พรรคเพื่อไทยใต้ร่มธงของอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ที่ว่า“คิดใหญ่-ทำเป็น”นั้น มีแค่ราคาคุยจริงๆ
เข้ามาเป็นรัฐบาลจากนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ชื่อ“เศรษฐา ทวีสิน”เรื่องที่ทำเป็นมีเรื่องเดียวคือ ช่วยให้เจ้าของคอกที่ชื่อ“ทักษิณ ชินวัตร”นักโทษคดีทุจริตโกงบ้านกินเมือง ไม่ต้องติดคุกจนกระทั่งพ้นโทษ
“เศรษฐา ทวีสิน”เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยที่เวลานี้คนไทยส่วนใหญ่ก็ลืมไปหมดแล้วว่านายเศรษฐาพ่อค้าด้านอสังหาริมทรัพย์อดีตประธานบริษัทแสนสิริผู้นี้เคยเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย
สิ่งที่คนไทยจำได้ก็คือ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะตั้งนายพิชิตชื่นบาน “ทนายถุงขนม”และเป็นทนายความของตระกูลชินวัตรซึ่งขาดคุณสมบัติที่จะเป็นรัฐมนตรีเข้าไปเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอันเป็นเหตุให้นายเศรษฐา ทวีสิน ต้องกระเด็นตกจากเก้าอี้
อีกเรื่องหนึ่งที่เห็น ก็คือ นายเศรษฐา ทวีสิน ถลุงเงินแผ่นดินเฉพาะค่าเดินสายเวิลด์ทัวร์เป็นเซลส์แมนเบอร์หนึ่งของประเทศทั้งหมด 17 ครั้งภายใน1 ปีที่นั่งอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งจากการเข้าร่วมประชุมเวทีโลกและด้วยข้ออ้างเพื่อไปชักชวนนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในบ้านเราซึ่งเพียงแค่หนึ่งปีผลาญเงินงบประมาณแผ่นดินไปไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท
เรียกว่าเงินจำนวนก้อนโตของแผ่นดินที่หมดไปนั้นมีจำนวนสูงกว่าเงินทองทรัพย์สมบัติที่นายเศรษฐา ทวีสิน วัย 62 ปี และ“หมออ้อม-พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน” คู่สมรส ทำมาหาเลี้ยงชีพมาได้ทั้งชีวิตเสียอีก ซึ่งเทียบเคียงได้จากตัวเลขบัญชีทรัพย์สินที่ป.ป.ช.นำมาเปิดเผยหลังจากนายเศรษฐาพ้นจากตำแหน่ง ว่านายเศรษฐาและภรรยามีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 1,018,719,225 บาท หรือ 1 พันล้านบาทเศษ
ยกมาให้ดูหนึ่งรายการใน 17 ครั้งจากการเดินสายเวิลด์ทัวร์ครั้งแรกของนายเศรษฐาทวีสินหลังเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในช่วงปลายเดือนสิงหาคมปี 2566ที่นายเศรษฐาและคณะได้เดินทางโดยเช่าเหมาลำเครื่องบินของบริษัทการบินไทยไปประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ที่นครนิวยอร์กสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18-24 กันยายน 2566 ซึ่งใช้จ่ายเงินหลวงไปทั้งหมดเกือบ 30ล้านบาท
รายการค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเลขอย่างทางการของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแจกแจงออกมา จากการเดินทางไปประชุมสมัชชา UNGA ดังกล่าวโดยหอบนางสาวชนัญดา ทวีสิน ลูกสาวคนเล็กที่ได้รับโอนหุ้นบริษัท แสนสิริของนายเศรษฐาทั้งหมดไปด้วยจนตกเป็นข่าวว่าพาลูกสาวไปในฐานะอะไรนั้นเฉพาะเป็นค่าใช้จ่ายเช่าเหมาเครื่องบินรวมทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเงินทั้งสิ้น 21,648,300ล้านบาท หรือ 21.64 ล้านบาท
และอีกกว่า 7 ล้านบาทที่หมดไปจากการประกาศตัวเป็นเซลส์แมนเบอร์หนึ่งของประเทศไทยของนายเศรษฐา ทวีสิน โดยมีผ้าขาวม้าคล้องคอและสวมถุงเท้าแดงเหมือนแขกขายผ้าออกเดินสายเวิลด์ทัวร์ครั้งแรกที่นครนิวยอร์กนี้ แยกเป็นค่าอาหารและเครื่องดื่มระหว่างบิน 1,479,520 บาท (1.4 ล้านบาท),ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการปฏิบัติการภาคพื้น จำนวน 3,065,955 บาท (3.06 ล้านบาท)และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 3,806,224 บาท (3.8 ล้านบาท)
ทุกวันนี้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่งไปแล้ว เหมือนว่าได้ยกภูเขาออกจากอกเท่ากับหมดภาระและความกังวลใจใดๆ เพราะขืนอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปไม่แคล้วต้องติดคุกติดตะราง ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า ใครรับใช้“ทักษิณชินวัตร” ถ้าไปเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ชอบมาพากล มักจะจบในคุกแทบจะทุกราย
วันนี้ก็มาถึงคิวของลูกสาวอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตรนามว่า“แพทองธาร ชินวัตร”ที่ไม่ประสีประสาในเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งไม่เพียงแต่นโยบายของพรรคเพื่อไทย“คิดใหญ่-ทำเป็น”เท่านั้น ยังมีคำขวัญอันเป็นวรรคทองที่ใหญ่ไปกว่านั้นอีก คือรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะ“สร้างโอกาส ทำให้คนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี”
ที่เห็นเฉพาะหน้าคือ เพิ่งจะถลุงเงินหลวง 1.4แสนล้านบาท แจกให้แก่คนไทยกลุ่มเปราะบางเป็นเงินสดคนละ 1 หมื่นบาทจำนวน14.5 ล้านคนไปแล้ว ตาม“นโยบายตกเขียว”ว่าด้วยการแจกเงิน“ดิจิทัลวอลเล็ต”ของพรรคเพื่อไทยที่ประกาศไว้ตอนหาเสียง
ปรากฏว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้แต่เสียง“ผายลม”ที่จะเป็นพายยุหมุนไปกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่โฆษณาชวนเชื่อไว้ก็เงียบฉี่ไม่มีใครได้ยินได้เห็น ขณะที่พรรคเพื่อไทยได้ไปเต็มๆ เอาเงินหลวงแจก-แต่พรรคเพื่อไทยได้ชื่อ ได้คะแนนนิยมสำหรับใช้หาเสียงกับชาวบ้านในการเลือกตั้ง
สำคัญที่สุด เวลานี้รัฐบาลของ“มาดามแพ”โดย“ทักษิณ ชินวัตร”คิดและกระทรวงการคลังทำ กำลังมีแผนจะปฏิรูปการจัดเก็บภาษีครั้งใหญ่ทั้งการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และการปรับภาษีเงินได้ให้อยู่ที่ร้อยละ 15
คิดดูก็แล้วกัน“คิดใหญ่-ทำเป็น”แบบนี้ใครก็ทำได้ เป็นรัฐบาลเข้ามาถลุงเงินพอเงินไม่มีก็หันมารีดภาษีจากชาวบ้านที่กำลังจะตายกันอยู่รอมร่อ ขณะที่ที่ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมเวลานี้ก็ต้องปิดกิจการไปตามๆ กันคาดว่าอีกไม่นานก็คงจะถึง 2 พันโรง หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยเข้ามาเพียงแค่เข้าปีที่ 2
ถามว่าไหนล่ะ ที่บอกว่าจะทำให้คนไทย“มีกิน มีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี” มีแต่รัฐบาลยิ่งอยู่นานเท่าใด ชาวบ้านก็จะยิ่งลำบากเดือดร้อนกันโดยถ้วนทั่วทั้งแผ่นดิน ?!
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี