วันพฤหัสบดี ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2569
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิด เขียน คุย
คิด เขียน คุย

คิด เขียน คุย

รุ่งเรือง ปรีชากุล
วันพุธ ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ทำไม‘สี จิ้นผิง’ไม่เยือนไทย ?

ดูทั้งหมด

  •  

เวียดนามเป็นประเทศแรกที่“สี จิ้นผิง”ผู้นำจีนเยือน ท่ามกลางบรรยากาศอันร้อนระอุของ“สงครามการค้า”ระหว่าง“พญาอินทรี-สหรัฐอเมริกา” กับ “มังกรจีน-แผ่นดินใหญ่” จากการขึ้นภาษีการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เจ้าของฉายา“ทรัมป์บ้า”

การเดินสายทัวร์ 3 ประเทศอาเซียน คือเวียดนาม, มาเลเซีย และกัมพูชา อย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระหว่างวันที่ 14-18 เมษายนในครั้งนี้นั้น  แปลกแต่จริง ไม่มีประเทศไทยอยู่ในหมายกำหนดการ 


แต่ก็อย่างว่า หากผู้นำจีนมาก็ไม่น่าจะเกิดประโยชน์อะไรในทางสร้างสรรค์ เพราะประเทศไทยในวันนี้มีความ“สับสน”เกี่ยวกับโครงสร้างทางอำนาจ  ซึ่งคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงก็ดันเป็นนายกฯ“อีแอบ” ไม่มีกฎหมายรองรับ จะเรียกว่าเป็น“นายกฯเถื่อน”ก็ไม่ผิดนัก ได้แต่“สทร.”คือ “แส่-เสือกไปทุกเรื่อง” ส่วนนายกรัฐมนตรีที่ถูกต้องตามกฎหมายมีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญรองรับ ก็ไร้วุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถ และอ่อนด้อยสติปัญญา จะเป็นได้ก็เพียงแค่“นายกฯหุ่นเชิด”ที่บิดาเป็นผู้ชักใยเท่านั้น

ที่พูดอย่างนี้ก็เพราะ ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาที่จังหวัดเชียงใหม่ การแสดงออกของอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ตอกย้ำให้คนไทยในประเทศนี้เห็นเด่นชัดว่า “ทักษิณ”คือผู้นำรัฐบาลตัวจริง ให้สัมภาษณ์ทุกเรื่อง-รู้ทุกเรื่อง ไม่มีอ้ำอึ้งกับผู้สื่อข่าวอีกแล้ว ขณะที่“มาดามแพทองโพย”บุตรสาวนั้น มีสภาพไม่ต่างไปจาก“ลูกคุณหนู”ที่บิดาพาไปเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ ใช้ปืนฉีดน้ำวิ่งเล่นหัวเราะระรื่น ชนิดที่เก็บอาการ“อิ๊งค์เอ๋อ”ไม่อยู่

ฉะนั้นแล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะมาหรือไม่มาก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด อีกทั้ง“นายกฯเถื่อน”ผู้เป็นบิดาก็พูดจาฟุ้งหลงยุคหลงสมัย คุยโม้โอ้อวดไปเรื่อยเปื่อย อย่างเช่น ได้คุยกับบุคคลที่อยู่รอบตัวทรัมป์เรียบร้อยแล้ว และหากมีจังหวะเวลาก็จะเดินทางไปสหรัฐฯ เป็นต้น ขณะที่ประเทศอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของทรัมป์ ต่างไม่หยุดนิ่ง ทั้งเจรจาและตอบโต้สหรัฐฯกลับ

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางถึงกรุงฮานอยเมืองหลวงของเวียดนามเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ตามคำเชิญของ“โต เลิม”เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และประธานาธิบดี“เลือง เกื่อง”ของเวียดนาม นับเป็นการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งที่ 4 และเป็นครั้งที่สองในรอบ 18 เดือนของผู้นำจีน ซึ่งการเยือนเวียดนามของผู้นำจีนในครั้งนี้ยังตรงกับวาระครบรอบ 75 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและเวียดนามด้วย โดยจีนมุ่งหวังที่จะเสริมสร้างอนาคตร่วมกันระหว่าง“ประชาคมจีน-เวียดนาม” ให้มีความร่วมมือและความเข้าใจที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ

และแน่นอนว่า การเดินทางเยือนเวียดนามของ“สี จิ้นผิง” ยังหมายถึงการสานสัมพันธ์ให้กระชับแน่นระหว่างจีนกับเวียดนาม“ท่ามกลางสงครามการค้า” ซึ่งทั้งจีนและเวียดนามกำลังเผชิญแรงกดดันจากการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในอัตรา 145 เปอร์เซ็นต์ และ 46 เปอร์เซ็นต์ ที่จีนและเวียดนามโดนเรียกเก็บ โดยผู้นำจีนได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “จีนและเวียดนามยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์ และควรเดินหน้าต่อไปโดยร่วมมือกัน”

ทั้งนี้ “สี จิ้นผิง” ซึ่งได้เขียนบทความลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์“เญินเซิน”ของรัฐบาลเวียดนาม และเผยแพร่เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งย้ำถึงแนวทางของปักกิ่งว่า “สงครามการค้าและสงครามภาษีจะไม่ทำให้มีผู้ชนะ และลัทธิกีดกันทางการค้าไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร” โดยก่อนจะเดินทางต่อไปประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 15 เมษายนวานนี้  ประธานาธิบดีสียังเรียกร้องให้จีนและเวียดนามร่วมมือกันเสริมสร้างด้านเศรษฐกิจ เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานการเชื่อมโยงทางบกและทางทะเล รวมทั้งอุตสาหกรรมใหม่ อาทิเช่น ปัญญาประดิษฐ์, พลังงานสะอาด และเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อสนับสนุนการพัฒนาร่วมกันในระยะยาว

อีกทั้งในทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับความร่วมมือดังกล่าว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและเวียดนาม ยังได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือรวมทั้งสิ้น 45 ฉบับ ครอบคลุมตั้งแต่ข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน และความร่วมมือด้านการพัฒนาระบบรางรถไฟ

ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายเวียดนาม โดย“โต เลิม” เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้ระบุในบทความที่โพสต์ลงบน“เว็บไซต์จ่าว”ของรัฐบาลในวันที่ 14 เมษายนเช่นกันว่า ประเทศเวียดนามพร้อมเสมอที่จะร่วมมือกับจีน เพื่อให้ความร่วมมือระหว่างสองประเทศมีความหมาย“ลึกซึ้ง-สมดุล และยั่งยืน”มากขึ้น

สำหรับประธานาธิบดี“สี จิ้นผิง”ได้เดินทางถึงประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 15 เมษายนวานนี้ หลังจากประสบความสำเร็จจากการเยือนเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่ซื้อสินค้าจากประเทศจีนรายใหญ่ที่สุดของอาเซียน โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา เวียดนามซื้อสินค้านำเข้าจากจีนมีมูลค่าถึง 161,900ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5.42 ล้านล้านบาท และจะอยู่ในมาเลเซียจนถึงวันที่ 17 เมษายน จากนั้นจึงบินต่อไปประเทศกัมพูชาก่อนจะปิดทริปอาเซียนทัวร์ในวันที่ 18 เมษายน

จะอะไรก็ตามแต่ การเดินทางเยือน 3 ประเทศอาเซียนของ“พญามังกรจีน”ในครั้งนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับประเทศที่เปรียบเสมือนเพื่อนบ้านเรือนเคียงที่มีความใกล้ชิดกับจีนมากที่สุด หลังจากทรัมป์มีสภาพเหมือน“หมาบ้าอาละวาด” ทำให้กว่า“180 ประเทศและดินแดน”บนโลกใบนี้วุ่นวายปั่นป่วนกันไปทั่วนั้น จึงเหมือนกับจีน“ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว” คือได้ทั้งมิตรประเทศเป็นแนวร่วม และยังได้เรื่องตลาดการค้าด้วย

เพราะนอกจากเวียดนามที่เป็นประเทศซึ่งซื้อสินค้าจากประเทศจีนรายใหญ่ที่สุดของอาเซียนแล้ว มาเลเซียก็เป็นประเทศอาเซียนที่ซื้อสินค้าจากจีนในลำดับสอง โดยในปี 2567 มาเลเซียนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นมูลค่า 101,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.4 ล้านล้านบาท

ขณะที่กัมพูชา พบว่าตัวเลขล่าสุดของปี 2568 จากเดือนมกราคม-มีนาคม จีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ด้วยมูลค่าการค้ารวม 2,662.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8.9 หมื่นล้านบาท มิหนำซ้ำโรงงานของจีนที่อยู่ในกัมพูชายังมีมากเกือบ 2 พันโรงงาน

กลับมาคิดถึงประเทศไทยแล้วก็วังเวงใจ-สองพ่อลูกคู่นี้คิดได้อย่างเดียวคือ“กาสิโน” !

 

รุ่งเรือง ปรีชากุล

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:00 น. 'ดร.ส้ม' ลั่นไม่เคยเคลมผลงานใคร ยันลุยดัน กม.คุกคามทางเพศมาตั้งแต่ปี62
21:50 น. มีหนาว! คุกคามทางเพศผ่านโซเชียลมีเดีย มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้
21:49 น. ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ฉบับใหม่ กำหนดคุณสมบัติต้องห้าม ผู้ใหญ่บ้าน
21:38 น. สุริยะใส ย้อนเกล็ด เลือกตั้ง ไม่เอาลุง ครั้งนี้ ไม่เอาเทา คงได้ รัฐบาลเทวดา
21:25 น. แฉทุนจีนแย่งอาชีพคนไทย รุกธุรกิจเผาถ่านกะลามะพร้าว ทำผู้ประกอบการไทยเดือดร้อน
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 27 ธ.ค.68 - 2 ม.ค.69
ฮุนเซน เล่นใหญ่ โพสต์เฉลิมฉลองวันหยุด วันสันติภาพกัมพูชา
ปิดด่านชายแดนพ่นพิษ กัมพูชาเผยยอดนำเข้าจากไทยวูบ ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว
ยิปซี 12 นักษัตร : พยากรณ์ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2568 – 3 มกราคม พ.ศ.2569
สื่อเขมร อ้าง ‘ไทยโกหก’ โจมตีทางอากาศเพราะประเทศมีอาชญากรรมทางไซเบอร์
ดูทั้งหมด
ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
‘พรรคส้ม’อุ้มผู้กระทำผิด ข่มขู่อาฆาตมาดร้ายในหลวง ขึ้นบัญชี สส.ปาร์ตี้ลิสต์
KRAC Recap 2025: What We Built, What Changed and Why It Matters
บุคคลแนวหน้า : 31 ธันวาคม 2568
เส้นใต้บรรทัด : ‘โดม ปกรณ์ ลัม’ กับนิยาม ‘คุกคามทางเพศ’
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'ดร.ส้ม' ลั่นไม่เคยเคลมผลงานใคร ยันลุยดัน กม.คุกคามทางเพศมาตั้งแต่ปี62

มีหนาว! คุกคามทางเพศผ่านโซเชียลมีเดีย มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ฉบับใหม่ กำหนดคุณสมบัติต้องห้าม ผู้ใหญ่บ้าน

สุริยะใส ย้อนเกล็ด เลือกตั้ง ไม่เอาลุง ครั้งนี้ ไม่เอาเทา คงได้ รัฐบาลเทวดา

แฉทุนจีนแย่งอาชีพคนไทย รุกธุรกิจเผาถ่านกะลามะพร้าว ทำผู้ประกอบการไทยเดือดร้อน

เชิดชูเกียรติ หนุ่มวัย 21 ทำบุญใหญ่ครั้งสุดท้าย บริจาคอวัยวะช่วย 4 ชีวิต

  • Breaking News
  • \'ดร.ส้ม\' ลั่นไม่เคยเคลมผลงานใคร ยันลุยดัน กม.คุกคามทางเพศมาตั้งแต่ปี62 'ดร.ส้ม' ลั่นไม่เคยเคลมผลงานใคร ยันลุยดัน กม.คุกคามทางเพศมาตั้งแต่ปี62
  • มีหนาว! คุกคามทางเพศผ่านโซเชียลมีเดีย มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้ มีหนาว! คุกคามทางเพศผ่านโซเชียลมีเดีย มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้
  • ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ฉบับใหม่ กำหนดคุณสมบัติต้องห้าม ผู้ใหญ่บ้าน ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ฉบับใหม่ กำหนดคุณสมบัติต้องห้าม ผู้ใหญ่บ้าน
  • สุริยะใส ย้อนเกล็ด เลือกตั้ง ไม่เอาลุง ครั้งนี้ ไม่เอาเทา คงได้ รัฐบาลเทวดา สุริยะใส ย้อนเกล็ด เลือกตั้ง ไม่เอาลุง ครั้งนี้ ไม่เอาเทา คงได้ รัฐบาลเทวดา
  • แฉทุนจีนแย่งอาชีพคนไทย รุกธุรกิจเผาถ่านกะลามะพร้าว ทำผู้ประกอบการไทยเดือดร้อน แฉทุนจีนแย่งอาชีพคนไทย รุกธุรกิจเผาถ่านกะลามะพร้าว ทำผู้ประกอบการไทยเดือดร้อน
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

31 ธ.ค. 2568

‘มีเรา ไม่มีเทา’ แต่ ‘ส้มเน่ามีดำ’

‘มีเรา ไม่มีเทา’ แต่ ‘ส้มเน่ามีดำ’

30 ธ.ค. 2568

‘เขมร‘เบี้ยวซ้ำ‘ถล่มพนมเปญ’

‘เขมร‘เบี้ยวซ้ำ‘ถล่มพนมเปญ’

29 ธ.ค. 2568

สงคราม‘ไทย-เขมร’ต้องจบด้วยสงคราม

สงคราม‘ไทย-เขมร’ต้องจบด้วยสงคราม

26 ธ.ค. 2568

‘GBC’ถ้าไม่จบก็รบต่อจนกว่าเขมร‘สิ้นเขี้ยวเล็บ’

‘GBC’ถ้าไม่จบก็รบต่อจนกว่าเขมร‘สิ้นเขี้ยวเล็บ’

25 ธ.ค. 2568

เลือกภูมิใจไทย‘พูดแล้วทำพลัส’ได้‘สีหศักดิ์-เอกนิติ-ศุภจี’

เลือกภูมิใจไทย‘พูดแล้วทำพลัส’ได้‘สีหศักดิ์-เอกนิติ-ศุภจี’

24 ธ.ค. 2568

สดุดี 22 ทหารกล้าที่พลีชีพเพื่อชาติ

สดุดี 22 ทหารกล้าที่พลีชีพเพื่อชาติ

23 ธ.ค. 2568

เขมรหมดเขี้ยวเล็บสิ้นสภาพทางทหาร

เขมรหมดเขี้ยวเล็บสิ้นสภาพทางทหาร

22 ธ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved