เต็มไปด้วยสาระและข้อเท็จจริงคือ หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com ทุกบรรทัด ตรงไป ตรงมา

...nn ปั่นป่วนไปทั้งโลกและประเทศไทย เมื่อประธานาธิบดี โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศนโยบายภาษีนำเข้าใหม่ โดยมีแนวคิดที่จะเก็บภาษีพื้นฐาน 10% จากสินค้าทุกประเภทที่นำเข้าสหรัฐฯ และจะมีการคิดภาษีเพิ่มเติมในระดับตัวเลขสองหลักกับประเทศที่สหรัฐฯ มองว่ามีการได้เปรียบดุลการค้าอย่างไม่เป็นธรรม โดยประเทศไทยโดนเข้าไปเบาะๆ ถึง 36% โดยจะเริ่มเก็บตั้งแต่ 1 สิงหาคมนี้ เป็นต้นไป !!!!!!

...nn ซึ่งเสียงสะท้อนของผู้เกี่ยวข้องก็มีหลากหลาย เช่น เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การตัดสินใจของสหรัฐฯ ในเบื้องต้นอาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกไทยโดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าหลัก เช่น อาหารแปรรูป สินค้าเกษตร ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ อัญมณี เหล็กและอะลูมิเนียม ซึ่งคาดว่ามูลค่าความเสียหายต่อการส่งออกไทยอาจอยู่ที่ประมาณ 8-9 แสนล้านบาท

...nn พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ระบุว่า กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่เราต้องทำงานร่วมกัน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อหาทางออกโดยเร็ว เพื่อจะได้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเจรจาค้าขายไทยกับสหรัฐ หรือกับประเทศอื่นๆ ด้วย จากนี้เป็นต้นไป อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ ยังเปิดทางว่า สหรัฐฯ จะไม่เรียกเก็บภาษีหากบริษัทไทยเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตในสหรัฐอเมริกา

...nn ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์กรนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย ระบุว่า ถือเป็น “สถานการณ์เลวร้ายที่สุด” (Worst-Case Scenario) จ่อสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างและรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ โดยเฉพาะภาคแรงงานในโซ่อุปทานส่งออกกว่า 20 ล้านคน อัตราภาษีระดับนี้ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของสินค้าไทยหายไปทันที ผู้นำเข้าในสหรัฐฯ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปรับพอร์ตไปสั่งซื้อสินค้าจากประเทศที่ต้นทุนภาษีต่ำกว่าอย่างเวียดนาม คาดว่าคำสั่งซื้อสินค้าจากไทยจะเริ่มลดลงอย่างชัดเจนตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป

...nn ธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ระบุว่า ซึ่งประเทศไทยโดนภาษีตอบโต้ 36% อาจเป็นเพราะสหรัฐใช้โมเดลของเวียดนามในการพิจารณาบวกกับข้อเสนอการนำเข้าสินค้าบางรายการที่ไทยยังไม่ยอมให้นำเข้า 0% ซึ่งสหรัฐชัดเจนว่าไทยเก็บภาษีสินค้าสหรัฐอย่างไร ไทยก็ต้องโดนสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าแบบนั้นเช่นกัน เป็นลักษณะของการเอาคืนไทย เพราะสหรัฐฯ มองว่าถูกเอาเปรียบจากไทยมานานถึงเวลาที่ต้องเอาคืน

...nn สุรเชษฐ กองชีพ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย บริษัทที่ดำเนินการด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ระบุว่า การที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับอัตราภาษีสูงระดับนี้ สินค้าส่งออกของประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกาอาจจะต้องหาตลาดรองรับใหม่ โดยจะต้องกระจายความเสี่ยง และเปิดตลาดการค้าใหม่ๆ กับประเทศที่อยู่ในกลุ่มการค้าเดียวกัน...nn ภาคการค้าการส่งออกสินค้าไปสหรัฐอเมริกาของประเทศไทยได้รับผลกระทบเต็มๆ และคงส่งผลต่อภาคธุรกิจอื่นๆ และภาคเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วยที่หากส่งออกได้ลดลงก็มีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศไทย

...nn ชูเกียรติ โอภาสวงศ์  นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ในเบื้องต้นข้าวไทยส่งออกไปสหรัฐจะเสียเปรียบข้าวจากเวียดนามมาก หากไทยต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงกว่า เพราะราคาข้าวหอมของเวียดนามเวลานี้อยู่ที่กว่า 600 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน บวกภาษีอีก 20% จะเพิ่มขึ้นเป็น 720 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

...nn ซึ่งจะถูกกว่าข้าวไทยเกือบเท่าตัว ยิ่งทำให้ราคาข้าวหอมมะลิไทยเมื่อเทียบกับข้าวหอมเวียดนามห่างกันออกไปอีก และจะกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน เพราะจะมีผลทำให้ลูกค้าหันไปซื้อข้าวจากเวียดนามเพิ่มขึ้น
รวมถึงจากแหล่งอื่นที่ราคาถูกกว่าไทย

...nn อดิศักดิ์ กองวารี นายกสมาคมถุงมือยางไทย กล่าวว่า หากภาษียังคงยืนพื้นที่ 36% เช่นนี้ จะทำให้ถุงมือยางประเทศไทยขายไม่ได้แพงกว่า ขณะที่มาเลเซีย ภาษี 24% ซึ่งมาเลเซียเป็นผู้ผลิตอันดับต้นของโลก แล้วยังได้สิทธิเหนือประโยชน์กว่า 10% เพราะฉะนั้นราคาถูกกว่าไม่มีทางสู้ได้แน่นอน

...nn ท้ายที่สุดต้องเสียตลาดให้มาเลเซีย ซึ่งตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดเบอร์ 1 ของโลก มีการใช้จำนวนมากให้ทั้งราคาและเครดิตดีที่สุด หากเสียตลาดนี้ไปไม่มีทางหาตลาดอื่นมาทดแทนได้อีก

...nn ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ระบุว่า ในเมื่อการเจรจาแบบ win-win น่าจะเป็นไปได้ยาก ในกรณีนี้ เราอาจจะต้องหาทาง give and take และพิจารณาถึงผลกระทบในแต่ละทางเลือกอย่างรอบด้าน

...nn และหาทางชดเชยผลกระทบ เช่น เข้าใจสิ่งที่สหรัฐต้องการก่อน เปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐ ลดภาษีนำเข้า จัดการกับเรื่องสินค้าสวมสิทธิ์ พิจารณาหาทางเปิดเสรีด้านต่างๆ โดยเฉพาะภาคเกษตรซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เป็นต้น

...nn “มือปราบ” เห็นว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยยังห่างไกลคำว่า “มีกิน มีใช้ มีศักดิ์ศรี” และยังเจอภาษีทรัมป์กระหน่ำซ้ำเติมไปอีก ทำให้ประชาชนเริ่มคิดว่า วิกฤตการณ์แบบนี้ รัฐบาลจะมีศักยภาพรับมือไหวไหม !!!

...nn ดังนั้น ภาษีทรัมป์ไม่ใช่แค่มีผลกระทบต่อภาคธุรกิจขนาดใหญ่ แต่มันลุกลามไปถึงระดับรากฐาน ถึงหากรัฐบาลยังตั้งหน้าตั้งตาที่จะทำให้คนไทย “มีกิน มีใช้ มีศักดิ์ศรี” จริงๆ แล้ว ก็ต้องหาทางแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด ดังคำพูดที่อ้างกันว่า “ประเทศยังมีวิกฤตอยู่ จะต้องสู้อยู่ร่วมกอดคอเป็นพรรครัฐบาลต่อไป” (ฮา)

...nn สวัสดีครับ