“ผมกลับมาแล้วคนเสื้อแดงก็ควรจะกลับมา”เป็นคำประกาศของนักโทษพักโทษ ทักษิณ ชินวัตร ในงานบวชลูกชายนักการเมืองบ้านใหญ่ แห่งจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมาหลังจากเงียบหายไปหลายวันภายใต้ข้ออ้างติดโควิดจนไม่สามารถไปฟังอัยการสูงสุดสั่งฟ้องอดีตนายกรัฐมนตรี ข้อหาละเมิดกฎหมายอาญามาตรา 112 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมาได้ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า ผู้ต้องหากลัวว่าเมื่อศาลประทับรับฟ้องข้อหาผิดอาญาร้ายแรง จำเลยอาจต้องถูกส่งตัวเข้าเรือนจำทันที เนื่องจากจำเลยมีประวัติหนีคดีหนีศาลหนีคุก
ผู้ต้องคดีอาญามาตรา 112 ถึงได้พยายามถ่วงเวลา ปรึกษาทนายตลอดถึงเสาะหาอภินิหารกฎหมาย และเมื่อมีความมั่นใจว่าอภินิหารทางกฎหมาย อาจช่วยให้รอดพ้นคุก เฉพาะหน้าไปได้ ผู้ต้องหาจึงได้แสดงความอหังการ เรียกหาสมุนบริวาร ที่เคยติดคุกติดตะราง แม้กระทั่งยอมตายเพื่อนายใหญ่ในห้วงเวลาทศวรรษแห่งความมืดมนคำประกาศของนักโทษพักโทษที่ว่า “ผมกลับมาแล้ว คนเสื้อแดงก็ควรกลับมาได้” คือ คำบัญชาของนายใหญ่ว่าหากเจ้านายใหญ่เข้าคุกคนเสื้อแดง จะลุกฮือขึ้นมาสร้างความวุ่นวายจนคุมสถานการณ์ไม่ได้ และอาจเป็นเพราะความมั่นใจในความภักดีที่เสื้อแดง มีต่อนายใหญ่ตลอดถึงอภินิหารทางกฎหมายผู้ต้องหาจึงพูดว่า “ไม่มีอะไรมันเป็นผลมาจากต้นไม้พิษ” หรือผลพวงจากการปฏิวัติรัฐประหาร ที่ผู้ยึดอำนาจใช้ ม.112จ้องเอาผิดผู้ต้องหา
“พวกเขาบิดเบือนพยายามตีความ(คำสัมภาษณ์) ให้เข้าข่าย 112 ให้ได้” นายทักษิณกล่าวกับสื่อมวลชน แล้วอธิบายว่า นั่นเป็นวิธีการผู้ยึดอำนาจใช้ขจัดฝ่ายตรงข้าม ผู้ต้องหา ยังพูดมีการข่มขู่เจ้าหน้าที่ระหว่างการสอบสวน “เมื่ออัยการสั่งฟ้องแล้ว (อัยการสูงสุด) คนต่อมาก็ต้องสั่งฟ้อง ไม่เป็นไรผมชี้แจงกับอัยการได้”
นอกจากนั้น ผู้ต้องหายังฟาดงวงฟาดงา ไปถึง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลว่า“คนอยู่ในป่าวุ่นวายกังวลมากกว่าผม” คนอยู่ป่าในที่นี้ผู้ต้องหาละเมิดมาตรา 112 หมายถึงพลเอกประวิตร ซึ่งเป็น “ประธานมูลนิธิป่ารอยต่อ” ที่นักโทษพักโทษ พูดเย้ยหยัน เมื่อนักข่าวถามว่ากังวลเรื่องถูกสั่งฟ้องมาตรา 112 และเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาคดี นายเศรษฐา ทวีสินถูกร้องให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่
จึงสงสัยว่า ผู้ต้องหาที่อัยการสูงสุดนัดนำตัวขึ้นฟ้องศาลในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ เอาความมั่นใจมาจากไหนชี้แจงต่ออัยการได้ว่า ผู้ต้องหาถูกกลั่นแกล้งจากผู้ยึดอำนาจ ที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องตั้งแต่ พ.ศ.2559 สืบเนื่องจากนายทักษิณ ถูกกรมพระธรรมนูญทหาร แจ้งความดำเนินคดีจากการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ พาดพิง ถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2558 ต่อมา พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ. ขณะนั้น สั่งให้เจ้าหน้าที่กรมพระธรรมนูญ แจ้งความเอาผิดกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) และ อัยการสูงสุดในเวลานั้นสั่งฟ้องข้อหาละเมิด มาตรา 112 เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 นอกจากนั้น ฝ่ายความมั่นคง ยังเสนอให้ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และยกเลิกหนังสือเดินทางประเทศไทยของเขาด้วย แสดงว่า กรมพระธรรมนูญทหาร มีพยานหลักฐานแน่นหนา ที่จะเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ฝ่ายมั่นคงถึงได้เสนอให้ถอดยศผู้ต้องหาด้วย
หรือผู้ต้องหาแสดงความอหังการ เพราะได้รับคำแนะนำให้พูดว่า“ชี้แจงกับอัยการได้”ทั้งๆที่มันเลยขั้นตอนการชี้แจงไปแล้ว ต่อประเด็นนี้ ทนายเดชา นฤนารท ได้โพสต์บนเฟซบุ๊กว่า...“มีนักกฎหมายหลายคนมองกันผิดๆว่า เมื่ออัยการสูงสุดเป็นผู้ออกมาตัดสินกล่าวโทษต่อนายทักษิณในความผิดของมาตรา 112 แล้ว นั่นหมายความว่าคดีนี้ทักษิณ ไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ และไม่สามารถต่อสู้หรือหาช่องทางไหนจากศาลอื่นๆ ได้ ต้องรอคำพิพากษาโทษจากความผิดอย่างเดียว และต้องก้มหน้ารับชะตากรรมต่อความผิดที่ตนได้กระทำด้วยตนเอง จะ 3 ปี หรือ ปีครึ่ง หรือ หนีคดีออกนอกประเทศอีกรอบ และไม่มีโอกาสกลับประเทศไปตลอดชีวิต ต้องไปลุ้นกัน
ที่นักกฎหมายออกมาพูดทั้งหมดอาจจะไม่ถูกต้องเสียทีเดียว อย่าลืมว่า มาตรา 112 จัดอยู่หมวดกฎหมายความมั่นคงของชาติด้วย ตอนนั้นทักษิณอยู่ในสถานะอดีตนายกรัฐมนตรีและเป็นอดีตนักการเมือง หลักฐานจากการให้สัมภาษณ์ของทักษิณที่ชัดเจนมาก อาจไม่ใช่แค่เป็นเพียงรับโทษในคดีการพูดจาจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น แต่อาจได้รับโทษสูงสุดที่เกี่ยวข้องกับการคิดล้มล้างการปกครองของราชอาณาจักรไทย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ถ้าหวยออกมาดังเหมือนที่ผมได้เขียนเอาไว้ในวันนี้ โทษของทักษิณอาจสูงถึงให้ประหารชีวิต ติดคุกตลอดชีวิต เข้าข่าย มีพฤติการณ์เป็นกบฏล้มล้างการปกครอง และถ้าหวยออกมาเป็นแบบที่ผมเขียน ก็ย่อมจะต้องส่งผลสะเทือนไปถึงพรรคก้าวไกลทั้งหมดด้วย นั่นหมายความว่า หากมีผู้ออกมาร้องเรียนถึงพฤติกรรมของหัวหน้าพรรคก้าวไกล และการยอมรับในนโยบายแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ของ สส.พรรคทุกคน และมีหลักฐานให้ศาลเชื่อได้ว่า พรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์และจัดกิจกรรมส่งเสริมการคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งผู้ถูกร้องมีสถานะเป็นนักการเมืองและอดีตนักการเมือง และ เข้าหมวดของกฎหมายว่าด้วยความมั่นคงของชาติ นั่นย่อมหมายความว่า หากใช้ฐานความผิดของทักษิณเป็นแบบอย่าง
หากศาลพิจารณาว่าทักษิณ มีความผิดในความมั่นคงของชาติ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แกนนำพรรคและ สส.ทั้งหมด ก็จะถูกพิจารณาในความผิดเหมือนทักษิณทุกอย่างไปด้วย
ความหมายคือ นอกจากจะถูกสั่งยุบพรรคแล้ว ยังอาจได้รับโทษ ห้ามหัวหน้าพรรค กรรมการพรรคและ สส.ทุกคนในพรรค ห้ามลงเล่นการเมือง หรือเข้ามาเกี่ยวข้องกับทางการเมืองไปตลอดชีวิต นี่อาจจะเป็นหมากเกมสุดท้ายที่จะดัดนิสัยของทักษิณกับพรรคก้าวไกลได้แบบสนิท โดยไม่ต้องเสียเวลายืมมือทักษิณให้กำจัดพรรคก้าวไกลให้เสียเวลา เพราะมองว่า ลีลาลูกเล่นและเล่ห์เหลี่ยมของทักษิณนั้นยังมีอยู่เยอะมาก..ฯลฯ
ข้อความบนเฟซบุ๊กของทนายเดชา ยังครอบคลุมไปถึงคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญอยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องนายเศรษฐา ทวีสิน ถูกร้องด้วย แต่วันนี้ขอนำเฉพาะความเห็นทางกฎหมายที่ระบุว่านายทักษิณถูกอัยการสั่งฟ้องละเมิด ม.112 มาประกอบบทความว่า ม.112 ครอบคลุมไปถึงความมั่นคงของชาติ ที่นายทักษิณไม่สามารถจะดีลกับใครได้เหมือนคดีอื่นๆ ที่ผู้ต้องหารอดคุกรอดตะรางมาได้ด้วยอภินิหารทางกฎหมายหรือวิธีการใดก็ตาม
ดังนั้นคำพูดของผู้ต้องหาที่ว่า ไม่มีปัญหาอะไร สามารถชี้แจงกับอัยการได้ จึงเป็นเพียงแสดงความอหังการของคนปากกล้าขาสั่นที่แสดงละครให้สมุนบริวารฮึกเหิมมั่นใจ พร้อมจะสร้างความวุ่นวายหรือติดคุกติดตะรางแม้กระทั่งตายแทนได้เมื่อนายใหญ่บัญชา
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี