การยุบพรรคก้าวไกลเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็รู้สึกเป็นอย่างเดียวกันตลอดมาว่ามิใช่เรื่องที่เป็นไปโดยธรรมชาติ แต่มีอำนาจลี้ลับบงการกำกับอยู่ และอำนาจลี้ลับนี้ก็เป็นจำพวกหิวแสง คือจะทำการสิ่งใดก็จะโปรโมทในโซเชียลมีเดียให้รู้ทั่วกันก่อน จากนั้นก็จะเกิดเหตุการณ์ตามที่ออกข่าวไว้ ซึ่งกรณีของพรรคก้าวไกลก็เป็นไปเช่นนี้ ดังนั้นการยุบพรรคก้าวไกลผู้คนทั้งหลายจึงเชื่อว่าเป็นฝีมือของมือที่มองไม่เห็น แต่จะเป็นใครนั้นก็ไม่มีใครรู้
ทันทีที่มีการยุบพรรคก้าวไกล ก็มีเสียงคัดค้านดังขรมขึ้นต่อเนื่องจากที่มีเสียงคัดค้านกันมาก่อนหน้านี้แล้ว เป็นเสียงคัดค้านจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะจากต่างประเทศนั้นค่อนข้างมากสักหน่อย เพราะครั้งนี้เสียงคัดค้านมีมาจากองค์การสหประชาชาติ รัฐสภายุโรป คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน รวมทั้งองค์การนิรโทษกรรมสากลด้วย จึงต้องถือว่าเป็นเรื่องที่มีเสียงคัดค้านก้องกระหึ่มมากที่สุด และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยและระบบนิติรัฐของประเทศไทยอย่างรุนแรงที่สุด
ทันทีที่มีการยุบพรรคก้าวไกล ก็มีการประกาศจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมาอีกพรรคหนึ่ง คือพรรคประชาชน และมีหัวหน้าพรรคคนใหม่คือคุณเท้ง ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่กำลังโด่งดังที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทย เพราะเป็นยอดคนทางด้านระบบสารสนเทศและโซเชียลมีเดีย ซึ่งต้องถือว่าเป็นทรัพยากรบุคคลที่ล้ำค่าชิ้นหนึ่งของประเทศไทย
และมีการปล่อยข่าวเบื้องต้นว่า สส.เก่าของพรรคก้าวไกลทั้งหมดจะยกทีมไปสังกัดพรรคใหม่ ไม่มีตกหล่น หมายความว่าจะไม่มีงูเห่าเกิดขึ้นเหมือนกับที่มีความพยายามจะสร้างขึ้นมา เพราะมีบทเรียนในเรื่องนี้มาแล้วจากการยุบพรรคอนาคตใหม่ เพราะปรากฏว่าบรรดางูเห่าทั้งหลายที่ขายตนให้เงินทอง ทรยศต่อประชาชน ได้ถูกประชาชนลงโทษทัณฑ์อย่างสาสม ทำให้สอบตกทางการเมืองทั้งหมดไม่เหลือหลอแม้แต่คนเดียว
ดังนั้นการยุบพรรคก้าวไกลจึงมีผลที่แท้จริงเพียงแค่เปลี่ยนป้ายจากพรรคก้าวไกลเป็นพรรคประชาชนเท่านั้น ไม่สามารถทำลายจิตวิญญาณและอุดมการณ์ทางการเมืองของเยาวชนคนรุ่นใหม่และนักประชาธิปไตยทั้งหลายได้ ทั้งหมดนี้ล้วนได้ถ่ายโอนไปยังร่างใหม่คือพรรคประชาชน ซึ่งขณะนี้ผลโพลล์ก็ปรากฏชัดแล้วว่าในการเลือกตั้งครั้งใหม่พรรคประชาชนอาจจะได้รับเลือกตั้งถึง 380 คน เกินครึ่งหนึ่งจนสามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ แต่ก็มีเสียงดังออกมาว่าถ้าถึงขั้นนั้นก็ต้องยึดอำนาจกันอีกครั้งหนึ่ง
ก็เป็นเรื่องที่น่าลองดูเหมือนกัน และก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าถ้าพรรคประชาชนชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงเกินครึ่งแล้วจะมีการรัฐประหารเพื่อไม่ให้จัดตั้งรัฐบาลก็ให้มันรู้กันไป
วันนี้สังคมไทยกำลังวิเคราะห์วิจารณ์กันว่าการยุบพรรคก้าวไกลครั้งนี้ได้อะไรขึ้นมาบ้าง ก็ตอบได้ว่าได้มาซึ่งความโกรธแค้นเกลียดชังและความสิ้นหวังในระบบกฎหมายของประเทศไทย และผลกระทบอีกบางประการคือ
ประการแรก การยุบพรรคก้าวไกลครั้งนี้จะไม่ทำให้พรรคก้าวไกลเล็กลง ไม่ทำให้จิตวิญญาณของประชาชนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลถูกทำลายไป แต่จะขยายตัวมากขึ้น มีชีวิตชีวามากขึ้น มีความแน่วแน่มากขึ้น และจะส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งใหม่ให้พรรคก้าวไกลได้รับชัยชนะเกินครึ่งได้ ดังนั้นถ้าใครคิดที่จะยุบพรรคก้าวไกลเพื่อให้เล็กลงหรือสูญสลายไปก็ต้องถือว่าล้มเหลวตั้งแต่ต้นแล้ว เป็นดังที่ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ กล่าวว่าความคิดใดๆ ที่คิดจะยุบพรรคก้าวไกลเป็นความคิดที่โง่บัดซบที่สุด
ประการที่สอง การยุบพรรคก้าวไกลคือการช่วยถากถางเสี้ยนหนามทางการเมืองในสภาให้แก่พรรคเพื่อไทย ทำให้พรรคเพื่อไทยสามารถคุมพลังอำนาจในสภาได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยที่พรรคร่วมทั้งหมดจะไม่กล้าหือหรือต่อรองใดๆ กับพรรคเพื่อไทยอีก และทำให้พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นปรปักษ์กับฝ่ายอนุรักษ์นิยมมา 18 ปีเต็มเรืองฤทธานุภาพขึ้นในบ้านเมืองของเรา จะมีสภาพไม่ต่างกับการปกครองของสมเด็จฮุนเซนในกัมพูชาอีกแล้ว
ประการที่สาม การยุบพรรคก้าวไกลไม่ก่อให้เกิดความสามัคคีสมานฉันท์มากขึ้นในประเทศไทย แต่จะทำให้เกิดความแตกแยกแตกสามัคคีกว้างขวางรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะจะสูญเสียไปซึ่งความเชื่อมั่นในระบอบกฎหมายของประเทศ แล้วไปยึดถือเอาพวกมากลากไป ซึ่งจะนำไปสู่การจัดตั้งมวลชนครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จะขับเคลื่อนกระแสปฏิวัติประชาชาติให้ขยายตัวไปครั้งใหญ่ที่สุดหลังความขัดแย้ง 18 ปีแรกกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
ประการที่สี่ เป็นการนำเอาสถาบันพระมหากษัตริย์ไปเผชิญหน้ากับนานาชาติโดยขาดการคำนึงถึงวุฒิภาวะ เพราะในกรณีเรื่องนี้มีเสียงคัดค้านทักท้วงจากนานาชาติ ทั้งสหประชาชาติ สภายุโรป องค์การสิทธิมนุษยชนองค์การนิรโทษกรรมสากล ซึ่งคณะทูตของขบวนการเหล่านี้ได้แสดงท่าทีโดยเปิดเผยถึงความห่วงใยความเป็นไปในระบอบประชาธิปไตยของประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศก็ได้แถลงชี้แจงไปแล้ว และในเรื่องนี้ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญต้องการจะชี้แจงก็เป็นเรื่องทางธุรการ ที่อาจมอบให้สำนักงานเลขานุการศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ชี้แจงก็จะงดงามด้วยประการทั้งปวง
แต่น่าสังเกตก็คือ ศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้แจงตอบโต้เรื่องนี้ในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยตำหนิถึงมารยาททางการทูตขององค์การต่างประเทศต่างๆ ทำให้เกิดแง่คิดว่าจะส่งผลกระทบประการใดเพราะการวินิจฉัยอรรถคดีนั้นไม่ใช่เรื่องงานธุรการ แต่เป็นงานเฉพาะคืองานตุลาการที่คณะผู้พิพากษาตุลาการทำการในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ซึ่งในกฎหมายว่าด้วยการทำคำพิพากษานั้นจำกัดเรื่องที่จะกล่าวไว้ในคำพิพากษาให้เป็นเรื่องเฉพาะการวินิจฉัยคดีเท่านั้น ดังนั้นการตอบโต้องค์การระหว่างประเทศเรื่องมารยาททางการทูตในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจึงเป็นการทำการในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ และนำพระปรมาภิไธยนั้นไปเผชิญหน้ากับเสียงคัดค้านของนานาชาติ จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงน่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง
นอกจากสี่ประการนี้แล้ว ยังไม่เห็นข้อดีหรือความสำเร็จใดๆ จากการยุบพรรคก้าวไกลเลย กลับจะย้ำว่าสภาพบ้านเมืองที่ไร้ธรรมอำไพ จะนำไปสู่ความบรรลัยอย่างแน่นอนกำลังเกิดขึ้นอย่างเลือดเย็น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี