การเมืองไทยในวงจรและเครือข่ายของนักการเมืองสามานย์ มันคือการใช้อำนาจการเมืองเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง โดยไม่ได้ให้ความสำคัญใดๆ กับผลประโยชน์ของสาธารณะแม้แต่น้อย
เมื่ออำนาจการเมืองไทยอยู่ในกำมือของนักการเมืองสามานย์ บ้านนี้เมืองนี้จึงสับสนอลหม่าน และปั่นป่วนไม่จบไม่สิ้น แล้วนอกจากนั้นยังมีปมประเด็นของการชิงอำนาจ และผลประโยชน์การเมืองด้วยเล่ห์เพทุบายในหมู่นักการเมืองร้อยเล่ห์ร้อยลิ้นทุกวันทุกเวลา ดังนั้น เรื่องอัปยศเสื่อมเสียก็จึงเกิดในรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่ารัฐบาลนั้นๆจะได้อำนาจมาจากการเลือกตั้งหรือมาจากการรัฐประหารก็ตาม
ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาสามัญของนักการเมืองสามานย์ ในยามที่พวกเขาตกลงแบ่งปันผลประโยชน์อันเนื่องมาจากการมีอำนาจรัฐได้ลงตัว อันทำให้พวกเขาอิ่มหมีพีมันได้อย่างทั่วหน้าพวกเขาก็สามารถอยู่ร่วมกันและแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจบนเวทีแห่งอำนาจรัฐ แต่ในยามที่พวกเขาไม่สามารถตกลงแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างกันได้ลงตัวและทั่วถึง ก็จะบังเกิดภาพการฟัดกันเองจนจมเขี้ยว เลือดสาดกระจาย จนบางครั้งมันสมองของคู่กรณีกระเด็นเลอะเปรอะเปื้อนจนเต็มพื้นเวทีแห่งอำนาจรัฐ
วันนี้และยามนี้ได้บังเกิดภาพการฟัดกันเองอีกครั้งระหว่างนักการเมืองสามานย์กลุ่มหนึ่ง โดยสาธารณชนได้รับทราบเรื่องการฟัดกันเองโดยผ่านคลิปเสียงหลายคลิปที่ถูกนำเสนอผ่านรายการคุยข่าวรายการหนึ่ง (อันที่จริงพูดตรงๆ เลยก็ได้ว่าจากรายการของดนัย เอกมหาสวัสดิ์) มีคำถามสำคัญข้อหนึ่งคือคลิปที่ถูกนำเสนอนั้นมาจากใคร ใครเป็นผู้จงใจปล่อยคลิป แล้วทำไมจึงจงใจปล่อยคลิปในช่วงนี้ ถามว่าคลิปเหล่านั้นจะส่งผลดีหรือผลเสียโดยตรงกับนักการเมืองคนไหน ฝั่งไหนซีกไหน คำถามนี้ไม่ใช่เรื่องยากที่คอการเมืองไทยจะตอบให้กระจ่างชัด
เมื่อคอการเมืองได้ฟังเสียงจากคลิปต่างๆ ที่ถูกปล่อย ก็รู้โดยพลันว่าผู้ที่เสียหายหนักในครั้งนี้น่าจะชื่อประวิตร วงษ์สุวรรณ ย้ำว่าน่าจะชื่อประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่จะใช่ประวิตรจริงหรือไม่ ก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละฝ่าย แล้วก็มีคำถามกลับว่า แล้วใครจะเป็นผู้ได้ผลดีจากคลิปที่จงใจถูกนำมาปล่อย คำถามนี้ตอบได้โดยไม่ยากว่า ก็คือฝ่ายปรปักษ์ ฝ่ายตรงข้าม หรือศัตรูของประวิตร (หากเชื่อว่าเป็นเสียงของประวิตรจริงๆ)
ถามต่อไปว่า ในยามนี้ใครคือศัตรูตัวฉกาจของประวิตร ย้ำว่าหากเชื่อว่าเป็นเสียงของประวิตร คำตอบเรื่องนี้ก็ตอบได้ไม่ยากอีกเช่นกันเพราะเมื่อประวิตรประกาศตัวเป็นศัตรูกับผู้มีอำนาจรัฐ ก็หมายความว่าผู้มีอำนาจรัฐก็จำเป็นต้องทำทุกหนทางเพื่อเด็ดปีก เด็ดแขนขา และเด็ดหัวของประวิตรให้จงได้
ในยามนี้ประวิตรไม่มีอำนาจรัฐเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ส่วนคนที่ประกาศตัวเป็นศัตรูกับประวิตรได้ครอบครองอำนาจรัฐ เมื่อศัตรูมีอำนาจรัฐเหนือกว่าประวิตร ก็หมายความว่าศัตรูของประวิตรสามารถใช้อำนาจรัฐห้ำหั่นและบดขยี้ประวิตรได้โดยสะดวกดาย แต่ต้องไม่ลืมว่าประวิตรน่าจะยังคงมีอำนาจบางอย่างหลงเหลืออยู่บ้าง เพราะฉะนั้น ต่อจากนี้ไปก็ต้องติดตามดูว่าฝ่ายผู้มีอำนาจรัฐจะเด็ดหัวประวิตรได้สำเร็จหรือไม่ หรือว่าประวิตรจะมีกลเม็ดเด็ดดวงอะไรตอบโต้ผู้มีอำนาจรัฐได้ อย่าลืมว่าทั้งประวิตรและผู้มีอำนาจรัฐในปัจจุบันล้วนแล้วแต่มีไม้เด็ดคนละไม้อยู่ในกำมือ ดังนั้นจึงต้องตามดูกันต่อไปว่า เกมเอาคืนคนมีอำนาจรัฐโดยแรงแค้นของประวิตรจะรุนแรงสักเพียงใด แต่ทั้งหมดทั้งปวงก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการล้างแค้นกันและกันเพื่อแย่งชิงผลประโยชน์เพื่อตนเอง โดยไม่ได้นำพาว่าสาธารณชนจะได้ผลดีประการใด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี