วันศุกร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิด เขียน คุย
คิด เขียน คุย

คิด เขียน คุย

รุ่งเรือง ปรีชากุล
วันพุธ ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ทำไม‘สี จิ้นผิง’ไม่เยือนไทย ?

ดูทั้งหมด

  •  

เวียดนามเป็นประเทศแรกที่“สี จิ้นผิง”ผู้นำจีนเยือน ท่ามกลางบรรยากาศอันร้อนระอุของ“สงครามการค้า”ระหว่าง“พญาอินทรี-สหรัฐอเมริกา” กับ “มังกรจีน-แผ่นดินใหญ่” จากการขึ้นภาษีการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เจ้าของฉายา“ทรัมป์บ้า”

การเดินสายทัวร์ 3 ประเทศอาเซียน คือเวียดนาม, มาเลเซีย และกัมพูชา อย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระหว่างวันที่ 14-18 เมษายนในครั้งนี้นั้น  แปลกแต่จริง ไม่มีประเทศไทยอยู่ในหมายกำหนดการ 


แต่ก็อย่างว่า หากผู้นำจีนมาก็ไม่น่าจะเกิดประโยชน์อะไรในทางสร้างสรรค์ เพราะประเทศไทยในวันนี้มีความ“สับสน”เกี่ยวกับโครงสร้างทางอำนาจ  ซึ่งคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงก็ดันเป็นนายกฯ“อีแอบ” ไม่มีกฎหมายรองรับ จะเรียกว่าเป็น“นายกฯเถื่อน”ก็ไม่ผิดนัก ได้แต่“สทร.”คือ “แส่-เสือกไปทุกเรื่อง” ส่วนนายกรัฐมนตรีที่ถูกต้องตามกฎหมายมีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญรองรับ ก็ไร้วุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถ และอ่อนด้อยสติปัญญา จะเป็นได้ก็เพียงแค่“นายกฯหุ่นเชิด”ที่บิดาเป็นผู้ชักใยเท่านั้น

ที่พูดอย่างนี้ก็เพราะ ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาที่จังหวัดเชียงใหม่ การแสดงออกของอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ตอกย้ำให้คนไทยในประเทศนี้เห็นเด่นชัดว่า “ทักษิณ”คือผู้นำรัฐบาลตัวจริง ให้สัมภาษณ์ทุกเรื่อง-รู้ทุกเรื่อง ไม่มีอ้ำอึ้งกับผู้สื่อข่าวอีกแล้ว ขณะที่“มาดามแพทองโพย”บุตรสาวนั้น มีสภาพไม่ต่างไปจาก“ลูกคุณหนู”ที่บิดาพาไปเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ ใช้ปืนฉีดน้ำวิ่งเล่นหัวเราะระรื่น ชนิดที่เก็บอาการ“อิ๊งค์เอ๋อ”ไม่อยู่

ฉะนั้นแล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะมาหรือไม่มาก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด อีกทั้ง“นายกฯเถื่อน”ผู้เป็นบิดาก็พูดจาฟุ้งหลงยุคหลงสมัย คุยโม้โอ้อวดไปเรื่อยเปื่อย อย่างเช่น ได้คุยกับบุคคลที่อยู่รอบตัวทรัมป์เรียบร้อยแล้ว และหากมีจังหวะเวลาก็จะเดินทางไปสหรัฐฯ เป็นต้น ขณะที่ประเทศอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของทรัมป์ ต่างไม่หยุดนิ่ง ทั้งเจรจาและตอบโต้สหรัฐฯกลับ

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางถึงกรุงฮานอยเมืองหลวงของเวียดนามเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ตามคำเชิญของ“โต เลิม”เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และประธานาธิบดี“เลือง เกื่อง”ของเวียดนาม นับเป็นการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งที่ 4 และเป็นครั้งที่สองในรอบ 18 เดือนของผู้นำจีน ซึ่งการเยือนเวียดนามของผู้นำจีนในครั้งนี้ยังตรงกับวาระครบรอบ 75 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและเวียดนามด้วย โดยจีนมุ่งหวังที่จะเสริมสร้างอนาคตร่วมกันระหว่าง“ประชาคมจีน-เวียดนาม” ให้มีความร่วมมือและความเข้าใจที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ

และแน่นอนว่า การเดินทางเยือนเวียดนามของ“สี จิ้นผิง” ยังหมายถึงการสานสัมพันธ์ให้กระชับแน่นระหว่างจีนกับเวียดนาม“ท่ามกลางสงครามการค้า” ซึ่งทั้งจีนและเวียดนามกำลังเผชิญแรงกดดันจากการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในอัตรา 145 เปอร์เซ็นต์ และ 46 เปอร์เซ็นต์ ที่จีนและเวียดนามโดนเรียกเก็บ โดยผู้นำจีนได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “จีนและเวียดนามยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์ และควรเดินหน้าต่อไปโดยร่วมมือกัน”

ทั้งนี้ “สี จิ้นผิง” ซึ่งได้เขียนบทความลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์“เญินเซิน”ของรัฐบาลเวียดนาม และเผยแพร่เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งย้ำถึงแนวทางของปักกิ่งว่า “สงครามการค้าและสงครามภาษีจะไม่ทำให้มีผู้ชนะ และลัทธิกีดกันทางการค้าไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร” โดยก่อนจะเดินทางต่อไปประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 15 เมษายนวานนี้  ประธานาธิบดีสียังเรียกร้องให้จีนและเวียดนามร่วมมือกันเสริมสร้างด้านเศรษฐกิจ เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานการเชื่อมโยงทางบกและทางทะเล รวมทั้งอุตสาหกรรมใหม่ อาทิเช่น ปัญญาประดิษฐ์, พลังงานสะอาด และเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อสนับสนุนการพัฒนาร่วมกันในระยะยาว

อีกทั้งในทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับความร่วมมือดังกล่าว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและเวียดนาม ยังได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือรวมทั้งสิ้น 45 ฉบับ ครอบคลุมตั้งแต่ข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน และความร่วมมือด้านการพัฒนาระบบรางรถไฟ

ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายเวียดนาม โดย“โต เลิม” เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้ระบุในบทความที่โพสต์ลงบน“เว็บไซต์จ่าว”ของรัฐบาลในวันที่ 14 เมษายนเช่นกันว่า ประเทศเวียดนามพร้อมเสมอที่จะร่วมมือกับจีน เพื่อให้ความร่วมมือระหว่างสองประเทศมีความหมาย“ลึกซึ้ง-สมดุล และยั่งยืน”มากขึ้น

สำหรับประธานาธิบดี“สี จิ้นผิง”ได้เดินทางถึงประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 15 เมษายนวานนี้ หลังจากประสบความสำเร็จจากการเยือนเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่ซื้อสินค้าจากประเทศจีนรายใหญ่ที่สุดของอาเซียน โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา เวียดนามซื้อสินค้านำเข้าจากจีนมีมูลค่าถึง 161,900ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5.42 ล้านล้านบาท และจะอยู่ในมาเลเซียจนถึงวันที่ 17 เมษายน จากนั้นจึงบินต่อไปประเทศกัมพูชาก่อนจะปิดทริปอาเซียนทัวร์ในวันที่ 18 เมษายน

จะอะไรก็ตามแต่ การเดินทางเยือน 3 ประเทศอาเซียนของ“พญามังกรจีน”ในครั้งนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับประเทศที่เปรียบเสมือนเพื่อนบ้านเรือนเคียงที่มีความใกล้ชิดกับจีนมากที่สุด หลังจากทรัมป์มีสภาพเหมือน“หมาบ้าอาละวาด” ทำให้กว่า“180 ประเทศและดินแดน”บนโลกใบนี้วุ่นวายปั่นป่วนกันไปทั่วนั้น จึงเหมือนกับจีน“ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว” คือได้ทั้งมิตรประเทศเป็นแนวร่วม และยังได้เรื่องตลาดการค้าด้วย

เพราะนอกจากเวียดนามที่เป็นประเทศซึ่งซื้อสินค้าจากประเทศจีนรายใหญ่ที่สุดของอาเซียนแล้ว มาเลเซียก็เป็นประเทศอาเซียนที่ซื้อสินค้าจากจีนในลำดับสอง โดยในปี 2567 มาเลเซียนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นมูลค่า 101,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.4 ล้านล้านบาท

ขณะที่กัมพูชา พบว่าตัวเลขล่าสุดของปี 2568 จากเดือนมกราคม-มีนาคม จีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ด้วยมูลค่าการค้ารวม 2,662.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8.9 หมื่นล้านบาท มิหนำซ้ำโรงงานของจีนที่อยู่ในกัมพูชายังมีมากเกือบ 2 พันโรงงาน

กลับมาคิดถึงประเทศไทยแล้วก็วังเวงใจ-สองพ่อลูกคู่นี้คิดได้อย่างเดียวคือ“กาสิโน” !

 

รุ่งเรือง ปรีชากุล

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
10:14 น. 'กัมพูชา'จ่อเนรเทศชาวเกาหลีใต้ 59 คน เอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ
10:13 น. ร่างหลักแล้วไง!? ย้อนบทเรียนโหวต‘แก้รธน.’ จับตาลงประชามติ‘เสียงหัวเราะ’ของใคร
10:06 น. 'ตั๊ก อัยรินทร์'เข้าทำเนียบฯ ไหว้ศาล หลังรับตำแหน่งรองโฆษกรบ. ขอบคุณ'ธรรมนัส'ให้โอกาส
09:54 น. บอลไทยคว้ารางวัลใหญ่! สมาคมยอดเยี่ยมAFC
09:53 น. วางเป้า22ทอง! เยาวชนไทยสู้เอเชียนยูธเกมส์
ดูทั้งหมด
ร้านอาหารจีนในไทยสวนกระแสทูตจีน ติด'หน้าฮุนเซน'พื้นทางเข้าร้าน ลูกค้าทั้งเหยียบทั้งขยี้ฉ่ำ
‘กรรชัย’เป็นดาราไม่ใช่สื่อ ‘ใบตองแห้ง’อัด‘สัญลักษณ์ยุคตกต่ำ’
บุกจับ'เสี่ยบอย'พร้อมเมีย! รองหัวหน้าพรรคการเมืองดังเปิดตลาดเถื่อน ทุบของหลวงสร้างพื้นที่
จาก‘โรฮิงแยม’ถึง‘พี่อังคณา’ สะท้อนความเข้าใจ‘สิทธิมนุษยชน’
'สิทธิชัย สันติวิจิตร'จี้'ม.นครพนม'ทบทวนมอบปริญญากิตติมศักดิ์ 'ก้อง ห้วยไร่'
ดูทั้งหมด
รวมพลังปกป้อง‘รธน.ฉบับปราบโกง’
บันไดหนีไฟ คอนโดฯ หนีตาย หรือหนีไปตาย?
กินแห้ว
ยึดคืนแผ่นดินไทย อย่างมีจังหวะ ปิดจ๊อบ ก่อนมหาอำนาจบีบสันติภาพจอมปลอม
บุคคลแนวหน้า : 17 ตุลาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'กัมพูชา'จ่อเนรเทศชาวเกาหลีใต้ 59 คน เอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ

ร่างหลักแล้วไง!? ย้อนบทเรียนโหวต‘แก้รธน.’ จับตาลงประชามติ‘เสียงหัวเราะ’ของใคร

'ตั๊ก อัยรินทร์'เข้าทำเนียบฯ ไหว้ศาล หลังรับตำแหน่งรองโฆษกรบ. ขอบคุณ'ธรรมนัส'ให้โอกาส

วางเป้า22ทอง! เยาวชนไทยสู้เอเชียนยูธเกมส์

เกิดน้ำป่าหลากฉับพลัน 'ห้วยหนองวาย'แม่ฮ่องสอน เร่งย้ายเครื่องจักรหนีทัน

‘ณัฐวุฒิ’กาง 5 ข้อปมแก้รธน. มุ่งสู่ Grand opening กลุ่มพลังอนุรักษ์อำนาจนิยม

  • Breaking News
  • \'กัมพูชา\'จ่อเนรเทศชาวเกาหลีใต้ 59 คน เอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ 'กัมพูชา'จ่อเนรเทศชาวเกาหลีใต้ 59 คน เอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ
  • ร่างหลักแล้วไง!? ย้อนบทเรียนโหวต‘แก้รธน.’ จับตาลงประชามติ‘เสียงหัวเราะ’ของใคร ร่างหลักแล้วไง!? ย้อนบทเรียนโหวต‘แก้รธน.’ จับตาลงประชามติ‘เสียงหัวเราะ’ของใคร
  • \'ตั๊ก อัยรินทร์\'เข้าทำเนียบฯ ไหว้ศาล หลังรับตำแหน่งรองโฆษกรบ. ขอบคุณ\'ธรรมนัส\'ให้โอกาส 'ตั๊ก อัยรินทร์'เข้าทำเนียบฯ ไหว้ศาล หลังรับตำแหน่งรองโฆษกรบ. ขอบคุณ'ธรรมนัส'ให้โอกาส
  • บอลไทยคว้ารางวัลใหญ่! สมาคมยอดเยี่ยมAFC บอลไทยคว้ารางวัลใหญ่! สมาคมยอดเยี่ยมAFC
  • วางเป้า22ทอง! เยาวชนไทยสู้เอเชียนยูธเกมส์ วางเป้า22ทอง! เยาวชนไทยสู้เอเชียนยูธเกมส์
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

รวมพลังปกป้อง‘รธน.ฉบับปราบโกง’

รวมพลังปกป้อง‘รธน.ฉบับปราบโกง’

17 ต.ค. 2568

รวมพลังปกป้อง‘รธน.ฉบับปราบโกง’

รวมพลังปกป้อง‘รธน.ฉบับปราบโกง’

17 ต.ค. 2568

สว.-สส.‘3 ไส้ศึกเขมร’

สว.-สส.‘3 ไส้ศึกเขมร’

16 ต.ค. 2568

อย่ายอมให้‘สส.’ปล้นรัฐธรรมนูญ

อย่ายอมให้‘สส.’ปล้นรัฐธรรมนูญ

15 ต.ค. 2568

‘70 ปี ร.9’เสด็จฯเกือบครึ่งทาง‘โลก-ดวงจันทร์’

‘70 ปี ร.9’เสด็จฯเกือบครึ่งทาง‘โลก-ดวงจันทร์’

14 ต.ค. 2568

‘วัน ว.-เวลา น.’ยึดคืน‘หนองจาน-หนองหญ้าแก้ว’

‘วัน ว.-เวลา น.’ยึดคืน‘หนองจาน-หนองหญ้าแก้ว’

13 ต.ค. 2568

ตีงูต้องตีที่หัวเฉกเช่นปราบ‘อสรพิษเขมร’

ตีงูต้องตีที่หัวเฉกเช่นปราบ‘อสรพิษเขมร’

10 ต.ค. 2568

ต้องสางคดีค้างท่อ‘แพทองธาร-ยิ่งลักษณ์’

ต้องสางคดีค้างท่อ‘แพทองธาร-ยิ่งลักษณ์’

9 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved