วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิด เขียน คุย
คิด เขียน คุย

คิด เขียน คุย

รุ่งเรือง ปรีชากุล
วันพฤหัสบดี ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
ค้าน‘รัฐบาลเศรษฐา’ขายชาติขายแผ่นดิน ?!

ดูทั้งหมด

  •  

นอกจากเรื่อง“อุทยานแห่งชาติทับลาน”ที่กำลังจะถูกนักการเมืองฉ้อฉลปล้นผืนป่าไปสนองประโยชน์ตนเองและนายทุนเจ้าของรีสอร์ทแล้ว

อีกเรื่องหนึ่ง คือการที่รัฐบาลซึ่งมีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์เป็นนายกรัฐมนตรี..กำลังจะแก้กฎหมายให้ชาวต่างชาติถือครองอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารชุด  หรือคอนโดมิเนียม..จากร้อยละ 49 เป็นร้อยละ 75..และขยายการเช่าที่ดินหรือที่เรียกว่า“ทรัพย์อิงสิทธิ”จาก 30 ปีเป็น 99 ปี..ซึ่งกล่าวโดยรวมก็คือ..“ให้ต่างชาติถือครองคอนโดฯได้ร้อยละ 75-ให้เช่าที่ดินได้ 99 ปี”นั้น


เรื่องนี้แม้รัฐบาลจะบอกว่าไม่ใช่เป็นการขายชาติขายแผ่นดินกิน..แต่ผลที่จะตามมาก็คล้ายการการขายชาติขายแผ่นดินกิน..โดยผู้ที่ได้รับประโยชน์เต็มๆ คือทุนใหญ่เจ้าของธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ไม่กี่ตระกูล..ที่เห็นๆ  อยู่ในเวลานี้ ก็มีตระกูลแสนสิริ และตระกูลชินวัตร และพวกพ้องวงศ์วานว่านเครือที่ดำเนินธุรกิจด้านนี้

ย้อนทวนความจำกันอีกนิด..เรื่องนี้เป็นมติเห็นชอบจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567..ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในที่ประชุมแทนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่อ้างว่า“ติดโควิด”จึงขอลาป่วย..และที่ประชุม ครม.ในวันนั้นได้มีมติให้กระทรวงมหาดไทยไปศึกษาความเป็นไปได้..ตลอดจนพิจารณาทบทวนแก้ไขกฎหมายและกฎเกณฑ์ข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

จากนั้นในวันที่ 20 มิถุนายน  2567 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือด่วนที่สุด..เรื่อง “มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์” ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้รับลูกดำเนินการต่อ..โดยอ้างถึงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 เรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์..และการเตรียมการเพื่อรองรับการดำเนินการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมือง แห่งอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision)

หนังสือด่วนที่สุดของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีฉบับนี้ลงนามโดยนางสาวสาวิตรี ชำนาญกิจ  รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการคณะรัฐมนตรี..ระบุว่า“ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (วันที่ 9 เมษายน 2567) เรื่อง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์..โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษามาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น..เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับมหภาค..ตลอดจนดึงดูดนักลงทุนขนาดใหญ่ให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย..โดยมีปัจจัยต่างๆ ที่จะส่งเสริมการเข้ามาทำงานของชาวต่างชาติที่มีศักยภาพ..จึงขอให้กระทรวงมหาดไทยศึกษาความเป็นไปได้”

ความเป็นไปได้ที่กระทรวงมหาดไทยจะต้องพิจารณาศึกษาหาข้อสรุปตามหนังสือด่วนที่สุดของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี..มีสองประการที่สำคัญคือ

ประการแรก—พิจารณาทบทวนการกำหนดระยะเวลาของทรัพย์อิงสิทธิตามพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ.2562 โดยกำหนดให้ทรัพย์อิงสิทธิมีกำหนดเวลาได้ไม่เกิน 99 ปี

ประการที่สอง—พิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการให้สิทธิคนต่างด้าวสามารถถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด..จากเดิมไม่เกินร้อยละ 49 เป็นไม่เกินร้อยละ 75..โดยอาจกำหนดเงื่อนไขอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการของนิติบุคคลอาคารชุด เช่น การจำกัดสิทธิการออกเสียงของคนต่างด้าว..และนิติบุคคลต่างด้าวที่ได้เข้ามาถือกรรมสิทธิ์ในภายหลังจากที่เกินอัตราส่วนร้อยละ 49

และนอกจากนั้น..ในหนังสือด่วนฉบับนี้  ยังระบุด้วยว่า “หากมีความจำเป็นต้องตราหรือแก้ไขปรับปรุงกฎหมายประการใดเพื่อรองรับการดำเนินการในเรื่องนี้..ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการตามขั้นตอนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว..โดยให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย..และเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป”

อย่างไรก็ตาม  ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้นายเศรษฐา ทวีสิน จะออกมายืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้แก่ชาวต่างชาติและทุนใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์..หากแต่เป็นมาตราการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ..แต่คนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่ได้กินหญ้ากินแกลบ..เมื่อได้ฟังแล้วก็ไม่มีใครเชื่อ

ด้วยเหตุที่ทุกคนเขาเห็นต้องตรงกันว่า..นอกจากทุนใหญ่เจ้าของโครงการที่ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์เพียงไม่กี่ตระกูลจะได้ประโยชน์แล้ว..การแก้กฎหมายทรัพย์อิงสิทธิโดยขยายระยะเวลาให้ต่างชาติเช่าที่ดินได้ 99 ปี จากเดิมที่ไม่เกิน 30 ปีนั้น..ก็ไม่ต่างจากการขายแผ่นดินให้แก่ชาวต่างชาติ

โดยที่นานวันเข้า, จังหวัดใหญ่ๆ ที่เป็นทั้งเมืองหลักและเมืองรองของประเทศไทย..ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่, ภูเก็ต, พัทยา, หัวหิน, กระบี่  และรวมทั้งกรุงเทพฯเมืองหลวงของประเทศไทย..ก็อาจจะกลายเป็น“สภาพนอกอาณาเขต”..หรือ“สิทธิสภาพนอกอาณาเขต”ในทางพฤตินัยให้แก่ชาวต่างชาติไปโดยปริยาย

อย่างที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ เวลานี้..คนเขารู้กันทั้งเมืองว่า  ไม่ว่าจะเป็นห้องชุด หรือหมู่บ้านจัดสรรโครงการต่างๆ..คนจีนได้เข้ามาครอบครองและอยู่อาศัยด้วยการใช้“เงินสด”ซื้อยกโครงการกันเต็มไปหมด..ลักษณะเดียวกันกับที่“แก๊งตู้ห่าว”ซื้อยกโครงการบ้านเดี่ยวย่านสุขุมวิท ของ"แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท"ที่เคยเป็นข่าวครึกโครมก่อนหน้านี้

ถึงขนาดเรียกันว่าเป็น“มณฑลใหม่”ของคนจีนจากแผ่นดินใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่เลยก็ว่าได้..โดยคนจีนเหล่านี้เข้ามาอยู่กันเป็นครอบครัว..ใช้วิธีให้ลูกหลานมาเข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติ..และญาติพี่น้องผู้ปกครองก็ใช้สิทธิอยู่อาศัยในฐานะผู้ติดตาม..ขณะเดียวกันทุกหมู่บ้านหรือทุกโครงการ..ล้วนมีมินิมาร์ทเปิดขายของให้แก่คนจีนด้วยกันเอง

ดังนั้น คนไทยที่ไม่ได้กินหญ้ากินแกลบจึงเห็นว่า..การที่จะทบทวนแก้ไขกฎหมายเพื่อ“ให้ต่างชาติถือครองคอนโดฯได้ร้อยละ 75-ให้เช่าที่ดินได้ 99 ปี”..ก็คือการ“กระตุ้นเศรษฐกิจ”เพื่อเข้ากระเป๋าทุนใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์เพียงไม่กี่ตระกูล..เป็นการ“ขายชาติ-ขายแผ่นดิน”กินนั่นเอง !!

 

รุ่งเรือง ปรีชากุล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
18:10 น. กต.ย้ำไทยให้ความสำคัญทุ่นระเบิด หลังทหารเสียขาที่ 8 พบหลักฐานเขมรมีเจตนา
18:04 น. TMAC ประณาม กัมพูชา ฝ่าฝืนกฏหมายมนุษยธรรม เจตนามุ่งทำร้ายทหารไทย
17:54 น. ในหลวงโปรดเกล้าฯ พระราชทานดอกไม้-สิ่งของ แก่ทหารบาดเจ็บชายแดนไทย-กัมพูชา
17:47 น. เปิดภาพ ‘เอกนิติ-ศุภจี’ ร่วมแจมร่างนโยบายหาเสียง ‘ภูมิใจไทย’
17:39 น. นายกฯ รอ สีหศักดิ์ แจงรายละเอียดประชุม GBC ชี้หยุดยิงให้ ‘กองทัพ’ ตัดสินใจด้านความมั่นคง
ดูทั้งหมด
เปิดใจมรสุมชีวิต! อาจารย์อดัม เล่าทุกอย่างหลังชีวิตพลิกผันครั้งใหญ่
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 20-26 ธ.ค.68
เอาคะแนนผมไปเลย! 'น็อต วรฤทธิ์'โพสต์ตัดสินใจแล้ว จนคนแห่คอมเมนต์สนั่น
ทรัมป์ สั่งแบนเพิ่ม ห้ามพลเมือง 5 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐฯ มีผล 1 ม.ค.ปีหน้า
ขอกำลังใจด้วยนะคะ ธิษะณา โพสต์พร้อมสมัครงานใหม่ หลังพรรคไม่ส่งสมัครสส.กทม.
ดูทั้งหมด
ว่าด้วยสื่อ
เวลากับชีวิตมนุษย์ เราควรจักใช้เวลาทำอะไร ให้มีคุณค่าความหมาย 1
ยึดเนิน 350?
ทหารไทยชนะศึก พิชิตใจคนไทยทั้งแผ่นดิน
บุคคลแนวหน้า : 22 ธันวาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

กต.ย้ำไทยให้ความสำคัญทุ่นระเบิด หลังทหารเสียขาที่ 8 พบหลักฐานเขมรมีเจตนา

TMAC ประณาม กัมพูชา ฝ่าฝืนกฏหมายมนุษยธรรม เจตนามุ่งทำร้ายทหารไทย

เช็คสถานะที่นี่ กกต.เปิดช่องทางลงทะเบียน เลือกตั้งล่วงหน้า ครอบคลุม แก้ไขสถานที่–แจ้งปัญหา

เปิดภาพงานแต่งคู่รักซูเปอร์สตาร์เกาหลี คิมอูบิน-ชินมินอา ซูมดีเทลชุดบ่าวสาวมูลค่าหลักล้าน

ประธานหอการค้าสหรัฐฯในกัมพูชายื่นจมูก โพสต์ยาวประณามไทยโจมตีเขมรแล้ว23ครั้ง

'เรวัช'ชื่นชม'อนุทิน'กราบเคารพศพทหารผู้น้อย ชงเลื่อนยศ'นักรบ'แนวหน้า

  • Breaking News
  • กต.ย้ำไทยให้ความสำคัญทุ่นระเบิด หลังทหารเสียขาที่ 8 พบหลักฐานเขมรมีเจตนา กต.ย้ำไทยให้ความสำคัญทุ่นระเบิด หลังทหารเสียขาที่ 8 พบหลักฐานเขมรมีเจตนา
  • TMAC ประณาม กัมพูชา ฝ่าฝืนกฏหมายมนุษยธรรม เจตนามุ่งทำร้ายทหารไทย TMAC ประณาม กัมพูชา ฝ่าฝืนกฏหมายมนุษยธรรม เจตนามุ่งทำร้ายทหารไทย
  • ในหลวงโปรดเกล้าฯ พระราชทานดอกไม้-สิ่งของ แก่ทหารบาดเจ็บชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลวงโปรดเกล้าฯ พระราชทานดอกไม้-สิ่งของ แก่ทหารบาดเจ็บชายแดนไทย-กัมพูชา
  • เปิดภาพ ‘เอกนิติ-ศุภจี’ ร่วมแจมร่างนโยบายหาเสียง ‘ภูมิใจไทย’ เปิดภาพ ‘เอกนิติ-ศุภจี’ ร่วมแจมร่างนโยบายหาเสียง ‘ภูมิใจไทย’
  • นายกฯ รอ สีหศักดิ์ แจงรายละเอียดประชุม GBC ชี้หยุดยิงให้ ‘กองทัพ’ ตัดสินใจด้านความมั่นคง นายกฯ รอ สีหศักดิ์ แจงรายละเอียดประชุม GBC ชี้หยุดยิงให้ ‘กองทัพ’ ตัดสินใจด้านความมั่นคง
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เขมรหมดเขี้ยวเล็บสิ้นสภาพทางทหาร

เขมรหมดเขี้ยวเล็บสิ้นสภาพทางทหาร

22 ธ.ค. 2568

‘เนิน 350’สมรภูมิสุดท้ายเผด็จศึกเขมร

‘เนิน 350’สมรภูมิสุดท้ายเผด็จศึกเขมร

19 ธ.ค. 2568

‘เศษสวะ’รกบ้านรกเมือง

‘เศษสวะ’รกบ้านรกเมือง

18 ธ.ค. 2568

แผ่นดินของเรา

แผ่นดินของเรา

17 ธ.ค. 2568

‘ยึดปราสาทตาควาย’สงครามใกล้จบ‘เขมรระส่ำ’

‘ยึดปราสาทตาควาย’สงครามใกล้จบ‘เขมรระส่ำ’

16 ธ.ค. 2568

‘ธนาธร-พิธา’กับสงครามเขมร

‘ธนาธร-พิธา’กับสงครามเขมร

15 ธ.ค. 2568

ต้องเผด็จศึกเขมรโดยเร็วก่อน‘ฝูงอีแร้ง’ลงรุมทึ้ง

ต้องเผด็จศึกเขมรโดยเร็วก่อน‘ฝูงอีแร้ง’ลงรุมทึ้ง

12 ธ.ค. 2568

‘เผด็จศึกเขมร’ไม่มีการหยุดยิง

‘เผด็จศึกเขมร’ไม่มีการหยุดยิง

11 ธ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved