หนังสือพิมพ์แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...■■ แล้วข่าวลือก็เป็นข่าวร้าย ที่กลายเป็นข่าวจริง เมื่อประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ส่งจดหมายแจ้งอย่างเป็นทางการถึง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการนายกรัฐมนตรี สรุปว่า สหรัฐอเมริกาจำเป็นต้อง เก็บภาษี สินค้านำเข้าจากประเทศไทย ในอัตรา 36% โดยจะเริ่มในวันที่ 1 สิงหาคม 2568
...■■ ทั้งๆ ที่ ก่อนหน้านี้ 6 ก.ค. พิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง ยังออกมาเตือนว่า อย่าเชื่อข่าวลือ ว่าไทยจะโดนสหรัฐเก็บภาษี 36% และบอกว่าเตรียมยื่นข้อเสนอใหม่ให้สหรัฐพิจารณาก่อนวันที่ 9 ก.ค.นี้ แต่แล้วข่าวลือที่ขุนคลังออกมาเตือนว่าอย่าเชื่อๆ มันก็กลายเป็นข่าวจริงขึ้นมา
...■■ แม้จะมีคนพยายามมองโลกในแง่ดีว่า ยังพอมีเวลาอีก ก่อนจะถึง 1 ส.ค. ฝ่ายไทยอาจจะยื่นข้อเสนองามๆ ให้ทางสหรัฐเปลี่ยนใจลดอัตราภาษีลงมาได้บ้าง แต่ก็อย่าไปคาดหวังอะไรมากนัก บอกได้เลยว่าโอกาสริบหรี่ๆ
...■■ ยิ่งหันมาดูสภาพของรัฐบาลไทยในขณะนี้ด้วยแล้ว บอกได้คำเดียวว่า ตัวใครตัวมัน ประชาชนคงต้องดูแลตัวเอง!
...■■ ความจริงแล้ว เรารับรู้ เรื่องที่ทรัมป์จะขึ้นภาษีมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 แต่ด้วยภาวะของรัฐบาล ที่ผู้นำไร้ความสามารถ ไม่มีภาวะผู้นำเป็นหุ่นเชิด ตัดสินใจอะไรไม่ได้ เรื่องไหนควรทำก่อนหลังก็จัดลำดับความสำคัญไม่ได้ อำนาจที่มีอยู่ในมือ จึงถูกใช้ไปแก้ปัญหาการเมือง มากกว่าแก้ปัญหาให้ประชาชน
...■■ สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ด่านแรก คือ ผู้ส่งออกที่มีลูกค้าหลักคือสหรัฐ เป็นกลุ่มแรกที่จะได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะต้นทุนภาษีสูงกว่าประเทศคู่แข่งอื่น ที่โดนภาษีน้อยกว่า เช่น เวียดนาม 20% มาเลเซีย 25%
...■■ เมื่อผู้ผลิตเพื่อส่งออกได้รับผลกระทบ ที่ตามมาหนีไม่พ้น บรรดาลูกจ้างแรงงานในอุตสาหกรรมส่งออก : เสี่ยงถูกลดชั่วโมงทำงาน หรือแม้แต่เลิกจ้าง
...■■ อุตสาหกรรมที่ส่งออกสู่สหรัฐมาก เช่น อิเล็กทรอนิกส์, สิ่งทอ,เครื่องใช้ไฟฟ้า, ยานยนต์ ฯลฯ จะต้อง “ชะลอสายการผลิต” หากคำสั่งซื้อลดลง กระทบแรงงานระดับล่างโดยตรง โดยเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรม จ.ชลบุรี, ระยอง, ปราจีนบุรี, พระนครศรีอยุธยา ฯลฯ และมีโอกาสสูงที่แรงงานชั่วคราว/รับเหมา/โอที จะถูกลดหรือยกเลิกก่อน
...■■ ส่วน SMEs ผู้ผลิตเพื่อส่งออก ที่สายป่านสั้นก็มีโอกาส ล้มก่อนรายใหญ่ รวมถึงผู้ประกอบการ SMEs ที่รับจ้าง OEM หรือส่งสินค้าผ่าน Trader ไปอเมริกา อาจถูกยกเลิกออเดอร์หรือต่อรองราคาลงทันที หากมีต้นทุนคงที่สูง (ค่าเช่าโรงงาน, เครื่องจักร, หนี้เงินกู้) ก็อาจประสบภาวะ “ขาดทุนต่อเนื่อง” จนนำไปสู่การปิดกิจการ
...■■ จากนั้นก็จะลามไปสู่ พ่อค้าแม่ค้ารายย่อย-สินค้าแพง-กำลังซื้อหาย เศรษฐกิจส่งออกถดถอย จะกระทบ “รายได้หมุนเวียน” ทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่พึ่งแรงงานโรงงานชุมชนที่เคยมีรายได้จากแรงงานโอที หรือโบนัสปลายปี อาจประสบกับยอดขายที่ตกลงอย่างหนักหากผู้บริโภคเริ่ม “รัดเข็มขัด” อย่างรวดเร็ว รายย่อยที่ขายอาหาร เครื่องใช้จิปาถะจะได้รับผลกระทบทันที
...■■ ขณะที่ ภาคเกษตร ใช่ว่าจะไม่โดนหางเลข เพราะหากสินค้าเกษตรแปรรูป (เช่น ทูน่ากระป๋อง, น้ำผลไม้, ข้าวแปรรูป ฯลฯ) โดนภาษีสูง และคำสั่งซื้อลด อาจส่งผลต่อราคาผลผลิตที่ตกต่ำ เกษตรกรที่ขายให้โรงงานหรือผู้ส่งออกจะได้รับราคาที่ต่ำลง หรืออาจขายไม่ออก
...■■ นี่แค่ฉายภาพเบื้องต้นเท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ มาตรการของภาครัฐที่จะออกมา เยียวยา ลดผลกระทบ จากส่วนต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ อย่างไร
...■■ เห็นสถานการณ์แบบนี้แล้ว ก็ให้นึกถึงคำเตือนของบรรดาผู้รู้หลายๆ ท่าน ที่ออกมาเตือน รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทั้งยุค เศรษฐา มาจนถึงยุคแพทองธาร ว่าอย่าเอาเงินไปแจกหว่าน ซึ่งได้ไม่คุ้มเสียควรเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน หรือปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศจะดีกว่า
...■■ แต่คำเตือนเหล่านี้ นอกจากจะไม่ได้รับการใส่ใจแล้ว ยังถูกตอบโต้จากคนในรัฐบาล ด้วยลีลาของนักการเมืองตลาดล่าง ต่างๆ นานา เช่น ไล่ให้ไปเดินตลาดบ้าง หรือ ด่าว่าวิจารณ์อยู่บนหอคอยงาช้างบ้าง
...■■ จนมาวันนี้คำเตือน ก็เริ่มเห็นภาพชัดขึ้น งบประมาณที่เสียไป กับเวลาและโอกาสที่ผ่านไป ได้พาประเทศไทยมาสู่ปากเหวแล้ว
...■■ ป่วยการที่จะมาวิจารณ์ว่า ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ไร้ฝีมือ ไม่สมราคาคุย เก่งแต่ปากกันทั้งนั้น
...■■ จากนี้ไปทางรอดของประเทศคือ รัฐบาล ต้องฟังข้อมูล ข้อเสนอจากผู้รู้ทางภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน อย่างจริงใจ และนำมาประมวลเป็นทางออกเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ผ่อนหนักให้เป็นเบา ก่อนที่จะพังพินาศกันทั้งประเทศ...■■
นายพริบพรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี