ “รีบหลบไป”เพราะนักสร้างหนัง “นรกแตก” รายใหม่สุดเก่งกำลังมาแรง

ถูกแล้วครับ “พี่เนแห่งไซออนิสต์” ได้สร้างหนังชุด “นรกในกาซา” ออกฉายเป็นซีรี่ส์สุดมันผ่านมาแล้ว 8 เดือน ทุกซีรี่ส์ล้วน“สุดโหด สุดมัน” จนไม่มีหนัง “สายพันธุ์นรก” เรื่องใด“โหดทะลุจอ”เท่ากับหนังชุดนี้

“โหดทะลุจอ” เพราะหนังทุกฉากทุกตอน “พี่เน” ได้มอบบทบาทให้ “ทหารยิวแห่งไซออนิสต์ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Massacre) เหยื่อกลุ่มเปราะบางในกาซา โหดยิ่งกว่าอสุรกายโผล่มาจากขุมนรกทาร์ทารัส”

ล่าสุด “พี่เน” ได้นำหนังซีรี่ส์ “นรกแตกในกาซา” ตอน “เด็ดสุดและเหี้ยมสุด” ได้แก่ตอน “คืนนรกแตกในราฟาห์” ออกฉายในคืนวันอาทิตย์ที่ 26 ที่ผ่านมา จนนักดูหนังระดับแฟนพันธุ์แท้ทั้งโลกถึงขั้น “ตกตะลึง”

ถึงขั้นผู้นำหลายชาติทั่วโลกออกมาวิจารณ์หนังตอนนี้ว่า ผู้สร้างหนังผลิตหนังได้ “เหี้ยมดุดัน” จน “โลกต้องจดจำ”

ก็จะไม่ให้โลกจดจำได้อย่างไร? โดยเฉพาะ “ฉาก” ให้ทหารยิวแห่งไซออนิสต์ “ปฏิบัติการ Hellous ฆ่าเหยื่อที่เป็น Donna Donnaสุดเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้หญิงและคนชราตายทั้งเป็นในกองไฟเป็นโขยง”

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม