บรรทัดแรกของวันนี้ ต้องขอแสดงความเคารพ แด่ทหารทุกหน่วย ทุกท่าน ที่ได้ทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยจิตวิญญาณของนักรบอย่างแท้จริง
...■■ แม้ว่าใครๆ ก็อยากเห็น สันติภาพ เกิดขึ้น แต่การรีบร้อนไปเจรจาและตกลง “หยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข” ที่ ภูมิธรรม เวชยชัย นำทีมไปคุย กับกัมพูชา ที่มาเลเซียนั้นดูทะแม่งๆพิกล
...■■ รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและต่างประเทศ ยังฟันธงว่า ผลการเจรจารอบแรกนั้นฝ่ายไทย “เสียเปรียบ”
...■■ ซึ่งอาจารย์ปณิธานให้เหตุผลเอาไว้น่าสนใจ คือ 1.เรายังจัดระเบียบความมั่นคงตามแนวชายแดนไม่เสร็จเรียบร้อย
...■■ 2.กัมพูชากำลังเพลี่ยงพล้ำ ทั้งในพื้นที่สู้รบและเวทีนานาชาติ และไทยกำลังจัดระเบียบตามแนวชายแดน แต่กลับต้องหยุดยิงก่อน ซึ่งในความหมายย่อมหมายถึงหยุดปฏิบัติการทางทหาร และการเคลื่อนกำลังทั้งหมดด้วย
...■■ 3.ในเวทีนานาชาติ รวมทั้งที่ UN ที่มีหลายประเทศเข้าข้างกัมพูชา ประเทศเหล่านั้น เพิ่งชะงัก จากการนำเสนอข้อมูลของไทยที่ UNSC ว่ากัมพูชาเป็นผู้จุดชนวนความขัดแย้งและยังโจมตีเป้าหมายพลเรือนอย่างไม่เลือกหน้า
...■■ 4.จากสถานการณ์ที่เสียเปรียบ กัมพูชาพลิกเกม ดึงจีนกับสหรัฐฯเข้ามาประกบเวทีเจรจาที่มาเลเซีย
...■■ ที่สำคัญก็คืออาจารย์ปณิธานได้ข้อสังเกตว่า เวทีเจรจาหนนี้ เหมือนทุกฝ่าย มีวาระซ่อนเร้น คือ กัมพูชาพยายามพลิกเกม สหรัฐฯและจีน ถูกดึงเข้ามาเพื่อถ่วงดุลอำนาจในอนุภูมิภาค ส่วนมาเลเซียมีนักลงทุนจำนวนมากอยู่ในกัมพูชา ทำให้ไทยเหมือนถูกจำกัดบทบาทและการรุกคืบไปโดยปริยาย
...■■ และแล้วเวลาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า หยุดยิงเที่ยงคืน ไม่มีอยู่จริง ขณะที่ทหารไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดตามเวลา แต่ฝ่ายกัมพูชา ยังคงมีการยิงก่อกวนทหารไทย ในหลายพื้นที่ แม้จะเลยเวลา 24.00 น. ของวันที่28 ก.ค. ได้แก่ พื้นที่ช่องบก, พื้นที่ช่องอานม้า, พื้นที่ซำแต, พื้นที่ปราสาทตาควาย และพื้นที่ภูมะเขือ
...■■ ซึ่งฝ่ายไทยได้ตอบโต้ตามสถานการณ์ โดยใช้กำลังในแนวหน้าและอาวุธยิงสนับสนุน เพื่อยับยั้งการปฏิบัติดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา จนโฆษกกองทัพบก พลตรีวินธัย สุวารี ได้ออกแถลงการณ์ว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน กองทัพบกจึงขอประณามต่อการกระทำดังกล่าว
...■■ ก็ต้องพูดกันชัดๆ ตรงๆ ว่า นี่คือ DNA ที่ฝังอยู่ในสายเลือดของกัมพูชาที่ไว้ใจไม่ได้ ตลอดมา
...■■ เรื่องหนึ่งที่ถือว่ารัฐบาลชุดนี้อ่อนมากเข้าขั้นสอบตก นั่นคือการให้ข้อมูลข่าวสาร ขนาดมีทั้งโฆษกรัฐบาล คือ จิรายุ ห่วงทรัพย์ที่ติดตามคณะไปมาเลเซียด้วย ไหนจะมี จักรภพ เพ็ญแข ที่เพิ่งแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แต่กลับไม่มีการทำงานให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นระบบ ทั้งการชี้แจงต่อประชาชน และต่อประชาคมโลก ไม่เห็นเก่งเหมือน ตอนตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองเลย 555
...■■ ตรงกันข้ามกับฝ่ายกองทัพ ที่รอบนี้ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งความรวดเร็ว แม่นยำ และรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งการให้ข้อมูลประชาชน และการตอบโต้การบิดเบือนข่าวสารของกัมพูชา อะไรดีก็ต้องชมกันตรงๆ แบบนี้แหละ
...■■ ส่วน แพทองธารชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่ถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว แม้พยายามจะหาเวทีเพื่อลบภาพติดตัวจากคลิปเสียงฮุนเซน ว่าเป็น “หลานอังเคิล” แต่ดูเหมือนลบอย่างไรก็ลบไม่ออก มันฝังไปในจิตใจคนไทยเสียแล้ว บอกได้เลยว่า สถานการณ์ของ “อุ๊งอิ๊งค์” เริ่มเข้าสู่ภาวะ “โลกกว้างทางแคบ” เรียบร้อยแล้ว วันก่อนขนาดไปลงพื้นที่ดูน้ำท่วม ที่จ.น่านพื้นที่สส.เพื่อไทยแท้ๆ ยังโดนชาวบ้านตะโกนด่ากระเจิงเลย
...■■ พิธีพระราชทานเพลิงศพ ดร.พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน เมรุ 2 วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 17.00 น. ...■■
นายพริบพรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี