วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เรื่อง“ป่วยทิพย์-ชั้น 14”โรงพยาบาลตำรวจตามที่คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจสอบสวนจรรยาบรรณแพทย์ ของแพทยสภา ซึ่งมีศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี เป็นประธาน ได้ขอให้ พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมทั้งเอกสารหลักฐานวัตถุพยานนั้น
แม้จะมีการส่งเอกสารมาแล้วก็ตาม แต่ก็ปรากฏว่าไม่ครบตามที่คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ หรือคณะอนุกรรมการสอบสวนฯชุดนี้ขอไปซึ่งฟังจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนทั่วไปแล้วก็น่าจะเป็นเพราะมีการ“โกหก”อย่างเป็นขบวนการจึงไม่สามารถหาเอกสารหลักฐานวัตถุพยานได้ครบ
รายละเอียดข้อเท็จจริงต่างๆ ที่คณะอนุกรรมการสอบสวนฯขอแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567และให้ส่งเอกสารที่ขอไปทั้งหมดกลับมาภายในวันที่ 15 มกราคม 2568 นั้นจะต้องทำคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมพยานหลักฐานที่สนับสนุนคำชี้แจงทุกประเด็น ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2566ที่“ทักษิณ ชินวัตร”เข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลตำรวจ จนกระทั่งถูกจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลตำรวจเมื่อครบ 180 วันในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 - มีดังนี้
รายละเอียดเกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาพยาบาลของ“ทักษิณ ชินวัตร”ทั้งหมดโดยละเอียด, ขอทราบ ชื่อสกุลแพทย์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาผู้ป่วย รวมถึงเลขใบประกอบวิชาชีพ,ขอคำชี้แจงจากแพทย์ทั้งหมดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการตรวจ การวินิจฉัยและการดูแลรักษา, ขอความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องระหว่างที่แพทย์ทำรายงานสามครั้ง ถึง อธิบดีกรมราชทัณฑ์, ปลัดกระทรวงยุติธรรมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอันเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่ต้องส่งทักษิณกลับเข้าเรือนจำในช่วงครบ 30 วัน, 60 วันและ 120 วันตามลำดับ
นอกจากนั้น ยังขอสำเนาใบส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาต่อ, สำเนาเวชระเบียน,สำเนาบันทึกการผ่าตัด, สำเนาบันทึกการให้ยาระงับความรู้สึก,สำเนาบันทึกการพยาบาล, สำเนารายงานทางการแพทย์ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่นภาพถ่ายทางรังสีวินิจฉัย ผลการตรวจทางรังสี และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการหรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการรักษา“ทักษิณ ชินวัตร”โดยให้ระบุหมายเลขหน้าเอกสารดังกล่าวและให้เจ้าหน้าที่ลงนามรับรองสำเนาเอกสารทุกหน้าด้วย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจจะส่งเอกสารให้คณะอนุกรรมการสอบสวนฯไม่ครบก็ตาม แต่ นพ.อมร ลีลารัศมี ก็ได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการสอบสวนฯแล้วเมื่อวันที่ 16 มกราคม วานนี้ โดยนพ.อมรเปิดเผยว่า แม้จะมีการส่งเอกสารมาเพียงบางส่วนเท่านั้นแต่ก็สามารถนำมาพิจารณาในเบื้องต้นได้ และถ้าหากเอกสารตรงไหนไม่ชัดเจนก็อาจจะต้องเชิญแพทย์-พยาบาลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เช่นเดียวกับที่ศาลพิจารณาคดี
ทั้งนี้ นพ.อมร ลีลารัศมี กล่าวว่า “การพิจารณาของคณะอนุกรรมการสอบสวนฯยังไม่ใช่ที่สิ้นสุด เพราะต้องส่งข้อมูลไปยังกรรมการแพทยสภา (บอร์ดแพทยสภา)เพื่อพิจารณาตัดสิน ดังนั้น การพิจารณาข้อมูลของคณะอนุกรรมการสอบสวนฯจึงต้องเป็นความลับ ไม่สามารถเปิดเผยได้จะไปเปิดเผยได้ก็ต่อเมื่อมีการตัดสินที่บอร์ดแพทยสภาแล้ว”
เมื่อดูรายชื่อบอร์ดแพทยสภาชุดใหม่ 35 คน ที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา โดยจะอยู่ในวาระจนถึงปี 2570 ก็ล้วนแล้วแต่เป็นนายแพทย์ที่มีเกียรติภูมิดีเด่น ซึ่งประชาชนคนไทยพอจะอุ่นใจได้ว่ากรณี“ป่วยทิพย์-ชั้น 14”จะไม่“เป็นมวยล้มต้มคนดู”
เพราะอย่างน้อย นพ.อมร ลีลารัศมี ซึ่งถือว่าเป็น“นายแพทย์ตงฉิน”ก็ได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาเป็นบอร์ดแพทยสภาชุดนี้อีกครั้ง รวมทั้ง ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภาอดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาด้วยคะแนนเป็นลำดับหนึ่งก็เป็นนายแพทย์ที่มีเกียรติประวัติสูงยิ่งและคาดว่าน่าจะเป็นนายกแพทยสภาคนใหม่อีกด้วย
ภายในเดือนมีนาคมนี้ ตามที่ นพ.อมร ลีลารัศมี เปิดเผยว่าจะพยายามทำให้ผลการสอบสอบสวนเสร็จสิ้นนั้นคงต้องวัดความดันโลหิตของ“แพทย์-พยาบาล”ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7คน ว่าจะพรุ่งปรี๊ดจนปรอทแตกหรือไม่
นั่นก็คือ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อครั้งเป็นนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ, พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ, พ.ต.อ.ชนะ จงโชคดี นายแพทย์ (สบ 5)โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นแพทย์เจ้าของไข้ และผู้เป็นผู้ออกใบความเห็นแพทย์,พล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ผู้ออกใบความเห็นแพทย์,นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์,แพทย์หญิงรวมทิพย์ สุภานันท์ แพทย์ผู้ตรวจร่างกายขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่และนายธัญพิสิษฐ์ ขบวน พยาบาลเวร เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ถ้าหากใครคนใดหนึ่งในจำนวน 7 คนนี้“โกหก”ก็เท่ากับว่าทุจริตประพฤติมิชอบต่อตำแหน่งหน้าที่และไร้จรรยาบรรณของวิชาชีพ ซึ่งย่อมจะต้องพบกับจุดจบที่ไม่สวยงามอย่างแน่นอน
ดังสุภาษิตที่ว่า-“คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใครที่ยอมรับใช้“ทักษิณชินวัตร” ก็มีให้เห็นมาแล้วว่าหนีไม่พ้นคุก !
รุ่งเรือง ปรีชากุล

ตอกหน้าฝรั่งดูแคลน! ประภาส เปิดอภินิหารคำว่า แล้ว พิสูจน์ความลึกซึ้งที่เหนือกว่า Tense
(คลิป) สื่อเขมร รายงานจริงครั้งแรก! ไทย ใช้ F-16 ทิ้งบอมปอยเปตพังท่องเที่ยวกัมพูชา
ปราชญ์ สามสี สดุดี จ่าเริง วีรบุรุษเนิน 350 ผู้ปกป้องแผ่นดินด้วยชีวิต
ทรัมป์ กร้าว ต้องการ กรีนแลนด์ เพื่อความมั่นคงของ สหรัฐฯ
เขมรกล่าวหาไทย ทิ้งระเบิด พ่นควันพิษ เป็น อาชญากรรมสิ่งแวดล้อม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี