ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสั่งให้ ทักษิณ ชินวัตร ต้องไปให้ปากคำกับศาลฎีกาฯ เพื่อการไต่สวนกรณีทักษิณอ้างว่าป่วยหนักจนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจเป็นเวลานาน 180 วัน โดยศาลฎีกาฯ นัดทักษิณไปให้ปากคำในวันที่ 13 มิถุนายน 2568
การนัดโดยศาลฎีกาฯ ในครั้งนี้นับว่าน่าสนใจมาก เพราะศาลฎีกาฯ ระบุว่า เมื่อความปรากฏต่อศาลฯ ว่า อาจมีคำบังคับตามคำพิพากษาที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สุดของศาลนี้ ศาลย่อมมีอำนาจไต่สวนและมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร นอกจากนี้ ศาลยังเรียกโจทก์และจำเลยคดีนี้ไปไต่สวนด้วย และเรียกตัวผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อธิบดีกรมราชทัณฑ์นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้ไปชี้แจงข้อเท็จจริงของเรื่องนี้
ขอย้ำว่าสาธารณชนค้างคาใจมายาวนานว่า ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้เข้าคุกแม้แต่วันเดียว ทั้งๆ ที่ศาลได้พิพากษาตัดสินให้จำคุกทักษิณ และยังตั้งข้อสงสัยด้วยว่าทักษิณไม่ได้ป่วยจริง แต่อ้างว่าป่วยหนักขั้นสาหัสจนต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจเป็นเวลา 180 วัน และต้องย้ำด้วยว่าไม่เคยมีผู้ป่วยสาหัสรายใดที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลยาวนานถึง 180 วัน แล้วสามารถหายป่วยได้รวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์ใจเหมือนดั่งที่พบได้จากกรณีทักษิณป่วย เพราะทักษิณสามารถเดินเหินได้คล่องแคล่วเหมือนคนไม่เคยเจ็บป่วยสาหัส แถมยังเดินทาง
ขึ้นเหนือล่องใต้ รวมถึงเดินทางขึ้นรถลงเรือได้คล่องเหมือนคนที่ไม่เคยมีอาการเจ็บป่วยขั้นรุนแรง จนอยู่ในสภาพใกล้ตาย ตามที่เหล่าบรรดาคนแวดล้อมของทักษิณกล่าวอ้าง
นอกจากนั้น ยังไม่เคยมีข้อพิสูจน์ใดๆ ที่ช่วยยืนยันว่าทักษิณติดตะรางหรือเข้าคุกแม้แต่วันเดียว เพราะไม่เคยมีภาพใดๆ เป็นเครื่องยืนยันว่าทักษิณติดคุก และไม่เคยมีภาพใดๆ ยืนยันว่าทักษิณป่วยหนักชนิดใกล้ตาย ตามที่ทักษิณอ้าง
แต่ยังมีอีกประเด็นที่สังคมให้ความสำคัญคือ ป.ป.ช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ไม่ทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องทักษิณป่วย และเข้าคุกจริงหรือไม่ ทั้งๆ ที่มีบุคคลหลายรายไปร้องเรียนให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเข้มงวด แต่ ป.ป.ช. ก็นิ่งดูดาย
ส่วนทักษิณเองก็ไม่เคยพูดเรื่องตัวเองป่วยหนักให้กระจ่างชัด แม้จะถูกสื่อมวลชนสอบถามเรื่องนี้อย่างจริงๆ มาโดยตลอด แต่สังคมไม่เคยได้ยินทักษิณตอบคำถามเรื่องนี้ ส่วนแพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวของทักษิณที่กำลังกินตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ไม่เคยตอบเรื่องทักษิณป่วย และเข้าคุกให้กระจ่างชัด เพราะทุกครั้งที่ถูกสื่อฯ สอบถาม แพทองธารก็จะบ่ายเบี่ยงการพูด
เรื่องนี้ทุกครั้ง
การที่ทักษิณกลับประเทศไทยเมื่อปี 2566 เป็นเรื่องที่คนไทยจำนวนมากเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะต้องการดูให้ชัดเจนว่าสุดท้ายแล้วทักษิณจะทำตามกฎหมายหรือไม่ เพราะที่ผ่านมานั้น สาธารณชนได้ประจักษ์แล้วว่าทักษิณหลบหนีคดีอาญาไปจากไทยยาวนานเกือบ 20 ปี ส่วนการที่ทักษิณยอมกลับไทยในครั้งนี้ก็เป็นเพราะเขารู้แล้วว่าพรรคเพื่อไทย ของเขาจะรับตำแหน่งแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งหมายความว่าเขาจะมีอำนาจรัฐคุ้มกันตัวเอง แต่เมื่อทักษิณไม่ยอมปฏิบัติตามกฎหมายไทย มิหนำซ้ำยังทำตัวราวกับอยู่เหนือกฎหมาย จนเมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองเรียกทักษิณไปไต่สวนในช่วงประมาณกลางเดือนมิถุนายน ก็หมายความว่าก่อนจะถึงวันนั้น ทักษิณก็คงจะต้องหลบหนีความผิดจากการที่เขาจงใจทำผิดคดีอาญา มารอดูกันว่าทักษิณจะหนีวันไหน หลบหนีด้วยกลอุบายใด มีใครช่วยอำนวยความสะดวก และใช้ข้ออ้างใดเพื่อหลบหนีคดี
เฉลิมชัย ยอดมาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี