ไทยไม่มีทางหลีกเลี่ยงที่ต้องส่งตัวแทนประเทศไปเจรจาต่อรองด้านการค้า เพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทย โดยคนที่ไทยจะส่งไปนั้นต้องไปพบเจอกับโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
เมื่อพูดถึงทรัมป์แล้ว คนที่เข้าใจพฤติกรรมของเขาดีก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าทรัมป์เป็นคนประหลาด ชอบให้คนเข้าไปหา เข้าไปขอวิงวอนขอร้อง เพราะเขาคิดว่าเขาคือคนสำคัญผู้ยิ่งใหญ่ แต่ที่มากกว่านั้นคือทรัมป์เป็นพ่อค้าที่ทำธุรกิจมาสารพัดชนิด ทั้งธุรกิจที่ดีและเลว (เลวในที่นี้คือเกี่ยวข้องกับอบายมุข) แล้วที่ต้องรู้ให้ลึกก็คือทรัมป์เปลี่ยนใจไปมาได้ตลอดเวลา หากเขาอยู่ในสถานะผู้ที่กำลังจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่หากเขาอยู่ในสถานะผู้เหนือกว่าแล้วละก็ เขาจะยิ่งทำตามอำเภอใจมากยิ่งกว่า
ประเด็นที่จะชวนคุณผู้อ่านคุยและคิดไปพร้อมๆ กันในวันนี้คือ ไทยจะส่งใครเป็นตัวแทนไปเจรจากับทรัมป์ มีรัฐมนตรีคนไหนในรัฐบาลชุดนี้ที่น่าจะมีน้ำหนักมากเมื่อต้องไปเจรจาต่อรองผลประโยชน์ของประเทศกับผู้นำสหรัฐฯ รายนี้
แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรีมีความสามารถเจรจากับทรัมป์ได้หรือไม่ ตอบแบบชัดๆ คือไม่ และย้ำว่าไม่มีความสามารถเลยแม้แต่น้อย ไม่ใช่เพราะว่าแพทองธารอายุน้อย แต่เพราะว่าไม่มีประสบการณ์ และไม่มีความสามารถในการเจรจาความเมืองด้วยประการทั้งปวง
ถ้าเช่นนั้นถามต่อไปว่า พิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับ พิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีความสามารถไปเจรจากับทรัมป์ได้หรือไม่ ก็ขอตอบแบบชัดๆ อีกว่า ไม่มีความสามารถ แม้ พิชัย ชุณหวชิร จะมีอายุมากและมีประสบการณ์ในการทำงานในรัฐวิสาหกิจ และเอกชนมาพอประมาณ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อมั่นว่าพิชัย ชุณหวชิร มีความสามารถเจรจาต่อรองกับทรัมป์ได้ ส่วน พิชัย นริพทะพันธ์ุ ก็ตัดชื่อนี้ทิ้งไปได้ทันที เพราะไม่มีใครมั่นใจในความสามารถของเขาเช่นกัน
มีคนบางกลุ่ม (โดยเฉพาะพวกที่เชลียร์ทักษิณ) บอกว่าส่ง ทักษิณ ชินวัตร สทร. พ่อของแพทองธารไปเจรจากับทรัมป์น่าจะดูเสมือนว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่ไทยจะพึงมีในยามนี้ แต่ก็มีผู้แย้งว่าไม่คิดว่าทักษิณจะเป็นตัวแทนที่ดีของไทยได้ เพราะทักษิณไม่น่าจะเป็นที่เชื่อถือของทรัมป์ แม้ทักษิณจะคุยโวว่าโทรศัพท์ไปคุยกับคนรอบๆ ข้างของทรัมป์หลายคนมาแล้ว แต่ก็ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเพียงราคาคุยเท่านั้น แต่ที่สำคัญคือทักษิณจะไปคุยกับทรัมป์ด้วยสถานภาพใด ทรัมป์รู้จักทักษิณ เหมือนอย่างที่ทักษิณคุยว่ารู้จักทรัมป์ จริงหรือ
กลับมาที่ประเด็นสาระ แน่นอนว่าไทยมีความด้อยกว่าสหรัฐฯ ในหลายแง่มุม อาทิ ขนาดและรายได้ของประเทศ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าไทยยังพอจะมีความสำคัญที่สหรัฐฯ จะมองข้ามไปเสียท้้งหมดไม่ได้ โดยเฉพาะในด้านทำเลที่ตั้งของไทยที่นับว่าอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของโลก และอย่าลืมว่าไทยกับสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์กันมายาวนานตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์
ตอนต้น แน่นอนว่าเราคงไม่ได้ลำเลิกเพื่ออ้างบุญคุณของไทยต่อสหรัฐฯ แต่ขอยืนยันว่าไทยกับสหรัฐฯ มีความเป็นพันธมิตรในระดับต้นๆ ของประเทศในย่านเอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้น หากตัวแทนผู้เจรจาของไทยที่จะไปพบปะกับทรัมป์มีความรอบรู้ ลึกซึ่งในเชิงประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ และมีความสามารถในการเจรจาต่อรองที่ทำให้ทรัมป์ต้องรับฟังและเห็นความสำคัญของไทยได้แล้ว ก็หวังได้ว่าสหรัฐฯ จะไม่กล้ามองข้ามหรือกดหัวไทย
ย้ำว่าตัวแทนไทยที่จะไปเจรจากับทรัมป์ต้องเป็นคนมีปัญญา และมีความเชื่อมั่นในเกียรติภูมิของไทย ต้องไม่ใช่คนที่หงอหงอยราวกับเป็นขี้ข้าขี้ครอกของทรัมป์ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องแสดงความยโสโอหังจนน่าทุเรศ ต้องเป็นคนที่สามารถทำให้ทรัมป์รู้ว่าเมื่อเขาเจรจาด้วยแล้ว ต้องเข้าใจได้ทันทีว่าไทยไม่ใช่ลูกไก่ในกำมือของทรัมป์ และต้องทำให้ทรัมป์รู้ว่าสหรัฐฯ ยังจำเป็นต้องพึงพาไทยในบางเรื่อง และไทยสามารถช่วยให้ความต้องการของทรัมป์ที่ไม่ผิดหลักแห่งความชอบธรรมบรรลุความสำเร็จได้
ประเทศไทยยังมีคนมีความสามารถเจรจากับทรัมป์ได้แน่นอน หวังว่ารัฐบาลจะมีความสามารถค้นหาคนผู้มีความสามารถได้ แล้วขอร้องให้เขาคนนั้นไปช่วยทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ให้ชาติบ้านเมือง ถึงแม้คนดีมีความสามารถอาจไม่ชื่นชมแพทองธาร แต่หากเป็นการทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมืองแล้ว รับรองว่าคนดีมีความสามารถไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือประเทศอย่างแน่นอน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี