วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
อะไรที่เป็นข้อเท็จจริง รัฐบาลควรสำเหนียกอย่าไปโต้แย้งโทษปี่โทษกลอง เลิกเฉาฉุ่ยต๊าโบ่ยเหี๊ยะแต่ควรจะเก็บรายละเอียดเหล่านั้นไว้แก้ไขปัญหาตามข้อเท็จจริงน่าจะเหมาะจะควรในฐานะรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ใช่ในระบอบทักษิณ-คอร์รัปชั่นนิยม
ในเมื่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศไทยภายใต้การบริหารงานของ “นักกู้ผ้าขาวม้าพันคอ -เศรษฐา ทวีสิน และคณะ” ออกอาการไร้น้ำยาในการนำรัฐนาวาลำนี้เฉียดเบียดใกล้เคียงกับวาทกรรมประดิษฐ์บนเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งเมื่อกว่า 12 เดือนที่แล้ว
ต้องสำเหนียกต้องยอมรับข้อเท็จจริงที่ “ธนาคารโลก /World Bank” ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี’67 เหลือขยายตัวแค่2.4% จากที่เคยประมาณการไว้เดิมเมื่อเดือนเม.ย.ที่ 2.8%
เป็นการคาดการณ์ที่ยังไม่รวมผล โครงการสัมภเวสี “ดิจิทัล วอลเล็ต” ที่จะเกิดขึ้นหรือไม่ แม้จะมีน้ำลายเน่าจนเหม็นขี้ฟันกระเซ็นกระสายในสังคมไทย แต่ยังไม่มีใครการันตีได้
จากสถานการณ์ในปี 2567 ที่เศรษฐกิจไทย -เศรษกิจโลกได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โรคโควิด-19) ที่เกิดขึ้นในทั่วทุกภูมิภาคของโลกทำให้ไทยต้องเผชิญวิกฤตภาคการค้าการส่งออก ภาคบริการ และภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็น3 เครื่องยนต์ที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศ
ส่วนในปี’68 “เวิลด์แบงก์” คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ 2.8% (จากเดิมคาดโต 3%) จากอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น และแม้ว่าหนี้สาธารณะของไทยจะยังคงอยู่ในระดับเสถียรภาพ แต่รัฐบาลต้องเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น จากค่าใช้จ่ายในด้านสวัสดิการสังคม และการลงทุนภาครัฐ เพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของประชากรสูงอายุ
กอปรกับความล่าช้าของการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ที่ล่าช้ากว่าเดิมถึง 6-7 เดือนในขณะที่ “หนี้สาธารณะ” แม้จะคงตัวอยู่ที่ระดับ 64% ของจีดีพี แต่ก็เป็นระดับที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก “วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019” ซึ่งรัฐต้องนำมาใช้จ่ายเพื่อดูแลเป็นสวัสดิสังคม แต่ภาพรวมก็ยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ 70% ของจีดีพี และจะเพิ่มขึ้นอีกในปีงบประมาณรายจ่าย 2568 ที่รัฐต้องกู้ยืมเงินมาเพื่อสนองตัณหาโครงการแจกเงินรายละ 10,000 บาท ผ่านระบบดิจิทัล วอลเล็ต
ซึ่งเป็นเรื่องน่าวิตกในสายตานักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการการเงินการคลัง ที่พยายามคัดค้านด้วยเหตุและผลมากมายหลายประเด็น ทว่ารัฐบาลไม่สำเหนียก ดื้อตาใส หูหนวกตาบอด เสียอย่างนั้น จนอาจดำเนินไปถึงขั้น “รัฐล้มเหลว/Failed State ... ล่มจม ... สิ้นชาติ”
จากระบอบทักษิณ/คอร์รัปชั่นนิยมที่ “รัฐบาล”... ปฏิบัติหน้าที่อย่างคลางแคลงใจในเรื่องซื่อสัตย์สุจริต ความเหลื่อมล้ำในระบบยุติธรรม “ศรัทธา”ที่แฟนคลับส่ำสัตว์ติ่งสีแดง “เคยมี”ก็ลดระดับต่ำลง
ลักษณะของการบริหารเศรษฐกิจประเทศที่มีความลังเลใจ ทำให้แก้ไขปัญหาได้ไม่ทันท่วงที อะไรที่สมควรกระทำก่อนเพื่อบรรเทาวิกฤตรัฐนาวานักกู้ผ้าขาวม้าพันคอกลับนิ่งเฉยย่ำอยู่กับที่
เพื่อให้ตัณหาตนเองได้บำบัด โบราณท่านว่า “กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้” ท่านสำเหนียกหรือไม่

'เขมร'ยอมมาประชุมจีบีซี เย็นนี้ ไทยย้ำหากแนวทางวางกำลัง-หยุดยิงยังคลุมเครือ ไม่ร่วมลงนาม
‘ยศชนัน’ควง‘สุริยะ’พร้อมผู้บริหารเพื่อไทย เข้าพบ ส.อ.ท. หารือแนวทางการพัฒนาศก.
ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพุธที่ 24 ธันวาคม 2568
ด่วน!'ลุงป้อม'วางมือ 'ตรีนุช'ลั่นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พปชร.ต้องมูฟออน
อั๋น ภูวนาท ฟันธง! เลือกตั้งรอบหน้าใครได้เป็นนายกฯ คนใหม่

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี