วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
การประชุมคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลเป็ดง่อย/หนูน้อยถุงเท้าหลากสี - เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบ “ร่างหนังสือแสดงความประสงค์ของไทย”ในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ “กลุ่มประเทศบริกส์ (BRICS)” โดยมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานประสานหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานการเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มบริกส์ของไทย
โดยรัฐบาลมองว่า “การเข้าร่วม” เป็นสมาชิกกลุ่ม จะช่วยยกระดับ “บทบาทของไทย” ในฐานะผู้มีบทบาทนำใน “กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา” และเพิ่มการมีส่วนร่วมในการ “กำหนดทิศทาง” นโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
เมื่อต้นปีนี้ “บริกส์”เพิ่งจะรับชาติสมาชิกใหม่อีก 5 ชาติอย่างเป็นทางการ ประกอบด้วย อียิปต์, เอธิโอเปีย, อิหร่าน, ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยความคาดหวังว่า จะกลายเป็นกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ พร้อมเพิ่มบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจของโลก และลดการพึ่งพาชาติตะวันตก
บริกส์(Brics)คือใคร สำคัญอย่างไรกับ “นโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ”
บริกส์เป็นองค์กรระหว่างประเทศ เป็นขั้วอำนาจใหม่ของเศรษฐกิจโลก เป็นความท้าทายใหม่ในการจัดระเบียบการค้าโลกและถ่วงดุลอำนาจของ “สหรัฐและ EU” เป็นการรวมกลุ่มเศรษฐกิจแบบกว้าง ไม่มีข้อกำหนดการเปิดตลาด และสิทธิประโยชน์เหมือน FTA
หากรัฐบาลไทยสามารถสมัครเข้าร่วมกลุ่มจะถือเป็นการเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจในอีกแง่มุม สามารถต่อรองกับกลุ่มเศรษฐกิจที่สำคัญในแต่ละทวีปทั่วโลก เอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ และนักลงทุนให้มีทางเลือกในการเข้าถึงตลาดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้า และ การลงทุน, การปฏิรูป IMF การเปลี่ยนสกุลเงินสํารองระหว่างประเทศสกุลใหม่แทนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อลดบทบาทและถ่วงดุลอำนาจทางการค้าโลกของสหรัฐฯ และ EU
เมื่อกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจแห่งนี้มีจำนวนสมาชิกมากขึ้น จะทำให้ครอบคลุมประชากรราว 3.5 พันล้านคน หรือราว 45% ของประชากรโลกหากพิจารณาในแง่มูลค่าทางเศรษฐกิจแล้ว ขนาดเศรษฐกิจของ “บริกส์” มีมูลค่ากว่า 28.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 28% ของมูลค่ารวมของเศรษฐกิจโลกที่สำคัญ คือ ประเทศสมาชิก “บริกส์” ยังเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบป้อนตลาดโลกราว 44% ด้วย
ที่ผ่านมา “บริกส์” ได้ก่อตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ (New Development Bank-NDB) ขึ้น เพื่อให้เงินกู้แก่ประเทศที่ต้องการนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศ โดย ธนาคารแห่งนี้ปล่อยกู้ให้ชาติกำลังพัฒนาเพื่อนำไปสร้างถนน, สะพาน, รางรถไฟ และโครงการพัฒนาน้ำประปา รวมเป็นมูลค่าเกือบ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ยิ่งสงครามการค้ารอบใหม่ ระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก กำลังจะปะทุอีกครั้ง ยิ่งทำให้ “บริกส์” อาจเคลื่อนย้ายเงินทุนไปยังชาติกำลังพัฒนาเพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อน หรือไม่ก็ลดทอนอำนาจของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินของโลกลง
ที่สำคัญ แนวนโยบายเศรษฐกิจรัฐบาลระบอบทักษิณเน้นแนวทางเศรษฐกิจแบบ “ประชานิยม”คือการอัดเม็ดเงินเพื่อให้เห็นผลในระยะสั้น เรียกคะแนนนิยมจาก “โหวตเตอร์” ในขณะที่ “บริกส์”เน้นนโยบายการปฏิรูปเศรษฐกิจ ที่จะส่งผลในระยะยาว
แน่นอนการเข้าเป็นสมาชิก “บริกส์”จะทำให้ตลาดการค้าระหว่างประเทศของไทย หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าการค้าโลกแบบสองขั้วอย่างในปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น “บริกส์” มีบทบาทต่อการค้าของไทยถึง 22.8% ของการค้ารวมของไทยทั้งหมด ใกล้เคียงกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (กลุ่มG7) ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 26.2% ของการค้ารวมของไทย
แต่ในสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ฝ่ายการเมืองย่ำยีบดขยี้กระบวนการยุติธรรมเพื่อใครบางคนเสียงสำรอกสำรากเปลื้องผ้าโชว์ว่า “เศรษฐกิจไทย”วิกฤตหายนะ
รัฐบาลเป็ดง่อยจะมี “น้ำหน้า , น้ำยา”ให้ “บริกส์”รับเข้าเป็นสมาชิกอย่างนั้นหรือ เพราะในคราว 5 ชาติที่ได้รับการพิจารณานั้นมีประเทศที่ยื่นใบสมัครเข้าเป็นสมาชิก “บริกส์” มากกว่า 15 ชาติด้วยซ้ำ
อย่างนี้ “นักการเมืองเสียชาติเกิด”กับ“พรรคการเมืองชังชาติ” ที่ได้ทุน “สหรัฐ” สนับสนุนจะไม่คัดค้านอย่างเอาเป็นเอาตายอย่างนั้นหรือ

รวบแล้ว กาน เวลไฟร์ มือยิงเก๋งบนทางทางพิเศษศรีรัช ย่านประชาชื่น
รมต.กัมพูชามั่นหน้าอีกหนึ่ง โพสต์เฟซเดือดๆ เขมรไม่มีทางพ่ายแพ้ ไทยไม่มีทางชนะ
ธรรมนัสของขึ้น! ฉะ อภิสิทธิ์ พูดหล่อ แต่มีผลงานอะไรบ้าง เหน็บบัญชีรายชื่อตัวเองสะอาดจัง
เปิดประวัติ กาน เวลไฟร์ วัยรุ่นพันล้าน เจ้าพ่อแวดวงรถมือสอง
ยูเอ็นออกโรงเตือน เมียนมาหยุดใช้ความรุนแรง บังคับขู่เข็นปชช.ไปเลือกตั้ง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี