วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
“ทักษิณ ชินวัตร” ครองบ้านครองเมืองโดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นกลไกขับเคลื่อน และมี“มาดามแพทองโพย”บุตรสาวเป็นนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรัฐบาลผสม“ข้ามขั้ว” พร้อมทั้งมีบริษัทบริวารเข้าไปเป็นรัฐมนตรีคอยรองมือรองเท้า ในเวลานี้นั้น เพียงเข้าปีที่ 2 ก็เห็นแล้วว่า ประเทศไทยไม่ต่างจาก“กิจการ”ของตระกูลชินวัตร ที่มีทักษิณเป็น“นายห้าง”
ไม่เพียงแต่เท่านั้น “ทักษิณ ชินวัตร”กลายเป็นผู้ทรงอำนาจนอกเหนือรัฐธรรมนูญที่แท้จริง และนับวันก็ยิ่งมีความน่าวิตกว่า ประเทศกำลังเดินเข้าไปใกล้ความเป็น“รัฐล้มเหลว” หรือ “Failed State” คือเป็นรัฐที่แตกสลาย
ทั้ง“ทักษิณ ชินวัตร”ผู้เป็นบิดา และ“แพทองธาร ชินวัตร”บุตรสาวผู้สืบสันดาน ไม่เคยฟังเสียงวิจารณ์ใดๆ เรียกว่าไม่เห็นหัวผู้ใดใครทั้งสิ้น เหมือน“ยิ่งห้ามก็ยิ่งทำ”
คนเป็นลูกคือ“มาดามแพทองโพย”นั้น ยังพอเข้าใจได้ว่า จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องการไม่รู้จักกาลเทศะเกี่ยวกับ“เสื้อ-ผ้า-หน้า-ผม” อันเนื่องมาจากการขาดวุฒิภาวะ ว่าอะไรควรไม่ควรระหว่างความเป็นนายกรัฐมนตรี กับความเป็น“ลูกคุณหนูพ่อรวย” นั่นก็เพราะด้วยแรงต่อต้าน เหมือนเธอกำลังถูกสังคมจำกัดในเรื่องที่อยากจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ เช่นที่เคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า “เพราะนี่เป็นฉัน, ฉันก็จะแต่งตัวแบบนี้แหละ”
ดังนั้น ช่วงที่“แพทองโพย”เดินทางไปเยือนประเทศจีน จึงคล้ายกับ“ตัวประหลาด” ไม่สำเหนียกอะไรใดๆ ทั้งสิ้น นึกอยากจะแต่งอะไรก็แต่ง ไม่เหมือนกับชาวบ้านหรือภริยาผู้นำคนอื่นๆ วันหนึ่งเปลี่ยนสามสี่ชุด
ในทางจิตวิทยาเรียกว่าเป็นอาการ“Reactance”ของ“มาดามแพทองโพย” คือ มีพฤติกรรมที่ต้องการจะแหกกฎ เป็นปฏิกิริยาเพื่อเรียกคืนเสรีภาพของตนเองให้กลับมา ด้วยการทำลายระเบียบการแต่งกายที่เป็นพิธีการ แล้วก็แต่งกายตามที่อยากแต่ง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาในวันที่เปิดทำเนียบรัฐบาลต้อนรับ“นาโอมิ แคมป์เบลล์” นางแบบชื่อดังระดับโลก เข้าพบหารือเรื่องแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นนั้น “มาดามแพทองโพย”ก็ยังได้กล่าวกับนางแบบวัย 54 ปีชาวอังกฤษเชื้อสายจาเมกาผสมจีนผู้นี้ ว่าตนชอบใส่แฟชั่นแตกต่าง ที่ไม่เหมือนกับนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ
และวันที่พบกับ“นาโอมิ แคมป์เบลล์” ยังปรากฏเป็นข่าวว่า ด้วยเวลาเพียงไม่กี่นาทีที่พบกับนางแบบผู้นี้ “มาดามแพทองโพย”ได้เปลี่ยนรองเท้าถึง 2 คู่ คือหนึ่งคู่ใส่ตอนนั่งคุย กับอีกคู่หนึ่งใส่ตอนยืนถ่ายรูปคู่กับนางแบบชื่อดัง ซึ่งมีส้นสูง เมื่อใส่คู่นี้แล้ว เธอจะได้ดูไม่เตี้ยกว่านาโอมิที่มีความสูง 178 เซนติเมตร
สำหรับ“นาโอมิ แคมป์เบลล์” จะว่าเป็น“ของเล่น”ที่อดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา“จัดหา”มาให้บุตรสาวเล่น นอกเหนือจากเป็นนายกรัฐมนตรี“หุ่นเชิด”ก็ไม่ผิดนัก เพราะทักษิณลงทุนควักเงินส่วนตัว 20 ล้านบาท จ้างให้นางแบบผิวสีผู้นี้เป็นที่ปรึกษาเพื่อช่วยงานเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย ที่“มาดามแพทองโพย”นั่งเป็นประธาน
นั่นก็เรื่องหนึ่ง แต่อีกเรื่องหนึ่ง หลังจากต้อนรับ“นาโอมิ แคมป์เบลล์”เสร็จสรรพ ปรากฏว่า“มาดามแพทองโพย” ก็ได้พาลูกสาวลูกชาย 2 คนมาวิ่งเล่นที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ในทำเนียบรัฐบาล ระหว่างนั้นก็ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไปด้วย แต่ให้สัมภาษณ์ละม้ายคล้าย“คุณหนูเอ๋อ” ถามคำตอบคำ แต่สายตาและมือไม้สาละวนอยู่กับลูก
อย่างไรก็ดี เรื่องของ“มาดามแพทองโพย”ผู้เป็นลูกสาว ไม่น่าวิตกเท่าไร แต่สำหรับอดีตนักโทษเด็ดขาดชายผู้เป็นบิดา กลับเป็นเรื่องน่าอันตรายต่อประเทศชาติทั้งในวันนี้และในอนาคต ที่จะนำไปสู่การเป็น“รัฐล้มเหลว”
เรื่องการ“ป่วยทิพย์-ชั้น 14”โรงพยาบาลตำรวจ ที่พรรคฝ่ายค้านจะนำไปเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี รวมทั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยังกุมความลับไว้ทั้งหมดอยู่ในเวลานี้นั้น ก็เป็นเครื่องบ่งชี้ เพราะหลักนิติธรรมในการบังคับใช้กฎหมายของประเทศนี้ได้ถูกทำลายโดย“ทักษิณ ชินวัตร”ผู้เป็น“นักโทษเทวดา”
อีกทั้งยังมีเรื่องการเป็นนายกรัฐมนตรีทับซ้อน โดย“ทักษิณ ชินวัตร”ใช้ลูกสาวเป็น“ร่างทรง” และเรื่องการดำเนินนโยบายของรัฐบาลซึ่งไม่ได้เป็นไปตามที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ เช่น โครงการ“ดิจิทัล วอลเล็ต”เป็นต้น จากที่จะแจกเป็นเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ก็เปลี่ยนเป็นแจกเงินสด และสุดท้ายเป้าหมายเพื่อต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้น
นอกเหนือจากนั้น ก็ยังมีเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ซุก“กาสิโน”ซ่อนเอาไว้เป็นเม็ดใน และรวมทั้งการพนันออนไลน์ที่จะนำขึ้นมาบนดินให้ถูกกฎหมาย ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้ ล้วนจะนำไปสู่“ธุรกิจสีเทา”ที่เป็นปัญหาซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก ทั้งการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ การฟอกเงิน การค้ามนุษย์ รวมไปถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กำลังพยายามจะปราบกันให้สิ้นซาก
สิ่งที่จะต้องจับตาอย่างเป็นพิเศษ คือเรื่องที่พรรคเพื่อไทยกำลังจะฉีก“รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงนักการเมือง”ที่ใช้ในปัจจุบันนี้ทิ้ง โดยร่วมมือกับพรรคประชาชน แล้วยกร่างฉบับใหม่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้นักการเมืองชั่วร้ายทั้งหลายได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่
ไม่แน่ว่าถ้าหากสามารถยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ นายกรัฐมนตรีคนต่อไปอาจจะชื่อ“ทักษิณ ชินวัตร”ก็เป็นได้ !
รุ่งเรือง ปรีชากุล

‘ภราดร’ชงครม.เยียวยาน้ำท่วมเพิ่ม จ่ายรายเดือนเป็น‘4 ขั้นบันได’30-60-90-120 วัน
พลังศรัทธา! ‘หลวงตาบุญชื่น’ ปฏิเสธพักฟื้น รพ. ลุกเดินธุดงค์ทั้งที่มีภาวะเลือดจาง
‘ปชป.’ผุดแคมเปญ‘เปิดฟ้าใหม่ ไล่เมฆเทา’ เปิดข้อมูล‘อาชญากรรมข้ามชาติ’ ฟอกเงินโยง‘อดีต รมช.’
ส่องฟีดแบค!! หลัง 'เดอะมีน' พ้นสภาพพนักงาน 'อาร์ม OHANA'โพสต์เดือดทันที
มาสเตอร์ 'ลูกเกด เมทินี'รุกฆาต ขึ้นบัลลังก์ 'Master Chair'พลิกเกมเชือด WARRIOR 'หวาย กามิกาเซ่'

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี