“ข่าวดังสุดปัง” ระดับ “ก้องพิภพ” ในวันนี้ คงไม่มีข่าวไหน “ดังเปรี้ยงปัง” เท่ากับข่าว “จักรพรรดิปากจู๋ขับรถซิ่งไปทั่วโลกอย่างสุดห้าวและสุดห่าม” เพื่อแจกคำสั่ง “สงครามภาษี” ที่ตนเป็นผู้ประกาศ

ขณะที่ “ผู้เฒ่าจับกังแรมโบ้” ขับรถ “ฝ่าไฟแดงฝ่าไฟเหลืองอย่างสติพัง” ปรากฏว่า “ท่านเปาจากศาลการค้าระหว่างประเทศ” ของชาติอินทรีหัวขาว ได้แปลงกายเป็น “ซูเปอร์แมน” เหาะเหินเดินฟ้าเข้าไปในรถจักรพรรดิปากจู๋อย่างกะทันหัน แล้วทำการ “เหยียบเบรกเท้า ดึงเบรกมือและตบเกียร์ต่ำ” แบบ “ฉับพลันทันที” จนรถตีลังกาหลายตลบ จบลงด้วยพังพินาศอยู่ข้างถนน

“ภาพที่เกิดขึ้นถูกแชร์อย่างรัว รัว” คือ “จักรพรรดิปากจู๋” คลานออกจากรถในสภาพ “หน้าแตกยับหมอไม่รับเย็บ”

การที่ “ท่านเปา” แปลงร่างเป็นซูเปอร์แมน เข้าไปเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน หยุดการซิ่งรถมหาภัยนำคำสั่ง “สงครามภาษี” ไปให้แก่ทุกชาติทั่วโลกครั้งนี้ท่านเปาได้ระบุว่า

“รับไม่ได้ ที่พ่อค้าจอมโกยกำไรผู้ได้รับเลือกเป็นผู้นำประเทศอินทรีหัวขาว กำลังจะทำให้ประชาธิปไตยตัวพ่อของโลกมัวหมอง ด้วยการตั้งตนเป็นจักรพรรดิออกคำสั่งเหนือรัฐธรรมนูญอันศักดิ์สิทธิ์ของอินทรีหัวขาว”

“แท้จริงแล้ว ประเทศประชาธิปไตย ผู้นำรายใดจะใช้อำนาจหรือใช้นโยบายที่สุดสำคัญกับชาติใดจะต้องใช้อำนาจจากความเห็นชอบของสภา มิใช่ตูข้ามีอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จเพียงผู้เดียว”

ถูกเหยียบเบรกอย่างสุดมันครั้งนี้ นอกจากผู้เฒ่าปากจู๋โชคดีไม่คอหักตาย แต่ก็ได้คลานออกจากรถในสภาพ “โกรธจนควันออกหู และไฟพรูออกทางปาก” จากนั้นผู้เฒ่าได้ “ฉอด ฉอด” เสียงดัง “การออกคำสั่งสงครามภาษีครั้งนี้ ถือเป็นวิกฤตความมั่นคงของชาติที่ผู้นำประเทศอย่างตูข้าสามารถออกคำสั่งได้”

หลังจาก “ฉอด ฉอด จนหนำใจ” แล้วท่านปากจู๋ก็ใช้ “กุนซือ” รีบไปยื่นเรื่องให้ท่านเปาในศาลอุทธรณ์วินิจฉัยโดยด่วนว่า “จักรพรรดิปากจู๋สามารถประกาศสงครามภาษีกับทุกชาติ โดยไม่ผ่านสภา ไม่ถือเป็นการผิดรัฐธรรมนูญอินทรีหัวขาวใช่หรือไม่?”

คงอีกยาวนาน และคงอีกยาวไกล ที่จักรพรรดิปากจู๋จะ “บรรลุความฝัน” ในการทำสงครามภาษีกับชาติต่างๆ ด้วยการใช้อำนาจของตนเองโดยไม่ผ่านสภา เพราะต้องจ๊ะเอ๋กับคำวินิจฉัยของท่านเปาในศาลอุทธรณ์ และอาจถึงขั้นต้องไปจบที่ศาลฎีกา

ประเทศที่ปกครองโดยมีรัฐสภา “นโยบายที่สุดสำคัญ”ไม่มี “เส้นทางลัด” ที่จักรพรรดิที่มาจากการเลือกตั้งตัดสินใจทำได้โดยลำพังแบบ “จอมเผด็จการมีอำนาจเต็ม”

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม