วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
คนในสังคมไทยทุกวันนี้ดูเสมือนว่ามีสิทธิเสรีภาพเต็มที่ สามารถเลือกสรรสิ่งต่างๆ ได้โดยอิสรเสรีแต่ถามว่าแล้วจริงๆ นั้น คนในสังคมไทยมีอิสระเสรีภาพในการเลือกจริงหรือ
สังคมเรามีพรรคการเมืองมากมาย แต่ถามว่านักการเมืองที่มีล้นหลามนั้นเป็นนักการเมืองคุณภาพสักกี่คน มีนักการเมืองสักกี่คนที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวจากการเข้าไปมีอำนาจรัฐ มีพรรคการเมืองกี่พรรคที่ไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของนายทุนนักธุรกิจเจ้าของพรรค
เราอาจจะดูเสมือนว่ามีอิสระในการเลือกใช้ เครือข่ายโทรคมนาคมในชีวิตประจำวัน แต่ถามจริงๆ ว่าบริษัทผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมในบ้านเราแข่งขันกันโดยสมบูรณ์จริงหรือ ทุกวันนี้
เราไม่ถูกบริษัทโทรคมนาคมเอารัดเอาเปรียบเรากระนั้นหรือ บริษัทโทรคมนาคมของรัฐ มีศักยภาพแข่งขันเพื่อให้บริการที่ดีที่สุดกับผู้บริโภค จริงหรือ แล้วเรามีหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมที่ทำงานอย่างจริงจังเพื่อสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้บริการ จริงหรือ หรือว่าเรามีหน่วยงานเหล่านั้นก็จริง แต่ก็เป็นเพียงหน่วยงานที่ตั้งขึ้นเพื่อเป็นที่ทำมาหากินของคนบางกลุ่มเท่านั้น โดยคนที่มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมของประเทศก็ยังตกเป็นเสมือนทาสของนายทุนเจ้าของธุรกิจโทรคมนาคม เขาจึงปกป้องพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของนายทุนมากกว่าตั้งใจปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน
ทุกวันนี้คนไทยดูเสมือนว่ามีสิทธิ์เลือกซื้อสินค้าข้าวของอุปโภค-บริโภคโดยเสรี แต่ถามจริงๆว่าเราทุกคนมีอิสระในการเลือกซื้อสินค้าจริงหรือ เราคงไม่ปฏิเสธว่าในบ้านเมืองของเรานั้นมีนายทุนใหญ่ที่ผูกขาดการค้าการขายสินค้าอุปโภค-บริโภคอยู่เพียงไม่กี่ราย ถามจริงๆ ทุกวันนี้เมื่อคุณออกไปจับจ่ายซื้อข้าวของอุปโภค-บริโภคคุณไปซื้อจากที่ใด แล้วคุณทราบดีใช่หรือไม่ว่า ใครคือนายทุนเจ้าของกิจการห้างร้านที่คุณเข้าไปซื้อของ และคุณก็คงทราบดีอีกเช่นกันว่า นายทุนเจ้าของธุรกิจเหล่านั้นขยายกิจการครอบคลุมไปทั่วทุกหัวระแหงทุกภูมิภาคของไทย โดยบางรายขยายกิจการไปในทุกตรอกซอกซอยที่มีผู้คนอยู่อาศัยหนาแน่น
สังคมไทยดูเสมือนว่าเป็นสังคมที่ธุรกิจต่างๆที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต ต่างแข่งขันการทำธุรกิจกันอย่างจริงจัง แต่ต้องบอกว่าในความจริงนั้น หลายธุรกิจในประเทศไทยสมยอม หรือสมรู้ร่วมคิด หรือฮั้วกันตลอดเวลา แต่ทำเสมือนว่าแข่งขันกันอย่างจริงจัง แต่คนที่รู้เท่าทันกลเกมเล่ห์อุบายของนักธุรกิจจอมฮั้วต่างบอกตรงกันว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่เต็มไปด้วยการกินรวบ การควบรวม ยิ่งเจ้าของกิจการขนาดใหญ่ระดับประเทศและระดับข้ามประเทศฮั้วกัน หรือควบรวมกิจการกัน ก็หมายถึงความเสียหาย เสียเปรียบของผู้บริโภค ทำให้ไม่มีการแข่งขันเพื่อให้บริการที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง และทำให้ผู้บริโภคต้องจ่ายค่าบริการที่แพงกว่าความเป็นจริง และที่สำคัญยิ่งกว่าคือคุณภาพของการบริการจะเลวทรามตกต่ำลงทุกขณะ เพราะไม่มีความจำเป็นที่ผู้ให้บริการต้องแข่งขันเพื่อเพิ่มคุณภาพของสินค้าและการบริการ
ถามทิ้งท้ายว่าคนไทยส่วนใหญ่รู้หรือไม่ว่าสังคมไทยตกอยู่ใต้การผูกขาด การกินรวบโดยนายทุนใหญ่บางกลุ่ม ตอบว่าคนไทยส่วนใหญ่รู้ แต่ทว่าไม่มีทางเลือก ไม่มีทางออก เพราะหันไปทางซ้ายก็เจอนายทุนกินรวบ หันไปทางขวาก็เจอนายทุนกินรวบ แม้กระทั่งหันไปหารัฐบาลก็ยังเจอรัฐบาลที่ฮั้วกันเพื่อแบ่งปันผลประโยชน์สาธารณะ นี่คือความจริงที่แสนเลวร้ายของสังคมไทย

เปิดใจ! อาสากู้ภัยนำข้าวแจกชาวบ้าน ถูกน้ำพัดหาย ยันไม่ท้อ กลับมาช่วยต่อ ส่งข้าวกล่องใหม่ 200 ชุด
'HP'เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่6,000ตำแหน่งทั่วโลก หวังลดค่าใช้จ่ายรับยุคของAI
โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ 'เขมวันต์ สงคราม' เป็นพลเรือเอก และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
หมอสมเกียรติ คลินิกดังกระบี่ เปิดคลินิกรักษาฟรี2วัน ส่งต่อทุกบาทช่วยน้ำท่วม
‘อนุทิน’เยี่ยมศูนย์ อพยพ ม.อ.หาดใหญ่ สั่งเร่งระดมช่วยคนติดค้าง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี