วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
คนไทยเราถนัดปากแต่คำว่าน้ำท่วม จึงเรียกกรณีน้ำท่วมภาคเหนือในปัจจุบันนี้ว่าเป็นน้ำท่วม ทั้งที่ความจริงที่เกิดขึ้นเกินพ้นออกไปจากเรื่องน้ำท่วมแล้ว และกำลังก่อเกิดหายนะใหญ่หลวงชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นแก่พี่น้องภาคเหนือมาก่อนเลยนั่นคือสถานการณ์โคลนท่วม
ดังนั้นถ้าใครคิดแต่จะแก้ปัญหาน้ำท่วม หรือช่วยเหลือน้ำท่วม ก็จะไม่มีวันแก้ไขทุกข์ร้อนของพี่น้องภาคเหนือได้เลย เพราะการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและช่วยเหลือน้ำท่วมนั้นไม่สามารถแก้ไขปัญหากรณีโคลนท่วมได้
กรณีน้ำท่วมที่ผ่านมาเป็นเรื่องน้ำท่วม คือเมื่อน้ำท่วมแล้วแห้งเหือดไป ก็เป็นเรื่องที่ต้องซ่อมบำรุงความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมนั้น การกำหนดมาตรการช่วยเหลือฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนจึงอาศัยเหตุของน้ำท่วม แต่เมื่อบัดนี้กรณีไม่ใช่น้ำท่วมแต่เป็นโคลนท่วม หากใช้วิธีแก้ไขน้ำท่วมหรือเยียวยาเรื่องน้ำท่วมก็ไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาได้
กรณีคราวนี้แตกต่างจากที่ผ่านมาทุกยุคทุกสมัย เพราะน้ำที่ท่วมมาครั้งนี้ไม่ได้มาเฉพาะน้ำ แต่มีโคลนที่เรียกว่าเป็นน้ำโคลนข้นไหลบ่าท่วมเข้ามาทั้งถนนหนทาง บ้านเรือน ดังนั้นน้ำโคลนท่วมไปถึงไหน จึงมีทั้งน้ำและโคลนท่วมไปถึงนั่น ความเสียหายจึงแตกต่างไปจากเรื่องน้ำท่วม
เพราะเรื่องน้ำท่วมนั้นข้าวของก็แค่เปียกน้ำ บ้างผึ่งแดดตากก็หาย เมื่อน้ำลดแล้วก็หาย หรือถึงเสียหายเพราะน้ำก็ยังมีซากเหลือให้ได้ใช้ประโยชน์ และยังพอใช้การได้ เช่น ข้าวสารถูกน้ำท่วมเปียก เมื่อน้ำผ่านไปแล้วถ้าตากได้ทัน ข้าวสารนั้นก็ยังหุงกินได้ หรือถ้าตากไม่ทันเน่าเสียก็ยังใช้เป็นอาหารสัตว์ได้
บ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม เมื่อน้ำผ่านไปแล้วก็แห้งหายไปเป็นปกติ ถนนหนทางก็เช่นเดียวกัน คูคลองก็เหมือนกัน เมื่อน้ำผ่านไปแล้วก็เป็นคูคลองตามเดิม
แต่มาครั้งนี้เป็นกรณีโคลนท่วมและเป็นน้ำโคลนข้น ซึ่งหมายความว่าน้ำที่ไหลบ่าท่วมมานั้นไม่ได้มีแต่น้ำ แต่มีดินโคลนปนมากับน้ำ และมีปริมาณดินโคลนมาก จึงกลายเป็นน้ำโคลนข้น
น้ำโคลนข้นเมื่อท่วมข้าวสารก็เสีย ใช้กินต่อไปไม่ได้เพราะเป็นข้าวสารเปื้อนโคลน ท่วมข้าวของในบ้านก็จะเปรอะเปื้อนโคลน จะต้องล้างโคลนออกให้ทันท่วงทีเพราะยิ่งนานไปเท่าใดโคลนก็จะยิ่งแห้งเกาะติดข้าวของจนล้างไม่ออก
ขณะนี้บ้านช่องจำนวนมากมีน้ำโคลนข้นท่วมเข้ามาค่อนบ้าน พอน้ำผ่านไปแล้วกลับเหลือโคลนอยู่ครึ่งบ้าน ตอนน้ำผ่านใหม่ๆ ก็ยังเป็นโคลนเหลว ใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำล้างก็ยังพอได้ แต่ทว่ารถดับเพลิงมีไม่พอ ใช้รถฉีดน้ำอย่างอื่นก็ไม่พอ โชคดีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานจัดรถฉีดน้ำไปช่วยเหลือราษฎรก็พอบรรเทาเบาบางได้มาก
แต่ส่วนที่ช่วยเหลือไม่ทัน พอนานวันไปโคลนเหลวก็จะกลายเป็นโคลนหมาดๆ แค่ใช้จอบใช้เสียมโกยออกไปก็ได้ แต่พอนานอีกหน่อยก็จะกลายเป็นโคลนข้นแห้งเกรอะกรัง ต้องใช้จอบใช้เสียมขุดออกไป พอนานออกไปอีกก็จะกลายเป็นโคลนแห้งและเป็นดินแข็ง จะต้องใช้จอบขุดออกไป เมื่อมีปริมาณมากใช้จอบขุดก็ไม่ไหว ต้องใช้รถแทรกเตอร์มาขุดลอกออกไป ซึ่งเป็นเรื่องน่าเวทนาและเสี่ยงต่อความเสียหายเพิ่มขึ้นไปอีก
เพราะรถแทรกเตอร์นั้นมีขนาดใหญ่ อาจกระทบเข้ากับฝาบ้าน เพดานบ้าน ให้พังทลายลงมาได้โดยง่าย และยิ่งนานออกไปโคลนนั้นก็จะกลายเป็นดินแห้งเกาะเต็มทั้งบ้าน เข้าออกบ้านก็ไม่ได้ รถจอดก็ไม่ได้ รถที่โคลนท่วมอยู่ก็แข็งตัว นำรถออกไปซ่อมบำรุงไม่ได้ ก็จะเกิดความเสียหายมากขึ้น
สภาพเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย ดังนั้นการคิดอ่านแก้ไขบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องใช้เวลาให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งนานออกไปเท่าใดความเสียหายก็ยิ่งมากขึ้นไปเท่านั้น กระทั่งปัจจุบันนี้ข่าวคราวทั้งหลายที่สื่อมวลชนรายงานในแต่ละวันก็มีความชัดเจนว่าแต่ละตำบลหมู่บ้านไม่มีกำลังพอที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้ แม้ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเอาใจใส่ทั้งจังหวัดให้ทันท่วงที
ดังนั้นจึงเป็นภาระของทหาร และต้องใช้กำลังระดับกองทัพภาคทุกเหล่าทัพ และอาจต้องระดมจากทั้งประเทศเร่งรีบเข้าไปช่วยเหลือโดยด่วน จึงพอจะบรรเทาเบาบางลงไปได้
แต่มาถึงวันนี้เท่าที่ติดตามข่าวสารทั้งหลายก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะมีการบริหารจัดการปัญหาเยียวยาโคลนท่วมเลย
ยังคงพูดจากันแต่เรื่องแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างมากก็พูดถึงมาตรการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจเช่น การพักหนี้ การยืดเวลาชำระหนี้ ซึ่งเป็นคนละปัญหา และเป็นเรื่องบ้องตื้น แต่ก็ว่ากันไม่ได้เพราะล้วนแต่เป็นรัฐมนตรีมือใหม่หัดขับทั้งนั้น บ้านเมืองของเราจึงอยู่ในสภาพดังที่เป็นอยู่
ดังนั้นจึงได้แต่หวังว่าบทความวันนี้จะได้เตือนสติหรือสะกิดใจผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ให้ได้ตระหนักเพิ่มเติมว่ากรณีที่เกิดขึ้นในภาคเหนือไม่ใช่ปัญหาน้ำท่วม
แต่เป็นปัญหาโคลนท่วม ซึ่งมีเรื่องที่เกี่ยวข้องมากมายดังที่ได้พรรณนามาข้างต้นนี้และเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ไม่เคยเผชิญหน้ามาก่อน ดังนั้นควรจะถือเป็นเรื่องพิเศษที่ต้องเร่งรีบบริหารจัดการช่วยเหลือแก้ไขให้ทันท่วงทีโดยด่วนที่สุด
แม้เป็นโชเฟอร์หัดขับ แต่เมื่อรับหน้าที่เข้ามาเป็นโชเฟอร์แล้วก็ต้องสวมจิตวิญญาณของโชเฟอร์ผู้ที่มีความสำนึกรับผิดชอบต่อหน้าที่และความปลอดภัยของผู้โดยสาร ในการนำพาผู้โดยสารไปถึงที่หมายปลายทางด้วยความสวัสดี
ก็บอกกันได้แค่นี้แหละ

เปิดใจ! อาสากู้ภัยนำข้าวแจกชาวบ้าน ถูกน้ำพัดหาย ยันไม่ท้อ กลับมาช่วยต่อ ส่งข้าวกล่องใหม่ 200 ชุด
'HP'เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่6,000ตำแหน่งทั่วโลก หวังลดค่าใช้จ่ายรับยุคของAI
โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ 'เขมวันต์ สงคราม' เป็นพลเรือเอก และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
หมอสมเกียรติ คลินิกดังกระบี่ เปิดคลินิกรักษาฟรี2วัน ส่งต่อทุกบาทช่วยน้ำท่วม
‘อนุทิน’เยี่ยมศูนย์ อพยพ ม.อ.หาดใหญ่ สั่งเร่งระดมช่วยคนติดค้าง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี