วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ความตึงเครียดทางการเมืองในประเทศเกาหลีใต้ที่ร้อนแรงและสับสนวุ่นวาย ตั้งแต่ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลประกาศกฎอัยการศึกอย่างไม่มีปีมีขลุ่ย เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา และความตึงเครียดความสับสนวุ่นวายทางเมืองในเกาหลีใต้ก็คลี่คลายลงได้ระดับหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น
ยุน ซอก-ยอล มีพฤติกรรมคล้ายอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ที่ทำตัวเหนือกฎหมาย ไม่เคารพกฎเกณฑ์ใดๆ ในบ้านเมือง เขาประกาศกฎอัยการศึกด้วยข้ออ้างว่าพรรคฝ่ายค้าน สื่อมวลชน และประชาชนเป็นแนวร่วมเกาหลีเหนือมีจุดหมายทำลายรัฐ เพื่อดำรงไว้ซึ่งอธิปไตยเกาหลีใต้เขาต้องรวบอำนาจเด็ดขาดไว้แต่ผู้เดียว
อย่างไรก็ตาม ประกาศกฎอัยการศึกของยุน ถูกพรรคฝ่ายค้าน และชาวเกาหลีใต้ต่อต้านขัดขวางอย่างกล้าหาญ เพื่อดำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตย ที่อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการคานดุลกันอย่างสมบูรณ์ และเพื่อรักษาไว้ถึงดุลอำนาจตามระบอบประชาธิปไตย สส.หญิงพรรคฝ่ายค้าน กล้าหาญถึงขั้นปัดกระบอกปืนทหารที่ขวางกั้น ไม่ให้เธอเข้าประชุมสภา เพื่อลงมติยกเลิกกฎอัยการศึกที่ประกาศโดยลุแก่อำนาจ
หลังจากยกเลิกกฎอัยการศึกได้ การเมืองในเกาหลีใต้ยังคงตึงเครียด สับสน วุ่นวายเนื่องจากประธานาธิบดียุน ใช้เล่ห์กลในสภา ใช้ช่องว่างกฎหมาย และใช้ผู้สนับสนุน สมุนบริวาร และทหารรักษาความปลอดภัย เป็นเกราะกำบังห้อมล้อมขัดขวางไม่ให้ผู้บังคับใช้กฎหมายเข้าถึงตัวประธานาธิบดีที่ถูกถอดถอนได้
รัฐธรรมนูญเกาหลีใต้กำหนดให้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่า ประธานาธิบดีที่ถูกสภาถอดถอนจะต้องพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ นอกจากนั้นรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ ยังให้อำนาจตำรวจสำนักงานสอบสวนการทุจริตสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง หรือ CIO และอัยการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย กับประธานาธิบดีที่ถูกถอดถอน ในข้อหาขบถ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และคอร์รัปชั่นได้
ประธานาธิบดีที่ถูกถอดถอน ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที แต่ยังเป็นประธานาธิบดีตามกฎหมาย ยุนซอก-ยอล จึงใช้ช่องว่างนี้ หลีกเลี่ยงเบี่ยงเบนกระบวนการยุติธรรม ไม่ให้ความร่วมมือกับตุลาการศาลฯไม่ยอมไปให้การต่อ CIO และตำรวจ
ดังนั้นเพื่อให้กระบวนการสอบสวนเดินหน้าไปได้ CIO ต้องขอหมายศาลเพื่อจับตัว ยุน ซอก-ยอล ไปสอบสวนดำเนินคดี แต่การบุกจับตัวตามหมายศาลครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ประสบความล้มเหลว เมื่อหน่วยรักษาความปลอดภัยที่เป็นทหารและผู้สนับสนุนเขานับพันคนขัดขวาง ไม่ให้เข้าถึงบ้านประธานาธิบดีที่ถูกถอดถอน
หลังจากเผชิญหน้ากันกว่าหกชั่วโมง CIO ซึ่งสนธิกำลังกับตำรวจและอัยการประมาณ 250 คน จำต้องระงับหมายจับเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม และหลังจากนั้นบ้านพักประธานาธิบดี กลายป้อมปราการเหมือนในสนามรบเมื่อรถบัสหลายคันจอดปิดล้อมรอบบ้าน พร้อมด้วยลวดหนามขึงรอบบ้านอย่างแข็งขัน ชาวเกาหลีใต้เริ่มท้อใจว่าไม่สามารถนำตัวยุน ไปดำเนินคดีได้ ตราบใดเขายังเป็นประธานาธิบดี ซึ่งมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง หรือไม่ต้องรออีกสองปีกว่า
ในท่ามกลางความตึงเครียด เมื่อชาวเกาหลีใต้ทั้งฝ่ายต่อต้านและสนับสนุน ยุน ซอก-ยอล เผชิญหน้ากันท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บในกรุงโซล เช้ามืดวันที่ 15 มกราคมเจ้าหน้าที่ CIO ตำรวจ และอัยการนำกำลังกว่า 2,000 นายเคลื่อนขบวนไปถึงหน้าบ้านพักประธานาธิบดี เจ้าหน้าที่ใช้บันไดพาดข้ามกำแพงขึ้นไปตัดลวดหนาม บุกเข้าถึงตัวยุนได้ โดยที่ทหารรักษาความปลอดภัยไม่ขัดขืน
เจ้าหน้าที่ CIO กล่าวว่า “ตอนนี้ เราไม่ได้พิจารณาถึงการมอบตัวโดยสมัครใจของเขา เป้าหมายของเราคือดำเนินการตามหมายจับ” ในที่สุดก็จับตัวประธานาธิบดีผู้ดื้อรั้นได้ แต่ก็ไม่วาย ยุน พูดรักษาหน้าว่า “ผมยินดีให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันการนองเลือดโดยไม่จำเป็น” ยุน ถูกนำตัวไปสอบสวนดำเนินคดีท่ามกลางเสียงโห่ร้องของชาวเกาหลีใต้ว่า “ความยุติธรรมของเรายังทำงาน”
ยุน ซอก-ยอล ถูกสอบสวนห้าชั่วโมงก่อนศาลออกหมายขังระหว่างดำเนินคดี ยุน ซอก-ยอล จึงเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ถูกขังคุกในขณะที่ยังเป็นประธานาธิบดี นี่คือที่มาของวลีที่ว่า “หากยุน ซอก-ยอน เกิดในเมืองไทย และได้เป็นผู้นำไทย เขาจะไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว”
วลีที่ว่า “หากเขาเป็นผู้นำเมืองไทยไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว” บ่งชี้ถึงความล้มเหลว ล่มสลายในทุกภาคส่วนของสังคมไทย ที่มีรัฐบาลและฝ่ายค้านไร้เดียงสา ไม่มีสติปัญญา ไร้ประสบการณ์ ไม่รู้ไม่เข้าใจปัญหาในเชิงโครงสร้างของประเทศไทย ที่รวนไปทั้งระบบ การเมืองล้มเหลว ระบอบประชาธิปไตยไม่เป็นไปตามกระบวนการดุลอำนาจ ฝ่ายบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และ อำนาจตุลาการ
อำนาจบริหาร และนิติบัญญัติตกอยู่ใต้อิทธิพลบารมีของอดีตนักโทษเด็ดขาดคดีคอร์รัปชั่น ทุกองคาพยพต้องฟังนโยบายและมาตรการในทางปฏิบัติ จากคนที่ไม่มีอำนาจ ไม่มีหน้าที่ตามกฎหมาย แม้แต่การขึ้นลงราคาพลังงาน ค่าไฟฟ้า ตลอดถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่นำเงินงบประมาณไปผลาญ 1.45 แสนล้านบาท เพื่อหาเสียงกับกลุ่มเปราะบาง 14.5 คนก็ต้องฟังสัญญาณ จากคนไม่มีหน้าที่ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายสั่งการถึงปฏิบัติได้
ล่าสุด ผู้นำจิตวิญญาณรัฐบาลพรรคเพื่อกระสันให้ประเทศไทยมีกาสิโน มีบ่อนการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ทุกองคาพยพในรัฐบาลเพื่อไทย ขานรับความต้องการจุดมุ่งหมายนายใหญ่ในทันที คณะรัฐมนตรีอออกพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... แบบสายฟ้าแลบ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมตาลีตาเหลือกเร่งหามาตรการหาช่องทางกฎหมาย นำบ่อนการพนันออนไลน์มาอยู่บนดิน ทำสิ่งผิดกฎหมายกลายเป็นถูกกฎหมายให้ได้
พูดง่ายๆ คือรัฐบาลเพื่อไทยทำอะไร ต้องรอให้พ่อนายกฯพูดออกมาก่อน นอกจากนั้นพรรคร่วมรัฐบาลก็น้อมรับคำสั่งการจากคนไม่มีอำนาจตามกฎหมายโดยปริยาย ตราบใดที่ประสานผลประโยชน์ได้ จนอดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานสภาตำแหน่งละสองสมัยนายชวน หลีกภัย กล่าวว่า...“รัฐบาลยังมั่นคงเพราะพรรคร่วมไม่มีใครอยากออก แต่รัฐบาลอาจสะดุดล้มได้เพราะปัญหากฎหมาย อย่างกรณีนายพิชิต ชื่นบาน ศาลฯทำให้มาตรา 160 วงเล็บ 4 มีความหมายขึ้นมา”
นายราเมศ รัตนะเชวง เลขาฯนายชวน หลีกภัย สำทับอีกว่า “กัญชา สุรา คาสิโน พนันออนไลน์ โกงกินประเทศชาติเสรีไม่มีติดคุกแม้แต่วันเดียว มีอะไรที่อยากให้เสรีอีกมั้ย ถ้ารัฐบาลคิดว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้ประเทศรุ่งเรือง รีบเดินหน้าให้สุดซอย เพราะเชื่อว่าประชาชนกำลังนับถอยหลังให้รัฐบาลชุดนี้อยู่ #รัฐบาลเสรีมีกัญชาเสรีสุราคาสิโน
นายราเมศ เชื่อว่าประชาชนกำลังนับถอยหลังรัฐบาลชุดนี้อยู่ คงหมายถึงคดีต่างๆ ที่หน่วยงานอิสระ และหน่วยงานราชการกำลังตรวจสอบคดีชั้น 14 ที่นักโทษคดีคอร์รัปชั่นอ้างว่า รักษาอาการป่วยปางตายอยู่ 180 วันโดยไม่ต้องเข้าคุกแม้แต่วันเดียว
ข้อครหาความเลวร้ายบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ นับเป็นความล้มเหลว เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่นักโทษเด็ดขาดกล้าขัดพระบรมราชโององค์การพระราชทานอภัยโทษลดโทษแปดปีเหลือหนึ่งปีแต่ไม่เข้าคุกแม้แต่วันเดียว หรือเพราะเขามีอิทธิพลบารมีครอบงำรัฐบาล กระทรวงยุติธรรม โรงพยาบาลตำรวจ กรมราชทัณฑ์ตลอดถึงทำลายความน่าเชื่อถือของวงการแพทย์ไทยในวัยเด็กเราเชื่อมั่นศรัทธาแพทย์ทุกคน เพราะคิดว่าไม่มีอะไรสั่นคลอนจรรยาบรรณแพทย์ได้
แต่ตำนานเทวดาชั้น 14 ทำให้ความศรัทธาจรรยาบรรณแพทย์สั่นคลอนลงได้ และเมื่อไม่ศรัทธาจรรยาบรรณแพทย์ แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนไปไว้ใจ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการการเลือกตั้ง กรมราชทัณฑ์ อัยการ ตลอดถึงรัฐมนตรียุติธรรม และนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้
ดังนั้น สิ่งที่นายราเมศกล่าวว่า “ประชาชนกำลังนับถอยหลังรัฐบาลชุดนี้ เราเชื่อว่า ตราบใดที่ประเทศไทยล้มเหลวทุกภาคส่วน พวกเราคงนับถอยหลังไปถึงชาติหน้า หรือไม่ก็รอไปเกิดใหม่ในประเทศจีน เวียดนาม และ เกาหลีใต้เพื่อได้เห็นผู้นำทุจริต มีพฤติกรรมกระทำนอกกฎหมาย เดินก้มหน้าเข้าคุก
สุทิน วรรณบวร

ถึงอ่างทองแล้ว! ชายพิการปั่นจักรยานจาก'แม่สาย-กรุงเทพฯ' กราบพระบรมศพ'พระพันปีหลวง'
เยี่ยม'น้องลูกชิ้น' เด็ก16ปีหนัก180 กก. แม่สุดปลื้มลูกชายจะกลับมาเดินได้
'โฆษกรัฐบาล'แจงนโยบาย'แก้ไขหนี้เสียต่ำแสน' ลดเงื่อนไขชำระ ให้ลูกหนี้กลับเข้าระบบ
'ในหลวง-พระราชินี'พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆเฝ้าฯถวายเงิน
สวยงามแปลกตา! ยอดเขาแหลม ที่ทองผาภูมิ เปล่งประกายสีทองอร่าม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี