1.กล่าวนำ
เรื่องสำคัญของความเป็นคน คือ “การปฏิบัติหน้าที่ของตน”
๑.แต่ละคนมีหน้าที่ของตน : ประชาชน ข้าราชการ นักวิชาการ ทหารตำรวจ นักการเมือง นักธุรกิจนักเรียน นิสิตนักศึกษา หมอ พยาบาล สื่อ ชาวนา กรรมกร พ่อค้าแม่ขาย นักกีฬา แท็กซี่ ฯลฯ
๒.แต่ละคนมีหน้าที่ ตามวัยของชีวิต ลูกหลาน เด็ก หนุ่มสาว ผู้ใหญ่ พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย คนชรา ฯ
• การทำหน้าที่ของตนให้ดีถูกต้องชอบธรรม จะสร้างพัฒนานิสัยของตนไปทุกระยะทางของชีวิตคนเราสามารถปรับแก้ไข นิสัยของตนที่ไม่ดี ให้กลับคืนดีได้หากรู้จักหน้าที่ของตนแม้ว่า จะแก่แล้ว แต่หากยอมรับผิดสำนึกดีชั่วได้ ขอโทษฯ ยังทำได้ แม้จะโคตรยากก็ตามทางหนึ่ง คือ “การได้เห็นธรรม” ด้วยการปลงตนเอง หรือมีผู้มีธรรมสูง แนะนำฯ ดังเช่น :องคุลิมาล เมื่อเจอกับ ธรรมของพระพุทธเจ้า : “มหาโจร”กลับกลายเป็น “พระเถระฯ”
2. เรื่องเล่าวันนี้ : เป็นเรื่องราว ของ“การทำหน้าที่ของแต่ละคน”
๑. สัปดาห์ก่อน เดิน นั่งรถเมล์ ขึ้น TAXI เดินข้ามสะพาน ไปร่วมประชุม ที่ร้าน “Another home cafe” ถนนราชพฤกษ์ ไปร่วมประชุมกับคนชรา ที่คิดทำ “โครงการที่พลิกฟื้นกลับไปสู่สังคมที่ดีงาม” เป็นโครงการที่งดงาม มีคุณค่าความหมาย ด้วยรักปรารถนาดีต่อสังคม เริ่มต้น จาก “หนังสือ :ที่เคยสร้างอนาคตไทย” ในยุคฉันมาหาความหมาย อยากทำให้สำเร็จ ฝากไว้ให้กับอนาคตของสังคมอันงดงามก่อนจากไปสู่ธรรมชาติ
คณะกรรมการฯ ประกอบด้วย : อาจารย์วิทยากร เชียงกูล (ที่ปรึกษาฯ) ดร.ประเสริฐ กิติรัตน์ตระการ(ประธาน) รศ.สุพจน์ ศรีนิล ดร.ชาติชาย รื่นพานิชดร.รัตนาภรณ์ ธรรมโกศล แทนคุณ จิตต์อิสระ วิโรจน์ จินะณรงค์ ชัยวัฒน์ สุรวิชัย และ พลพิสิษฏ์ คงธนญาณ (เลขานุการฯ)
@ คนแก่ชุดนี้ ตั้งใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตน ก่อนจากไป
๒.วาทกรรมที่ซัดกันไปกันในสังคมการเมืองในช่วงนี้ เราต้องดูที่ “การปฏิบัติหน้าที่” ว่าทำได้ถูกต้องไหม
“ปู่จิ๊บ” ถูกลูกหลงจากทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
หนึ่ง เข้าป่า (๗ สิงหาคม ๒๕๑๙ เมษายน ๒๕๒๔) ในนามของพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย เป็นแนวร่วมผู้รักชาติรักประชาธิปไตย ร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย พรรคอื่นฯ และผู้รักชาติรักประชาธิปไตย
@ ช่วงอยู่ในป่าฯ ในนาม “สหายสุข ชมจันทร์” ได้ทำหน้าที่ของตนอย่างดี ทำงานหนัก ทุ่มเทสุดชีวิตร่วมแก้ไข ปัญหาหลายอย่าง รวมทั้งการขัดแย้งเชิงความคิดของผู้คนต่างๆ ในส่วนของการดูแลมิตรสหายที่ไม่แข็งแรง เจ็บป่วย ปัญหาความคิดฯ ทั้งในนาม พสท. แนวร่วมฯ และมนุษย์คนหนึ่งเป็นที่รักและชื่นชมของเพื่อนมิตร รวมทั้งจาก พคท.ด้วยชาวพรรคฯ ส่วนไม่น้อย มีจิตใจงดงาม มีความรักความปรารถนาดีต่อบ้านเมืองแต่มีเรื่องของความคิดที่ต่างกันและการที่ “แนวร่วมนักศึกษา และแม้แต่ชาวพรรคส่วนหนึ่ง” ที่แยกออกมาด้วยจากได้พบแล้วว่า “แนวทางฯ มีข้อบกพร่องผิดพลาดไม่เป็นจริงฯ” @ และเรื่องที่ดียิ่งในชีวิต คือ“ได้มีโอกาส พบกับ สหายหญิงที่แกร่งกล้าคนหนึ่ง” ที่ฐานที่มั่นภูพาน ที่เธอได้เข้าไปเยี่ยมมิตรสหายรวมทั้งเพื่อนสหายที่มาจาก ม.เกษตรฯ”
@ ขอขอบคุณ : พคท. แนวร่วมฯ สหายชาวบ้านในพื้นที่ ที่ได้ช่วยดูแลชีวิตความเป็นอยู่ตลอดเวลาที่อยู่ในป่า ร่วม ๖ ปี เพื่อนบางคนล้อว่า “ได้ปริญญาชีวิตจากมหาวิทยาลัยภูพาน”ที่รัฐไม่ได้รับรอง
สอง เรื่องของพธม. กปปส. (ที่ผมได้เข้าร่วมตั้งแต่ต้น จนถึงเหตุการณ์ยุติ) ซึ่งเป็นการรวมตัวของมวลมหาประชาชน เรือนแสนเรือนล้านที่รักชาติรักประชาธิปไตยและความเป็นธรรมที่ทนไม่ได้กับ จากการอำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรมฉ้อฉล โกงกิน ใช้ “อำนาจเผด็จการครอบงำรัฐสภา เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนของทักษิณและพวกพ้อง รวมทั้งการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบฯของระบอบทักษิณ ในช่วงเป็นรัฐบาล (ทักษิณ สมัคร สมชัย และยิ่งลักษณ์) และใช้อำนาจเถื่อนที่ผิดกฎหมาย กระทำต่อรัฐบาลอภิสิทธิ์ เผาบ้านเผาเมือง และการคุกคาม จาบจ้วงสถาบันหลักของชาติ”
ซึ่งการลุกขึ้นสู้ของ “องค์กรทั้งสองนี้ เป็นความกล้าหาญเสียสละอย่างสูงฯ” โดยผู้นำถูกจับกุมคุมขัง และถูกคดี ถูกยึดทรัพย์และประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตไป จากการใช้อาวุธร้ายแรงจากฝ่ายทักษิณ
ซึ่งหากไม่มีองค์กรทั้งสอง บ้านเมืองคงวิกฤตและเกิดหายนะใหญ่หลวงกว่านี้มากมายนัก @ เราต้องขอขอบคุณ ทั้งสององค์กร ที่ทำให้เราผ่านมาได้ถึงวันนี้
3.การถวายสัตย์ปฏิญาณ ในวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๗
“ผม” ขอร่วมแสดงความยินดี ต่อทุกคนที่ได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีโดย เมื่อวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๗ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร เรียบร้อยแล้วขอร่วมแสดงความยินดี ต่อทุกคนที่ได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีโดยขอให้ ได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติตามคำปฏิญาณในการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี
@ การถวายสัตย์ปฏิญาณ หมายถึงการแสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งทรงเป็นประมุขแห่งราชอาณาจักรไทย ที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้ผู้ดำรงตำแหน่ง องคมนตรี รัฐมนตรี ผู้พิพากษาและตุลาการ ต้องกระทำก่อนเข้ารับหน้าที่ (การถวายสัตย์ปฏิญาณนี้มีความแตกต่างจากการปฏิญาณตนตรงที่การถวายสัตย์ปฏิญาณต้องกระทำต่อหน้าพระพักตร์ขององค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นการเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณ ในขณะที่การปฏิญาณตนเป็นการกระทำต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ขององค์พระมหากษัตริย์)
@ คำปฏิญาณในการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี
“ข้าพเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอปฏิญาณว่าข้าพเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ (พระปรมาภิไธย)และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี