ใครก็ตามที่ได้ดู แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (หุ่นเชิด) แสดงอารมณ์พลุ่งพล่านตอบโต้โดยพลัน เพราะไม่สามารถตอบคำถามของนักข่าวที่ถามจี้ประเด็นทหารกัมพูชาขุดคูเลต (สนามเพลาะ) ล่วงล้ำเข้ามาในเขตดินแดนไทยประมาณ 160-200 เมตร ที่บริเวณช่องบกอุบลราชธานี ต้องย้ำว่าใครก็ตามที่จับอาการโมโหของแพทองธารในวันดังกล่าวได้ ต่างก็วิพากษ์ตรงกันว่านายกรัฐมนตรีอารมณ์เสียและโมโห และสติหลุด เพราะตอบคำถามนักข่าวไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องธรรมดาที่นักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล หรือนักข่าวสายการเมืองจะต้องสอบถามนายกรัฐมนตรีเพื่อนำคำตอบไปรายงานข่าวให้สาธารณชนรับทราบ ดังนั้น บางคำถามอาจไม่เป็นที่สบอารมณ์ของผู้ถูกถาม โดยเฉพาะคำถามที่จี้และรุกไล่เพื่อเค้นให้ได้คำตอบจากปากของนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องราวที่กำลังเป็นประเด็นข่าวที่สาธารณชนให้ความสนใจมากๆ
แน่นอนว่าบางครั้งนักข่าวก็ถามคำถามที่ไม่ได้แสดงให้เห็นความเฉลียวฉลาด (ย้ำว่าไม่ใช่การตั้งคำถามเรื่องทหารกัมพูชาขุดคูเลตล่วงล้ำอาณาเขตไทย) แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่านายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีจะต้องแสดงความไม่ฉลาดตอบโต้คำถามที่ไม่ฉลาด เพราะสถานภาพของนายกรัฐมนตรีสูงและสำคัญกว่าสถานภาพของนักข่าว ดังนั้น หากนายกรัฐมนตรี
มั่นใจว่าคำถามของนักข่าวไม่ฉลาดพอ นายกรัฐมนตรีต้องใช้ความฉลาดที่ตนเองมี แล้วหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องปล่อยให้เกิดอาการสติหลุด แล้วกลายสภาพเป็นคนบ้า
การที่นายกรัฐมนตรีตอบคำถามสำคัญจากนักข่าวไม่ได้ หรือตอบไม่รู้เรื่อง หาสาระสำคัญจากคำตอบไม่ได้ โดยเฉพาะการตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับอธิปไตยของประเทศ แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ติดตามสถานการณ์จริงที่บริเวณชายแดน และย้ำให้เห็นชัดว่านายกรัฐมนตรีไม่มีความรู้เรื่องสถานการณ์การเผชิญหน้ากันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา แต่ที่น่าสมเพชยิ่งกว่าคือนายกรัฐมนตรีดันชี้ไปที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วบอกกับนักข่าวไปดูสถานที่จริงกับรัฐมนตรี แล้วเมื่อนักข่าวตอบว่า รัฐมนตรีไม่พาไปดูสถานที่ แต่นายกรัฐมนตรีกลับแสดงอาการเยาะเย้ยว่าไม่ต้องเสียใจนะ
นั่นคือการแสดงให้เห็นสภาพไร้วุฒิภาวะของนายกรัฐมนตรีอย่างชัดเจน เพราะไม่มีความจำเป็นที่นายกรัฐมนตรีต้องตีฝีปากเล่นวาทะ หรือแสดงคำพูดและอาการเสียดสีเย้ยหยัน
นักข่าวที่ถามคำถามสำคัญต่อบ้านเมือง เพราะมันคือการแสดงให้สาธารณชนเห็นชัดว่านายกรัฐมนตรีขาดวุฒิภาวะของการเป็นผู้นำการเมืองสูงสุดของประเทศ แล้วยังแสดงให้เห็นอีกว่านายกรัฐมนตรีขาดสติ ไร้ปัญญาด้วย
นายกรัฐมนตรีต้องสำเหนียกว่าเวลาบ้านเมืองมีปัญหาใหญ่ แล้วปัญหานั้นส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนจำนวนมากผู้คนจึงต้องการคำตอบชัดเจนจากปากนายกรัฐมนตรี การตอบแบบขอไปที หรือแบบปัดสวะ ทำนองว่า คุยกันแล้วค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างปกติดี ย้ำว่าคำตอบเลื่อนลอยเช่นนี้ไม่ได้ทำให้ผู้คนที่กำลังติดตามสถานการณ์สำคัญเกิดความไว้วางใจ แล้วยิ่งเมื่อคำตอบไร้สาระของนายกรัฐมนตรีขัดแย้งกับภาพจริงของสถานการณ์ที่คนส่วนมากได้ประจักษ์แล้ว ก็ยิ่งทำให้นายกรัฐมนตรีปราศจากความน่าเชื่อถือ และทำให้ประชาชนสูญสิ้นศรัทธาในตัวผู้นำสูงสุดทางการเมือง
เฉลิมชัย ยอดมาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี