วันเสาร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ช่วงนี้นายทักษิณ ชินวัตร ดูจะเงียบๆ ไปไม่ปรากฏอาการเคลื่อนไหวพบปะมวลชนเสื้อแดงหรือให้ความเห็นทางเศรษฐกิจทางการเมืองหลังโดนร้องเรียนเข้าไปครอบงำพรรคเพื่อไทย
ซึ่งบรรดาคำร้องให้ตรวจสอบนายทักษิณ ชินวัตร กรณีครอบงำพรรคเพื่อไทยคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้ตรวจสอบแล้วมีทั้งหมด 4 คำร้องในทำนองเดียวกันก็เลยรวมไว้เป็นสำนวนเดียวกัน ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยของนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต.
ทั้งอธิบายเพิ่มเติมว่า ในเบื้องต้นได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่าเป็นคำร้องที่สามารถรับไว้พิจารณาได้ เลขาธิการกกต.ในฐานะนายทะเบียนก็รับเรื่องไว้และส่งเรื่องให้คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานดำเนินการตามกระบวนการต่อไป
กรอบเวลาการทำงานของคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน แต่หากมีข้อเท็จจริงเอกสารพยานหลักฐานที่ต้องทำเพิ่มก็ขอขยายได้อีก 30 วัน หลังจากนั้น ก็จะต้องรวบรวมความเห็นทั้งหมดเสนอ เลขาธิการกกต.ในฐานะนายทะเบียน ซึ่งหากมีความเห็นอย่างไรก็ต้องรอไปอีกระดับหนึ่ง ถ้าเห็นว่ามีการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายอันนำไปสู่การยุบพรรค เลขาธิการกกต.ในฐานะนายทะเบียนจะต้องเสนอเรื่องให้กกต.พิจารณา
ประธานกกต.ย้ำว่ากกต.จะมีความเห็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับรายงานเอกสารข้อเท็จจริงพยานหลักฐานที่จะได้รับจากนายทะเบียน ส่วนจะมีการเรียกแต่ละฝ่ายเข้าให้ข้อมูลอย่างไรนั้น อย่างที่เรียนว่าเรื่องเข้าสู่กระบวนการอย่างเป็นทางการแล้ว เท่าที่ทราบมีผู้ร้องมาให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและหลักฐานแล้ว
“แต่ระเบียบรวมข้อเท็จจริงและหลักฐานข้อ 7 วรรค 2 บอกไว้ว่าจะต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องมารับทราบข้อเท็จจริงและมีโอกาสแสดงความคิดเห็นและเสนอเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณาด้วย เพราะฉะนั้น มีขั้นตอนเหล่านี้อาจจะต้องใช้เวลาบ้างก่อนที่เข้าจะรวบรวมและเสนอเลขาธิการกกต.”ประธานกกต.กล่าวและว่า จะต้องดูข้อเท็จจริง เพราะเรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าในคำร้องทั้งหมดมีถึง 6 คำร้อง สำหรับผู้ที่ร้องในเรื่องดังกล่าว คือ บุคคลนิรนาม, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี, นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ,นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ซึ่งล่าสุดประธานกกต.ก็รวมสำนวนไว้ 4 คำร้อง
โดยผู้ร้องเห็นว่า เข้าข่ายขัดมาตรา 29 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ห้ามมิให้ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการใด อันเป็นการควบคุมครอบงำ หรือ ชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมือง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมและการที่พรรคเพื่อไทยและ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรค กระทำการอันเป็นการควบคุมครอบงำชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมือง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ก็เข้าข่ายขัดมาตรา 28 ทั้งนี้ หากการสอบสวนพบว่า เป็นความผิด ก็จะเป็นเหตุให้ นายทะเบียนพรรคการเมืองเสนอต่อ กกต. ให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคตามมาตรา 92 (3) ของกฎหมายเดียวกันได้
คาดว่าต้นปีหน้าคงจะรู้ผลว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ไปต่อ หรือพอแค่นี้ และมีใครบ้างที่จะต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี

ครม.มอบสำนักปลัดฯ ตั้งคณะกรรมการจัดงานพระราชพิธีพระบรมศพ'สมเด็จพระพันปีหลวง'
หัวใจแตกสลาย! 'ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์'ถวายอาลัย'สมเด็จพระพันปีหลวง' ยกย่องพระองค์ทรงเป็นฮีโร่
กสทช.ออกแนวปฏิบัติออกอากาศรายการ กรณี'พระพันปีหลวง'เสด็จสวรรคต
'เจ เจตริน'ประกาศชัดเรื่องจองคิวโชว์ ยินดีคืนเงินหากงดจัดงาน ขอความร่วมมือเรื่องแต่งกาย
น้ำใจคนวิเชียรบุรี! สองแม่ค้าแจก ‘ริบบิ้นดำ’ ถวายอาลัย ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี