วันเสาร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นักการเมืองหลายคนสภากาแฟคอการเมืองหลายคนมโนไปว่า สังคมไทยกำลังย่างก้าวเข้าสู่การเมืองยุคใหม่ ที่ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ”อดีตสส.พัทลุง นักการเมืองตัวตึงค่ายสีฟ้า พระแม่ธรณีบีบมวยผม พรรคประชาธิปัตย์ เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “Postmodern” เป็นโลกยุคหลังสมัยใหม่”น่าจะคล้ายกับ “New Nomal” หลัง “วิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)”
ปรากฏการณ์ที่ว่านี้ไม่มีใครทำนายได้ว่ามันจะจบลงอย่างไร คนมีความเชื่อที่เป็นอิสระ ไม่ผูกพันความคิดเก่า มันเกิดขึ้นเพราะระบอบประชาธิปไตย และ ทุนนิยม ก่อให้เกิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวยมากที่สุด คนไม่มีความหวัง จึงต้องการความเปลี่ยนแปลง โดยคิดระบบใหม่ที่ไปตายเอาดาบหน้า ที่ประดิษฐ์วาทกรรม เพื่อแยกสังคมออกเป็นสองฝ่ายอีกครั้ง หลังเคยจบในยุค คสช.มาแล้ว ที่ศาลรัฐธรรมนูญออกมากำราบ …เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2567 กรณีการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49วรรคหนึ่งหรือไม่ จากการเคลื่อนไหวนำเสนอยกเลิก/แก้ไขปอ.มาตรา 112
ขณะที่การเมืองเก่า ที่เชื่อมั่นกับระบอบทักษิณ และระบอบคอร์รัปชั่นนิยม ก็พยายามที่จะสกัดกั้นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่อาจจะเกิดขึ้น ด้วยแนวทาง “ประชานิยม” เดิมๆ เพื่อสมประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย นำเงินจากผู้เสียภาษีอากรซึ่งเป็นรายได้หลักของรัฐ ไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย “จก แจก จบ”ตามปรัชญา “ประชานิยม” แต่กลับปฏิเสธการ “ปฏิรูประบบเศรษฐกิจ”ที่สร้างคะแนนนิยมช้า
ขณะที่ “นักโทษเด็ดขาดชายคดีทุจริตคอร์รัปชั่น โกงบ้านกินเมืองฉ้อฉลเงินแผ่นดิน - ทักษิณ ชินวัตร” วางบทบาทตนเองเหนือสังคมไทยเหนือรัฐบาลเหนือรัฐสภาเหนือระบบยุติธรรมก็ยังพยายามยึดกุมอำนาจอธิปไตยแบบเบ็ดเสร็จ
ที่พูดกันว่าประชาธิปไตยดีกว่าระบบใด นั้นหลับตาพูด…คนไทยก็หลงเพ้อหลงเชื่อฝรั่ง ที่ว่าประชาธิปไตยนี้เพื่อประชาชน ของประชาชน โดยประชาชน แต่ลืมพูดไปว่าที่มีศีลธรรม ...
เมื่อไม่มีศีลธรรมเป็นพื้นฐานแล้ว ระบบประชาธิปไตยนั่นแหละ จะเป็นระบบที่เลวร้ายที่สุด แห่งระบบทั้งหลาย
จาก “เมืองไทยใหญ่อุดม ดินดีสมเป็นนาสวน”ทว่าการเมืองในระบอบทักษิณ/ระบอบคอร์รัปชั่นนิยม,ประชานิยมซึ่งนับวันบ้านเมืองที่เคยรุ่งเรืองจาก“อีสเทิร์นซีบอร์ด” และ “EEC-อีอีซี” ที่สร้างความรุ่งเรืองให้ประเทศชาติ สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนต่างประเทศนับวันจะถอยหลังลงรูจนอนาคตจะไม่มีแม้นนาสวนพืชไร่
นักการเมืองเสียชาติเกิด/นักการเมืองชังชาติผุดบานเป็นดอกเห็ด ประดิษฐ์วาทกรรม สร้างปรากฏการณ์วาดฝันก่อปฏิกิริยาแบ่งแยกสังคมไทย ทำให้คนไทยด้วยกัน “แตกความสามัคคี”
ทำประชานิยม “อัฐยายขนมยายด้วยนโยบายแจกเงินผ่านดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท”
ออกนโยบายขายชาติให้ทุนต่างด้าวเช่าแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนได้ 99 ปี ซื้อคอนโดมิเนียมได้ 75% ในวันที่คนไทยจำนวนไม่น้อยไม่มีบ้านพักอาศัยของตนเอง เกษตรกรชาวไร่ชาวนาไม่น้อยไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง
นี่คือพฤติกรรมพฤติการณ์ชั่วร้าย “เห็นแก่ตัว”ของ “นักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่ไม่มีศีลธรรม” และในระบอบทักษิณ/คอร์รัปชั่นนิยม
มันเป็นปัญหาลักษณะเดียวกันทั้งโลก ทางแก้อยู่ที่นักการเมือง กับ คุณภาพของประชาชน
ถึงเวลาสังคมรัฐและประชาชนคนไทยจะกำจัดซากสัตว์เดรัจฉานเหล่านี้ให้พ้นสังคมไทย,จะพร้อมใจกันลุกขึ้นมาปกป้องอำนาจอธิปไตย รักษาสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ให้ดำรงสถาพรคู่บ้านคู่เมืองไทยกันได้หรือยัง!?!?!

กำปั้นไทยไร้พ่าย! ลิ่ว 7 รุ่นต่อยซีเกมส์
เลขาวุฒิสภา แจ้ง สว. ยกเลิกประชุมวุฒิสภา 15- 16 ธ.ค.นี้ หลังยุบสภาแล้ว
ดร.จักษ์ ชม อนุทิน ตัดสินใจระดับรัฐบุรุษ ยุบสภาครั้งนี้ เผาพรรคส้มเหลือแต่ขี้เถ้า
กกต. กางแนวทาง ค่าใช้จ่าย สส. ช่วงเลือกตั้ง พรรคการเมืองหาเสียงได้ตั้งแต่วัน ยุบสภา
ปูติน ยกระดับชีวิตพลเมืองรัสเซีย อัตราความยากจนลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี