สหรัฐอเมริกานั้น จริงๆ แล้วไม่ใช่เมืองศิวิไลซ์ แต่เป็นดินแดนที่ผู้คน“โหด-ดิบ” ความรุนแรงที่เกิดขึ้นล่าสุดกรณี“โดนัลด์ ทรัมป์”อดีตประธานาธิบดีสหรัฐและผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจากพรรครีพับลิกัน ถูกลอบยิงกลางเวทีการหาเสียง ในรัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เป็นบทสะท้อนที่ชัดเจน
ในอดีตนั้น มีอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเคยถูกลอบสังหารเสียชีวิตมาแล้ว 4 คน คือ อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 14 (เสียชีวิตปี 2408), เจมส์ เอ การ์ฟิลด์ ประธานาธิบดีคนที่ 20 (เสียชีวิตปี 2426), วิลลียม แมคคินเลย์ ประธานาธิบดีคนที่ 25 (เสียชีวิตปี 2444) และจอห์น เอฟ เคนเดนดี ประธานาธิบดีคนที่ 35 (เสียชีวิตปี 2506)
“โดนัลด์ ทรัมป์” วัย 78 ปี อดีตประธาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา จากพรรครีพับลิกัน ถูกลอบยิงในระหว่างการปราศรัยที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลวาเนีย เพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ โดยหัวข้อที่เขาปราศรัยเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาคนลักลอบเข้าประเทศ
ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า ขณะที่“โดนัลด์ ทรัมป์”กำลังปราศรัยอยู่นั้น ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ก่อนที่ทรัมป์จะยกมือขวาขึ้นมาจับที่คอ และเห็นเลือดอยู่บนหน้า ซึ่งในทันใดนั้นเจ้าหน้าที่อารักขาก็ได้เข้าไปช่วยนำตัวทรัมป์ลงมาจากเวที ท่ามกลางเสียงร้องของฝูงชน
ทั้งนี้ มีภาพวิดีโอในตอนเกิดเหตุ เห็นภาพทรัมป์แสดงสีหน้าบูดบึ้ง และยกมือขวาขึ้นมาปิดที่หูข้างขวาก่อนที่จะมุดตัวลง ท่ามกลางเสียงปืนที่ดังขึ้นหลายนัด และเจ้าหน้าที่อารักขาได้นำตัวเขาลงจากเวที
และระหว่างที่เขาถูกนำตัวออกจากที่เกิดเหตุ ทรัมป์ยังหันกลับมาชูกำปั้นให้กล้อง พร้อมกับสียงเชียร์ที่ดังขึ้น จากนั้นขบวนรถของทรัมป์ก็ออกจากสถานที่ปราศรัยไปโรงพยาบาลทันที ซึ่งทีมหาเสียงของทรัม์แถลงในเวลาต่อมาว่าทรัมป์อยู่ในอาการปลอดภัย โดยได้รับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้แถลงหลังจากอยู่ในอาการปลอดภัยผ่าน“โซเชียลแพลตฟอร์ม Truth” ว่า เขาขอขอบคุณตำรวจลับสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายต่อการรับมือสถานการณ์อย่างรวดเร็วขณะเกิดเหตุ และขอแสดงความเสียใจต่อเหยื่อผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย พร้อมกับระบุว่าเวลานี้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับมือปืนที่ถูกตำรวจลับสหรัฐฯวิสามัญฆาตกรรมไปแล้ว
นอกจากนั้น ทรัมป์ยังได้เล่าถึงนาทีมรณะว่า “ผมถูกยิงด้วยกระสุนปืนเจาะเข้าที่ด้านบนของหูขวาของผม ซึ่งผมรู้ในทันทีว่ามีสิ่งผิดปกติ ผมได้ยินเสียงดังเหมือนลมพัดผ่าน ปืนยิง และรู้สึกในทันทีว่ากระสุนเจาะผ่านผิวหนัง เลือดไหลออกมาก ดังนั้น ผมรู้ในทันทีว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น--GOD BLESS AMERICA!”
สำหรับมือสังหารที่อาศัยอยู่ในเพนซิลเวเนียวัยประมาณ 20 ปีผู้นี้นั้น ได้ถูกตำรวจลับสหรัฐฯ ยิงที่ศีรษะดับคาที่ โดยหลังก่อเหตุมีการพบแพกเกจต้องสงสัย และมีการส่งทีมกู้ระเบิดเข้าไปในที่เกิดเหตุ และในที่ก่อเหตุซึ่งอยู่บนหลังคาฝั่งตรงข้ามกับที่ทรัมป์ปราศรัยห่างประมาณ 150 เมตร ไม่พบบัตรประจำตัวใดๆ พบแต่ปืนใช้ก่อเหตุ--เป็นปืนไรเฟิลร้ายแรงสูง AR-15
พยานในที่เกิดเหตุเปิดเผยว่า เห็นมือปืนพยายามปีนหลังคาของอาคารชั้นเดียวหลังหนึ่ง เยื้องไปทางด้านขวาใกล้กับเวทีปราศรัย โดยที่มือปืนอยู่บนจุดหลังคานานราว 3-4 นาที ก่อนจะลั่นไกสังหาร“โดนัล ทรัมป์” มีกระสุนถูกยิงออกมา 5 นัด ซึ่งพยานในที่เกิดเหตุยังได้เปิดเผยด้วยว่า ได้เห็นช่วงวินาทีตำรวจลับสหรัฐฯวิสามัญฯมือสังหารรายนี้ด้วยการส่องปืนเล็งไปที่ศีรษะของเขา
ทางด้านนิวยอร์กโพสต์รายงานว่า หลังเกิดเหตุการณ์พบมีประชาชนเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 2 ราย โดยคนทั้งหมดเป็นผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ“โดนัลด์ ทรัมป์” จากพรรครีพับลิกัน
หันมาดูเส้นทางชีวิตของทรัมป์นั้น น่าติดตามชมยิ่งกว่าหนังชีวิตของฮอลลีวู้ด เขาเป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกันที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาญา จากข้อกล่าวหาว่าปลอมแปลงข้อมูลทางการเงินช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2559 และปัจจุบันนี้คดีนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาคดี และคาดการณ์กันว่าเมื่อคดีถึงที่สุด ทรัมป์อาจจะถูกลงโทษแค่ถูกสั่งปรับหรือถูกทำทัณฑ์บน
คดีดังกล่าวนั้น คณะลูกขุนศาลอาญาแมนฮัตตันมีคำตัดสินเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ว่าอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีความผิด 34 กระทง ในคดีที่เขาถูกกล่าวหาปลอมแปลงข้อมูลทางการเงิน เพื่อปกปิดค่าใช้จ่าย 130,000 ดอลลาร์ ที่เป็นเงินค่าปิดปากดารา“หนังโป๊”ชื่อ“สตอร์มี แดเนียลส์” วัย 44 ปีเพื่อให้เก็บงำสัมพันธ์ลับ ก่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2559 รวมทั้งการจ่ายเงินปิดปากนางแบบเพลย์บอย และคนเฝ้าประตูทาวเวอร์
ในการพิจารณาคดีนั้น “สตอร์มี แดเนียลส์” ซึ่งมีชื่อจริงว่า“สเตฟานี คลิฟฟอร์ด” ได้เบิกความต่อศาลอย่างละเอียดเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์กับทรัมป์ที่แต่งงานแล้ว ส่วนนางแบบเพลย์บอยที่ทรัมป์ใช้เงินปิดปากจำนวน 150,00 ดอลลาร์-ชื่อ“คาเรน แม็คดูกัลป์” เพื่อแลกกับการไม่เปิดเผยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเพศที่มีมายาวนานเกือบหนึ่งปีในฐานะชู้รักของทรัมป์
และสำหรับคนเฝ้าประตูทรัมป์จ่ายไป 30,000 ดอลลาร์ เพื่อปิดปากไม่ให้อดีตคนเฝ้าประตู“ทรัมป์ทาวเวอร์”ที่รู้ข้อมูลลับว่าทรัมป์มีบุตรนอกสมรสไปปูดข่าวต่อสาธารณะ
นอกจากเรื่องอื้อฉาวด้านนี้แล้ว จากข้อมูลที่มีการบันทึกไว้ระบุว่า ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 โดยชนะฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต นับได้ว่าเขามีทรัพย์สินมากที่สุดสำหรับผู้ที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเป็นบุคคลแรกที่ไม่เคยรับราชการทหารหรือข้าราชการมาก่อน และเป็นบุคคลที่สี่ที่ได้รับเลือกตั้งโดยไม่ได้คะแนนเสียงของผู้มีสิทธิเลือกตั้งข้างมากทั่วประเทศ อีกทั้งยังเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯคนเดียวที่ไม่ได้รับเลือกตั้งติดต่อกันสองสมัย
ไม่แน่ว่าจากเหตุการณ์ลอบสังหารครั้งนี้ จะทำให้เขาได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาเป็นประธานธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯอีกครั้งหนึ่งก็เป็นได้ !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี