นายทักษิณ ชินวัตร เคยบอก นายเสนาะ เทียนทอง ว่า “พี่คนตาบอดมันไม่กลัวเสือหรอก..” คำพูดเปรียบเปรยนี้ได้รับการแพร่หลายในสื่อกระแสหลักของประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2550 เมื่อนายเสนาะเปิดใจบนเวทีปราศรัยของพันธมิตรที่นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้นำมวลชนลุกขึ้นมาต่อต้าน ระบอบทักษิณ
โดยเนื้อความมีอยู่ว่าเมื่อครั้งที่พรรคไทยรักไทย ทักษิณเสนอนโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนนั้น นายเสนาะ เทียนทอง เกิดความสงสัยว่า จะทำกันจริงๆ แล้วละหรือจึงไปถามนายกรัฐมนตรีว่าจะทำได้จริงหรือ?
ก็ได้รับคำตอบว่า เพราะไม่มีใครสามารถแก้ไขปัญหาความยากจนของคนทั้งประเทศได้ แต่คนยากจนเมื่อได้ยินว่า ใครจะมาช่วยแก้ปัญหาก็จะชอบอกชอบใจ โดยไม่มีทางรู้เท่าทัน พร้อมกับเปรียบเทียบว่า “คนตาบอดไม่กลัวเสือ” เพราะว่ามองไม่เห็นเสือนั่นเอง
คำพูดดูถูกคนไทยว่า โง่เหมือนตาบอดไม่กลัวเสือในเวลานั้น วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปจนทักษิณมั่นใจว่าเสือร้ายทั้งหลายในประเทศ มีเหตุปัจจัยทำให้กลายเป็นเสือกระดาษไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเสือกระบวนการยุติธรรม เสือองค์กรอิสระ เสือระบบราชการผู้บังคับใช้กฎหมายและเสืออื่นๆ ที่มีในประเทศไทยได้กลายเป็นเสือกระดาษไปหมดแล้ว
ทักษิณ จึงกลายเป็นผู้มีสายตากว้างไกลที่ไม่กลัวไม่ให้ความสำคัญกับเสือกระดาษ โดยการมองผ่านพระบรมราชโองการพระราชทานอภัยลดโทษจำคุก 8 ปี ลดเหลือโทษจำคุกในความผิดทุจริตคอร์รัปชั่น 1 ปี และหลีกเลี่ยงไม่ยอมเข้าคุกแม้แต่วันเดียว
ทักษิณคนตาดีมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ไม่แยแส ไม่สนใจรัฐธรรมนูญปราบโกงฉบับปี 2560 ของไทยที่ห้ามไม่ให้คนภายนอกแทรกแซงพรรคการเมืองและรัฐบาล แต่คนตาดีดื้อตาใส อย่างนายทักษิณ ผู้มีพฤติกรรมและการกระทำตรงข้ามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เหิมเกริมท้าทายกฎหมาย ใช้อิทธิพลบารมีเหนือรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยในทุกด้าน เขาจัดการควบคุม กำหนดนโยบายบริหารรัฐบาลแพทองธาร ผู้เป็นลูกสาวราวกับเป็นผู้นำรัฐบาลสั่งการทุกอย่างแทนนายกรัฐมนตรีผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย
ทักษิณเหิมเกริมท้าทายทุกองค์กรศาสนา องค์กรประชาชน ตลอดถึงนักวิชาการที่ออกมาต่อต้านขัดขวาง รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ที่กำลังนำประเทศไทยไปสู่ความหายนะ ด้วยการจัดให้มีกาสิโน หรือ บ่อนการพนันถูกกฎหมายในคราบ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์
รัฐบาล น.ส.แพทองธาร โดยการผลักดันของนายทักษิณ ผู้เป็นบิดา ประกาศเดินหน้าสร้างกาสิโนในประเทศโดยไม่ฟังเสียงทัดทานจาก ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และพรรคร่วมรัฐบาล ที่นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศกลางสภาว่า “ไม่ยอมรับ ไม่ยกมือให้ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์”
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เตือน น.ส.แพทองธาร เมื่อครั้งพบกันในกรุงปักกิ่งในเดือนกุมภาพันธ์ว่า “ระวังกาสิโนจะนำความหายนะมาสู่ประเทศชาติ” นอกจากไม่รับฟังคำเตือนจากผู้ใหญ่ น.ส.แพทองธาร ยังเถียงประธานาธิบดีสี ว่า มันเป็นเอ็นเตอร์เมนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่มีกาสิโนอยู่ในโครงการนั่นเพียง 10% เท่านั้น
สถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนแฝงอยู่ในโครงการเพียง 10% เป็นข้ออ้างหลักของพรรคเพื่อไทย ในการปลอบใจ ให้คนตาบอดไม่กลัวเสือ เหมือนกับที่นายทักษิณ บอกนายเสนาะ เทียนทอง ในปี 2544 ทุกวันนี้ นายทักษิณ และสส.พรรคเพื่อไทย ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง ว่ามี “กาสิโนเพียง 10% ในโครงการสถานบันเทิงครบวงจร”
ล่าสุด นายทักษิณ ไปหลอกให้คนตาบอดไม่กลัวเสือที่จังหวัดเชียงใหม่ ในเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายกเทศมนตรีว่า “เป็นกาสิโนได้ฉะได๊ะ ในเมื่อมันมีกาสิโนแค่ 10% ในโครงการใหญ่โตมโหฬารมูลค่าแสนสองแสนล้านบาท”
นายทักษิณ บอกตาบอดไม่กลัวเสือ ที่เชียงใหม่ ว่า ถ้าไม่มีกาสิโนรวมอยู่ในโครงการหลายแสนล้านบาท นักลงทุนต่างชาติไม่ยอมมาลงทุนในประเทศไทย ในโครงการใหญ่โตมโหฬาร ที่มีคอนเสิร์ตฮอลล์ สนามกีฬา สวนสนุก สวนน้ำ โรงแรมห้าดาว ตลอดถึงพิพิธภัณฑ์รวมอยู่ในโครงการเดียว
“เทย์เลอร์ สวิฟต์ ไม่มาประเทศไทยเพราะเราไม่มีโถงคอนเสิร์ต (คอนเสิร์ตฮอลล์)ขนาดใหญ่ประเทศไทยไม่สามารถจัดแข่งขันฟุตบอลระดับโลกได้เพราะไม่มีสนาม”
ประเทศไทยขาดสิ่งที่นายทักษิณบอกกับตาบอดไม่กลัวเสือจริงหรือ ความจริง คือ เทย์เลอร์ สวิฟต์ เคยมีโปรแกรม Red Tour คอนเสิร์ตในประเทศไทย แต่บังเอิญช่วงนั้นประเทศไทยมีรัฐบาลจากการยึดอำนาจเธอจึงยกคอนเสิร์ตที่จำหน่ายบัตรล่วงหน้า และในปี 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน ให้สัมภาษณ์สื่อว่า สิงคโปร์จ่ายให้เทย์เลอร์ สวิฟต์ 500 ล้านบาท เพื่อให้เธอโชว์คอนเสิร์ตเฉพาะในสิงคโปร์แห่งเดียวโดยไม่ไปโชว์ในประเทศอื่นอีกในประเทศอาเซียน
เทย์เลอร์ สวิฟต์ ไม่มาไทย เพราะเราไม่มีโถง(ฮอลล์)ขนาดใหญ่ จึงหลอกได้เฉพาะตาบอดไม่กลัวเสือ ส่วนเรื่องจัดแข่งฟุตบอลระดับโลกนั้น นายทักษิณรู้อยู่เต็มอกว่าในทวีปเอเชียมีแต่เศรษฐีน้ำมันเท่านั้นที่สามารถจัดได้เพราะค่าใช้จ่ายครั้งละหลายแสนล้านบาท
ตัวอย่างเช่น ประเทศกาตาร์เป็นเจ้าภาพฟุตบอล 2022 จากการประเมินของ “Front Office Sport บริษัทที่ปรึกษาการเงินด้านกีฬาของสหรัฐ ระบุว่า กาตาร์ทุ่มเงินถึง 220,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7,878,200,000,000 บาทไทย (อัตราแลกเปลี่ยนเวลานั้น)
หรือการจัดแข่งขันฟุตบอลโลก 2 ครั้งก่อนหน้ามีค่าใช้จ่ายสูงเช่นกัน เนื่องจากต้องสร้างสนามกีฬาใหม่หลายแห่งรวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญสนามบินและถนนรอบๆสนามกีฬาด้วย
ปี 2018 รัสเซียใช้ 14,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 6,000 ล้านดอลลาร์ ใช้กับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง และ 3,500 ดอลลาร์ ใช้สำหรับก่อสร้างสนามกีฬา เงินจำนวนมากมายมหาศาลอย่างนั้นไม่มีต่างชาติที่ไหนเสี่ยงมาลงทุนสร้างสนามกีฬาระดับโลกในประเทศไทยที่ไม่มีวันได้รับสัมปทานจัดการแข่งฟุตบอลโลก นอกจากนั้นยังต้องใช้เบี้ยบ้ายรายทางอีกเป็นหมื่นล้านในการวิ่งเต้นให้ได้สิทธ์ิเป็นเจ้าภาพแข่งกีฬาระดับโลก
เอาละสมมุติว่า มีนักลงทุนต่างชาติตาบอดไม่กลัวเสือมาลงทุนสร้างเอ็นเตอร์เมนท์คอมเพล็กซ์ในประเทศไทย สถานที่ก่อสร้างสนามกีฬาระดับโลกขนาดใหญ่ สร้างฮอลล์คอนเสิร์ต ที่บรรจุแฟนคลับ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ได้หลายหมื่นคน สร้างสวนน้ำ สร้างพิพิธภัณฑ์ สร้างโรงแรงห้าดาวไว้ในที่เดียวกัน ประเทศไทยไม่ต้องมีพื้นที่ทั้งหมดของจังหวัด ที่ตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์หรือ
คนไทยเป็นตาบอดไม่กลัวเสือตามที่นายทักษิณเข้าใจ เพราะตาบอดไม่เห็นเสือจึงไม่กลัว แต่นายทักษิณต้องไม่ลืมว่าคนไทยมีประสาทสัมผัสที่รู้ได้ว่า กาสิโนคือความหายนะของประเทศไทย และเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ไม่มีสร้างได้จากเหตุปัจจัยที่กล่าวมา ดังนั้นทักษิณได้ชื่อว่าคนตาดีที่ไม่กลัวเสือกระดาษ พึงสังวรไว้ว่า คนตาบอดไม่เห็นเสือก็จริงแต่สามารถจับกลิ่นสาบแห่งความชั่วร้ายและสัมผัสได้ถึงความหายนะที่มากับกาสิโน
จึงฟันธงล่วงหน้าว่า เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ที่มีกาสิโนซ่อนอยู่ภายในไม่มีวันเกิดขึ้นได้ในประเทศไทย ตราบใดคนไทยตาบอดไม่เห็นเสือแต่ได้กลิ่นสาบแห่งความชั่วร้ายและสัมผัสได้ถึงความหายนะที่มากับกาสิโน
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี