วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เกิดเหตุระทึกที่ห้องประชุมสัปปายะสภาสถาน ระหว่างการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 กับวาทกรรมวรรคทอง “ignore thailand เจ๊งไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้” ที่นำเสนอโดย “พรรคก้าวไกล” ที่ยังไม่รู้ว่าจะยังยืนหยัดทำหน้าที่ “ท่านผู้ทรงเกียรติ” ได้อีกกี่มากน้อย หลังกกต.ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคตามมาตรา 92 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2561
วาทกรรมวรรคทองถูกตอบโต้โดย ดนุพรปุณณกันต์ สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยในยุคที่มี “อุ๊งอิ๊ง/แพทองธาร ชินวัตร ...ลูกสาวนักโทษคดีทุจริตคอร์รัปชั่นโกงบ้านกินเมืองฉ้อฉลเงินแผ่นดิน, ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 และผิดพ.ร.บ.คอมฯ–ทักษิณ ชินวัตร”เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ดนุพรตอบโต้วาทกรรมวรรคทองที่ว่า “โดยเริ่มต้นอธิบายนิยามคำว่า “เจ๊ง” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตว่าหมายถึงสิ้นสุด, ล้ม, หมดยกตัวอย่าง กรณี “พรรคก้าวไกลต้องคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรค นั่นแหละเจ๊งของจริง แต่ประเทศไทยและรัฐบาลเจ๊งไม่ได้ ก่อนจะอวยงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2568มุ่งเป้าหมายแก้ปัญหาระยะกลาง ระยะยาว
คำอภิปรายที่ขย้อนสำรอกสำรากออกมานั้นคล้ายอาการผายลมทางปากของ “อนุสรณ์เอี่ยมสะอาด สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย”เมื่อครั้ง “สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ - นิด้า”เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นในประเด็นความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลหลังบริหารประเทศมาได้ 9 เดือน ซึ่งพบว่าประชาชนไม่พอใจการทำงานรัฐบาลในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา อนุสรณ์ อ้างว่า
“การเข้ามาเป็นรัฐบาลที่ต้องแก้ปัญหาที่สะสม เสมือนเป็น 9 ปีที่สูญหายจากการรัฐประหารเป็นโจทย์ยาก รัฐบาลต้องทำงานในมิติของการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ระยะกลาง และวางรากฐานเพื่อแก้ไขปัญหาในอนาคตต่อไป” อย่างไม่ “สำเหนียก”ข้อเท็จจริง ไม่คิดจะสานงานต่อ เพราะอายที่ตำหนิที่ลอบกัดลอบด่ามาตลอดและไม่คิดที่จะก่องานใหม่ยึดติดกับนโยบาย “โครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท” จนทำให้เศรษฐกิจประเทศอยู่ในภาวะตกต่ำ จนมีรายงานจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยว่า ...
...“ครึ่งปีแรกผู้ประกอบการไทยต้องปิดโรงงานไปแล้วมากกว่า 360 แห่ง คิดเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 9,400 ล้านบาท เลิกจ้างแรงงานไปแล้วกว่า 10,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ย 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมประเมิน ยอดการปิดโรงงาน อาจเพิ่มขึ้นมากกว่า700 แห่ง หากรัฐบาล ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท เท่ากันทั่วประเทศ” ...
หรือที่ว่านี่เกิดจาก “ปัญหาสะสม ... ที่มาจากรัฐบาลคสช. นี่คือ 9 ปีที่สูญหายอย่างนั้นหรือ!?!?! อย่าอายถ้าจะสำเหนียก
นักการเมืองไม่มีสิทธิ์อายที่จะพูดจะยอมรับความจริง
อย่าต้องผลักดัน 142 นโยบาย ต้องทลาย6 พันธนาการ เลยเอาแค่นโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจเร่งด่วน อาทิ โครงการ “คนละครึ่ง” ให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจ เกิดการจับจ่ายใช้สอยสักนิด ชีวิตความเป็นอยู่พ่อค้าแม่ค้าก็จะดีขึ้น ไม่อย่างนั้นเสียงครวญครางเรียกหา “ลุงตู่ - พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา”คงไม่อื้ออึงสนั่นเมืองเยี่ยงนี้แน่นอน
เพราะถึงวินาทีนี้ มีผลงานเดียวที่โดดเด่น แต่เป็นสง่ามีราศีหรือไม่ยังต้องรอซาวอีก 15-20 น้ำกระมัง
ขายข้าว 10 ปีใน “ระบอบคอร์รัปชั่นนิยม” ให้บริษัทที่มีทุนจดทะเบียนบริษัท 2 ล้านบาทมีงบดุลปีละ 1-2 ล้านบาท แต่ประมูลข้าวมูลค่า 300 ล้านบาท มันจะเป็นไปได้เชียวหรือไม่แปลกใจสักนิดเลยงั้นสิ

'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้
'ปราชญ์ สามสี'ฟาด! 'พรรคส้ม' ใช้ 'สองมาตรฐาน' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค
ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่
'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น
'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี