วันพุธ ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิด เขียน คุย
คิด เขียน คุย

คิด เขียน คุย

รุ่งเรือง ปรีชากุล
วันพุธ ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ทำไม‘สี จิ้นผิง’ไม่เยือนไทย ?

ดูทั้งหมด

  •  

เวียดนามเป็นประเทศแรกที่“สี จิ้นผิง”ผู้นำจีนเยือน ท่ามกลางบรรยากาศอันร้อนระอุของ“สงครามการค้า”ระหว่าง“พญาอินทรี-สหรัฐอเมริกา” กับ “มังกรจีน-แผ่นดินใหญ่” จากการขึ้นภาษีการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เจ้าของฉายา“ทรัมป์บ้า”

การเดินสายทัวร์ 3 ประเทศอาเซียน คือเวียดนาม, มาเลเซีย และกัมพูชา อย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระหว่างวันที่ 14-18 เมษายนในครั้งนี้นั้น  แปลกแต่จริง ไม่มีประเทศไทยอยู่ในหมายกำหนดการ 


แต่ก็อย่างว่า หากผู้นำจีนมาก็ไม่น่าจะเกิดประโยชน์อะไรในทางสร้างสรรค์ เพราะประเทศไทยในวันนี้มีความ“สับสน”เกี่ยวกับโครงสร้างทางอำนาจ  ซึ่งคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงก็ดันเป็นนายกฯ“อีแอบ” ไม่มีกฎหมายรองรับ จะเรียกว่าเป็น“นายกฯเถื่อน”ก็ไม่ผิดนัก ได้แต่“สทร.”คือ “แส่-เสือกไปทุกเรื่อง” ส่วนนายกรัฐมนตรีที่ถูกต้องตามกฎหมายมีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญรองรับ ก็ไร้วุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถ และอ่อนด้อยสติปัญญา จะเป็นได้ก็เพียงแค่“นายกฯหุ่นเชิด”ที่บิดาเป็นผู้ชักใยเท่านั้น

ที่พูดอย่างนี้ก็เพราะ ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาที่จังหวัดเชียงใหม่ การแสดงออกของอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ตอกย้ำให้คนไทยในประเทศนี้เห็นเด่นชัดว่า “ทักษิณ”คือผู้นำรัฐบาลตัวจริง ให้สัมภาษณ์ทุกเรื่อง-รู้ทุกเรื่อง ไม่มีอ้ำอึ้งกับผู้สื่อข่าวอีกแล้ว ขณะที่“มาดามแพทองโพย”บุตรสาวนั้น มีสภาพไม่ต่างไปจาก“ลูกคุณหนู”ที่บิดาพาไปเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ ใช้ปืนฉีดน้ำวิ่งเล่นหัวเราะระรื่น ชนิดที่เก็บอาการ“อิ๊งค์เอ๋อ”ไม่อยู่

ฉะนั้นแล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะมาหรือไม่มาก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด อีกทั้ง“นายกฯเถื่อน”ผู้เป็นบิดาก็พูดจาฟุ้งหลงยุคหลงสมัย คุยโม้โอ้อวดไปเรื่อยเปื่อย อย่างเช่น ได้คุยกับบุคคลที่อยู่รอบตัวทรัมป์เรียบร้อยแล้ว และหากมีจังหวะเวลาก็จะเดินทางไปสหรัฐฯ เป็นต้น ขณะที่ประเทศอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของทรัมป์ ต่างไม่หยุดนิ่ง ทั้งเจรจาและตอบโต้สหรัฐฯกลับ

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางถึงกรุงฮานอยเมืองหลวงของเวียดนามเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ตามคำเชิญของ“โต เลิม”เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และประธานาธิบดี“เลือง เกื่อง”ของเวียดนาม นับเป็นการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งที่ 4 และเป็นครั้งที่สองในรอบ 18 เดือนของผู้นำจีน ซึ่งการเยือนเวียดนามของผู้นำจีนในครั้งนี้ยังตรงกับวาระครบรอบ 75 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและเวียดนามด้วย โดยจีนมุ่งหวังที่จะเสริมสร้างอนาคตร่วมกันระหว่าง“ประชาคมจีน-เวียดนาม” ให้มีความร่วมมือและความเข้าใจที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ

และแน่นอนว่า การเดินทางเยือนเวียดนามของ“สี จิ้นผิง” ยังหมายถึงการสานสัมพันธ์ให้กระชับแน่นระหว่างจีนกับเวียดนาม“ท่ามกลางสงครามการค้า” ซึ่งทั้งจีนและเวียดนามกำลังเผชิญแรงกดดันจากการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในอัตรา 145 เปอร์เซ็นต์ และ 46 เปอร์เซ็นต์ ที่จีนและเวียดนามโดนเรียกเก็บ โดยผู้นำจีนได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “จีนและเวียดนามยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์ และควรเดินหน้าต่อไปโดยร่วมมือกัน”

ทั้งนี้ “สี จิ้นผิง” ซึ่งได้เขียนบทความลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์“เญินเซิน”ของรัฐบาลเวียดนาม และเผยแพร่เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งย้ำถึงแนวทางของปักกิ่งว่า “สงครามการค้าและสงครามภาษีจะไม่ทำให้มีผู้ชนะ และลัทธิกีดกันทางการค้าไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร” โดยก่อนจะเดินทางต่อไปประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 15 เมษายนวานนี้  ประธานาธิบดีสียังเรียกร้องให้จีนและเวียดนามร่วมมือกันเสริมสร้างด้านเศรษฐกิจ เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานการเชื่อมโยงทางบกและทางทะเล รวมทั้งอุตสาหกรรมใหม่ อาทิเช่น ปัญญาประดิษฐ์, พลังงานสะอาด และเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อสนับสนุนการพัฒนาร่วมกันในระยะยาว

อีกทั้งในทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับความร่วมมือดังกล่าว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและเวียดนาม ยังได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือรวมทั้งสิ้น 45 ฉบับ ครอบคลุมตั้งแต่ข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน และความร่วมมือด้านการพัฒนาระบบรางรถไฟ

ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายเวียดนาม โดย“โต เลิม” เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้ระบุในบทความที่โพสต์ลงบน“เว็บไซต์จ่าว”ของรัฐบาลในวันที่ 14 เมษายนเช่นกันว่า ประเทศเวียดนามพร้อมเสมอที่จะร่วมมือกับจีน เพื่อให้ความร่วมมือระหว่างสองประเทศมีความหมาย“ลึกซึ้ง-สมดุล และยั่งยืน”มากขึ้น

สำหรับประธานาธิบดี“สี จิ้นผิง”ได้เดินทางถึงประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 15 เมษายนวานนี้ หลังจากประสบความสำเร็จจากการเยือนเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่ซื้อสินค้าจากประเทศจีนรายใหญ่ที่สุดของอาเซียน โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา เวียดนามซื้อสินค้านำเข้าจากจีนมีมูลค่าถึง 161,900ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5.42 ล้านล้านบาท และจะอยู่ในมาเลเซียจนถึงวันที่ 17 เมษายน จากนั้นจึงบินต่อไปประเทศกัมพูชาก่อนจะปิดทริปอาเซียนทัวร์ในวันที่ 18 เมษายน

จะอะไรก็ตามแต่ การเดินทางเยือน 3 ประเทศอาเซียนของ“พญามังกรจีน”ในครั้งนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับประเทศที่เปรียบเสมือนเพื่อนบ้านเรือนเคียงที่มีความใกล้ชิดกับจีนมากที่สุด หลังจากทรัมป์มีสภาพเหมือน“หมาบ้าอาละวาด” ทำให้กว่า“180 ประเทศและดินแดน”บนโลกใบนี้วุ่นวายปั่นป่วนกันไปทั่วนั้น จึงเหมือนกับจีน“ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว” คือได้ทั้งมิตรประเทศเป็นแนวร่วม และยังได้เรื่องตลาดการค้าด้วย

เพราะนอกจากเวียดนามที่เป็นประเทศซึ่งซื้อสินค้าจากประเทศจีนรายใหญ่ที่สุดของอาเซียนแล้ว มาเลเซียก็เป็นประเทศอาเซียนที่ซื้อสินค้าจากจีนในลำดับสอง โดยในปี 2567 มาเลเซียนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นมูลค่า 101,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.4 ล้านล้านบาท

ขณะที่กัมพูชา พบว่าตัวเลขล่าสุดของปี 2568 จากเดือนมกราคม-มีนาคม จีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ด้วยมูลค่าการค้ารวม 2,662.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8.9 หมื่นล้านบาท มิหนำซ้ำโรงงานของจีนที่อยู่ในกัมพูชายังมีมากเกือบ 2 พันโรงงาน

กลับมาคิดถึงประเทศไทยแล้วก็วังเวงใจ-สองพ่อลูกคู่นี้คิดได้อย่างเดียวคือ“กาสิโน” !

 

รุ่งเรือง ปรีชากุล

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:04 น. กขค. ผนึก สคบ. ร่วมขับเคลื่อนและกำกับดูแล 'ดิจิทัลมาร์เก็ต'
22:02 น. วอลเลย์บอลหญิงประเดิม!เช็คโปรแกรมแข่งซีเกมส์วันพุธนี้
21:55 น. 'กอ.รมน.'เข้มเฝ้าระวัง 'โดรนสอดแนม–โดรนพลีชีพ' ในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย เขมร
21:40 น. ซีเกมส์เปิดฉาก!พิธีเปิดยิ่งใหญ่-‘พาณิภัค’จุดไฟคบเพลิง
21:22 น. เปิดภาพ! พระราชินี ทรงพระดำเนินร่วมกับพาเหรดทัพไทยเข้าสู่สนามพิธีเปิดซีเกมส์ครั้งที่ 33
ดูทั้งหมด
ทนายแก้ว เสียใจอย่างสุดซึ้ง หากเป็นไปตามข่าว ผิดถึงขั้นประหารชีวิต
จับตา พายุลูกใหม่ กำลังก่อตัวช่วง 8-10 ธ.ค. บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 5-11 ธ.ค.68
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 7-13 ธ.ค.68
ฮุน เซน กินหรูอยู่สบาย โพสต์ภาพเที่ยวทะเลในสีหนุวิลล์ ขณะดำรงตำแหน่งรักษาการประมุข
ดูทั้งหมด
Wealth Gap 2030 : ทำไมช่องว่างความมั่งคั่งกำลังขยายเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์
สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารเขมร
เมื่อระบบธรรมาภิบาลไม่อาจป้องกันอำนาจนอกระบบได้
จบที่ไม่จบ?
ไทยป้องกันตนเอง
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

กขค. ผนึก สคบ. ร่วมขับเคลื่อนและกำกับดูแล 'ดิจิทัลมาร์เก็ต'

วอลเลย์บอลหญิงประเดิม!เช็คโปรแกรมแข่งซีเกมส์วันพุธนี้

'กอ.รมน.'เข้มเฝ้าระวัง 'โดรนสอดแนม–โดรนพลีชีพ' ในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย เขมร

ซีเกมส์เปิดฉาก!พิธีเปิดยิ่งใหญ่-‘พาณิภัค’จุดไฟคบเพลิง

เสธ ทบ ลงพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ดูแลประชาชน เยี่ยมทหารบาดเจ็บ พร้อมย้ำไทยยืนหยัดปกป้องแผ่นดิน

ด่วน! ทร.เตือนเรือประมงไทย หลีกเลี่ยงเดินเรือเข้าใกล้เขตแดนทางทะเล ไทย-กัมพูชา

  • Breaking News
  • กขค. ผนึก สคบ. ร่วมขับเคลื่อนและกำกับดูแล \'ดิจิทัลมาร์เก็ต\' กขค. ผนึก สคบ. ร่วมขับเคลื่อนและกำกับดูแล 'ดิจิทัลมาร์เก็ต'
  • วอลเลย์บอลหญิงประเดิม!เช็คโปรแกรมแข่งซีเกมส์วันพุธนี้ วอลเลย์บอลหญิงประเดิม!เช็คโปรแกรมแข่งซีเกมส์วันพุธนี้
  • \'กอ.รมน.\'เข้มเฝ้าระวัง \'โดรนสอดแนม–โดรนพลีชีพ\' ในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย เขมร 'กอ.รมน.'เข้มเฝ้าระวัง 'โดรนสอดแนม–โดรนพลีชีพ' ในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย เขมร
  • ซีเกมส์เปิดฉาก!พิธีเปิดยิ่งใหญ่-‘พาณิภัค’จุดไฟคบเพลิง ซีเกมส์เปิดฉาก!พิธีเปิดยิ่งใหญ่-‘พาณิภัค’จุดไฟคบเพลิง
  • เปิดภาพ! พระราชินี ทรงพระดำเนินร่วมกับพาเหรดทัพไทยเข้าสู่สนามพิธีเปิดซีเกมส์ครั้งที่ 33 เปิดภาพ! พระราชินี ทรงพระดำเนินร่วมกับพาเหรดทัพไทยเข้าสู่สนามพิธีเปิดซีเกมส์ครั้งที่ 33
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารเขมร

สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารเขมร

10 ธ.ค. 2568

จบเขมรด้วยสงคราม-จับ‘ฮุนเซน’ฟ้องศาล ICC

จบเขมรด้วยสงคราม-จับ‘ฮุนเซน’ฟ้องศาล ICC

9 ธ.ค. 2568

‘รธน.’ยาพิษนักการเมือง

‘รธน.’ยาพิษนักการเมือง

8 ธ.ค. 2568

ภาพถ่าย‘เบน สมิธ’ทุ่นระเบิดสังหาร‘อนุทิน-บิ๊กแดง’

ภาพถ่าย‘เบน สมิธ’ทุ่นระเบิดสังหาร‘อนุทิน-บิ๊กแดง’

5 ธ.ค. 2568

ดูเขาดูเราเรื่องภัยน้ำท่วม

ดูเขาดูเราเรื่องภัยน้ำท่วม

4 ธ.ค. 2568

‘นายกแป้น’กับน้ำท่วมหาดใหญ่

‘นายกแป้น’กับน้ำท่วมหาดใหญ่

3 ธ.ค. 2568

มหาอุทกภัยครั้งนี้หนักกว่า‘สึนามิ’

มหาอุทกภัยครั้งนี้หนักกว่า‘สึนามิ’

2 ธ.ค. 2568

‘มาร์ค-หนู-เท้ง’ตัวเลือกคนไทย

‘มาร์ค-หนู-เท้ง’ตัวเลือกคนไทย

1 ธ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved