การเลือกตั้งนายกฯ อบจ.ราชบุรี ก็รู้ผลไปแล้วว่า..“ชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์” หรือ “หวุน” ผู้สมัครจากพรรคประชาชนหรือพรรรคก้าวไกลเดิม พ่ายแพ้ให้“กำนันตุ้ย-วิวัฒน์ นิติกาญจนา” อดีตนายก อบจ. ซึ่งเป็นบ้านใหญ่แห่งจังหวัดราชบุรี และเป็นสามีของนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ..ด้วยคะแนนเสียง 242,297 : 175,353 คะแนน
ถึงแม้พรรคประชาชนที่มั่นใจมาตลอด..หลังจากพรรคก้าวไกลถูกศาลรัฐธรรมนุญสั่งยุบพรรคว่า“ยิ่งทุบยิ่งโต”..จะพ่ายแพ้คาสนามเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้..แต่ดูจากคะแนนเสียงที่ได้มา จากการแพ้คู่ต่อสู้ที่เป็นบ้านใหญ่..ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสุกร-จำหน่ายอาหารสัตว์..และยังเป็นอดีตนายก อบจ.ราชบุรี..จำนวน 66,944 คะแนน..ถึงตัวเลขจะทิ้งห่าง..แต่คะแนนที่ผู้สมัครพรรคประชาชนได้มาก็ถือว่าสูงทีเดียว..โดยเฉพาะเสียงจากคนหนุ่มคนสาวรุ่นใหม่ที่แห่ออกมาใช้สิทธิ์ในครั้งนี้..และเป็นตัวเลขที่แกนนำของพรรคประชาชนล้วนเห็นว่า..เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งนายก อบจ. ในนามคณะก้าวหน้าเมื่อปี 2563..ถือว่าเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว..จากที่เคยได้ 7 หมื่นกว่าคะแนน
ทั้งนี้ นายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ ในฐานะผู้พ่ายแพ้..กล่าวว่า“ความไว้วางใจกว่า 1.7 แสนคะแนน..เป็นคะแนนที่บอกว่าประชาชนเปิดรับ..เปิดใจให้โอกาสพวกเรา..ให้โอกาสพรรคประชาชน..เห็นด้วยกับนโยบาย..กับแนวทางและจุดยืนของพรรค”..ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล..ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “การเลือกตั้งย่อมมีทั้งแพ้และชนะเป็นธรรมดา เราขอน้อมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อเรียนรู้และพัฒนาการทำงานในอนาคต และจะสู้ต่อไปโดยไม่ท้อแท้..สักวันหนึ่งจะต้องเป็นวันของเรา”
อย่างไรก็ตาม ต้องบันทึกไว้ด้วยว่า..ชัยชนะของ“กำนันตุ้ย”ในครั้งนี้..ที่ยังสามารถรักษาเก้าอี้ นายก อบจ.ราชบุรีไว้ได้..เหตุผลประการสำคัญก็เพราะ กำนันตุ้ยหรือนายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นอกจากจะได้แรงสนับสนุนในทุกสรรพกำลังจาก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐที่สังกัด“มุ้ง”ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรรคพลังประชารัฐทั้ง 3 เขตของจังหวัดราชบุรี คือ นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา หรือ“เจ๊บุญยิ่ง” สส.เขต 2 ซึ่งเป็นภรรยาของกำนันตุ้ย, นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ ส.ส.เขต 3 และนายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ ส.ส.เขต 5 แล้ว
สส.ราชบุรีที่สังกัดพรรคร่วมรัฐบาลจากพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ นางสาวกุลวลี นพอมรบดี สส.เขต 1 และนายนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.เขต 4..ก็มาเป็นกำลังเสริมให้กับ“กำนันตุ้ย”..และยังรวมถึงนายนภินทร ศรีสรรพางค์ เจ้าของ“ตลาดศรีเมือง”ที่เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ของภาคกลาง..ซึ่งปัจจุบันรักษาการรัฐมนตรีช่วยว่ากากระทรวงพาณิชย์ของพรรคภูมิใจไทย..ก็เป็นอีกกำลังหนึ่งที่สำคัญ
ต้องดูต่อว่า พรรคประชาชนที่ว่า“ยิ่งทุบยิ่งโต”แม้จะแพ้สนามท้องถิ่นในจังหวัดราชบุรีครั้งนี้..แต่สนามระดับชาติที่จะมีการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 1 จังหวัดพิษณุโลกในวันอาทิตย์ที่ 15 กันยายนสัปดาห์หน้า..แทนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลที่พ้นจากการเป็น สส.เพราะพรรคก้าวไกลถูกยุบ..ว่าจะแพ้อีกหรือไม่
โดยพรรคประชาชนส่ง“นายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์” หรือ “โฟล์ค”อดีตผู้ช่วย สส.ของนายปติพัทธ์ สันติภาดา ลงสู้ศึกแบบตัวต่อตัวกับ “บู้” หรือนาย เจด็ศ จันทรา ที่เป็น สส.สอบตกเขต 3 จังหวัดพิษณุโลก ของพรรคเพื่อไทยจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว..ซึ่งการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ นายเจด็จมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทยและรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข..เป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กอยู่ข้างหลัง..ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดพิษณุโลก ของพรรคเพื่อไทย..อีกทั้งยังมีกองกำลังสนับสนุนจาก สส.ของพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรครัฐบาลมาช่วยอีกทั้งพรรค
หากดูสถิติย้อนหลังจากการเลือกตั้ง สส.เขต 1 จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566..ซึ่ง“หมออ๋อง”หรือนายปติพัทธ์ สันติภาดา ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกลมีชัยชนะเหนือคู่ต่อสู้..นายปติพัทธ์ ได้คะแนนมาเป็นอันดับหนึ่ง 40,842 คะแนน..คิดเป็น 41.35 เปอร์เซ็นต์ของผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 139,465 คน..โดยเอาชนะคู่แข่งที่เข้ามาเป็นลำดับสองและลำดับสามแบบขาดลอย..ทั้งนี้ ลำดับสอง-นายอดุลวิทย์ วิวัฒน์ธนาฒย์ จากพรรคพลังประชารัฐได้ 19,096 คะแนน คิดเป็น 19.33 เปอร์เซ็นต์ของผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง..และลำดับสาม-นายณัฐทรัชต์ ชามพูนท จากพรรคเพื่อไทย..ได้ 18,180 คะแนน คิดเป็น 18.40 เปอร์เซ็นต์ของผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
ถ้าพรรคประชนที่อวตารมาจากพรรคก้าวไกล..เชื่อว่า“ยิ่งทุบยิ่งโต”ก็จะชนะเลือกตั้งซ่อมในเขต 1 จังหวัดพิษณุโลก..อันเป็นเมืองประวัติศาสตร์ตั้งแต่โบราณกาล..มีพระเกียรติของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช คือสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นที่เคารพเทิดทูน..และมีพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง-“พระพุทธชินราช” ณ วัด วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่..เป็นศูนย์รวมจิตใจของทั้งคนไทยทั้งชาติ..และของชาวพิษณุโลกเมืองสองแควที่มีแม่น้ำสองสายไหลผ่านเมือง คือแม่น้ำน่านกับแม่น้ำแควน้อย
ทิ้งท้ายวันนี้ด้วยเรื่องคณะรัฐมนตรีของรัฐบาล“อุ๊งอิ๊งค์ 1” ที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี“พ่อครอบครอง”เปิดเผยเมื่อวันที่ 2 กันยายนวานนี้ว่า..สามารถนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าเพื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้งได้ภายในสัปดาห์นี้..และยังได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องของตัวเธอเองที่จะถูกร้องให้ถอดถอนจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีย้อนหลัง..เพราะขาดคุณสมบัติเกี่ยวกับความซื่อสัตย์และมาตรฐานทางจริยธรรม..แบบพูดไทยปนอังกฤษว่า”ไม่ซีเรียส”
ส่วนบิดาของเธอ คืออดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร เวลานี้เหมือนจะก็บตัวเงียบ..ตามยุทธวิธีการรบแบบกองโจรสมัยสงครามเวียดนามของพวก“เวียดกง”.. คิอ"เอ็งมาข้ามุด..เอ็งหยุดข้าแหย่..เอ็งแย่ข้าตี..เอ็งหนีข้าตาม"..หลังจากถูก“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” ทิ้งบอมบ์เมื่อสัปดาห์ก่อน
การหลบอยู่ใน“ถ้ำ”บ้านจันทร์ส่องหล้าของคนอย่าง“ทักษิณ ชินวัตร”ในครั้งนี้..ด้วยนิสัยถาวรของบุคคลผู้นี้..ก็คงจะนั่ง“ดีดลูกคิดรางแก้ว”ไปด้วยว่า..หลังจากรัฐบาล“อุ๊งอิ๊งค์ 1”ที่ตนเองสามารถชักใย“แพทองธาร ชินวัตร”ทั้งตัวและหัวใจได้ในฐานะบุตรสาวที่เป็นดีเอ็นเอและสืบสายเลือด..คลอดออกมาแล้ว..จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร..เกี่ยวกับนโยบายประชานิยมและเมกะโปรเจค..ที่มีขนาดการลงทุนด้วยวงเงินแสนล้านและล้านล้านบาท
ณ เวลานี้นอกจาก“โครงการดิจิทัลวอลเล็ต”ที่จะแปรเปลี่ยนเป็นจ่ายเงินสด 1 หมื่นบาทในเวงเงินแสนล้าน, โครงการ“เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” และโครงการให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปีแล้ว..อีกโครงการหนึ่ง ก็คือ โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย - อันดามัน (ชุมพร - ระนอง) หรือ“โครงการแลนด์บริดจ์” ที่มีขนาดการลงทุน“นับล้านล้านบาท”..ซึ่งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม..นักการเมืองคู่บารมีของ“ทักษิณ ชินวัตร”ตั้งแต่สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย..ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่าจะเริ่มเดินหน้าในปี 2568 เป็นต้นไป
พรรคเพื่อไทย“คิดใหญ่-ทำเป็น”จริงๆ..แต่คนที่จะรวยจริงๆ ไม่น่าจะใช่ประชาชนคนไทย !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี