...คนจำนวนไม่น้อยในประเทศนี้..แปลกใจว่า“โมฆบุรุษ”อย่างอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร..ทำไมคนอย่าง“วิษณุ เครืองาม”ยังยอมรับใช้
...หรือแม้แต่ “ธงทอง จันทรางศุ”, “ภูมิธรรม เวชยชัย”, “พันศักดิ์ วิญญรัตน์” รวมกระทั่ง“หมอเลี้ยบ-นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี”..ที่เคยติดคุกเกี่ยวกับคดีทุจริต“แก้สัมปทานดาวเทียม”เอื้อประโยชน์ให้แก่“บริษัทชินคอร์ป”ของ“ทักษิณ ชินวัตร”มาแล้ว..ก็ยังยอมสยบและรับใช้สนองงานให้แก่“ทักษิณ”มาจนบัดนี้
...คำตอบง่ายๆ..ก็น่าจะเพราะคนเหล่านี้มี“ศีลเสมอกัน”..เพราะคนเราถ้าศีลไม่เสมอกัน..คงร่วมสังฆกรรมกันไม่ได้แน่
...โดยเฉพาะคนอย่าง“วิษณุ เครืองาม”..เจ้าของฉายา“นิติบริกร”ในวัยย่าง 74 ปี.. และป่วยด้วย“โรคไต”อยู่ในขั้นวิกฤต..ซึ่งต้องฟอกไตวันละ 10 ชั่วโมง..มิหนำซ้ำยังมี“โรคตา”ด้วยอีกหนึ่งโรค..แต่แทนที่จะได้พักผ่อน..กลับยังต้องหอบสังขารขึ้นโรงขึ้นศาล..เป็น“พยานจำเลย”ให้แก่อดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร..ทั้งคดี“มาตรา 112”..และคดี“ป่วยทิพย์-ชั้น 14”โรงพยาบาลตำรวจ
...ไม่เพียงแต่เท่านั้น..“วิษณุ เครืองาม”ยังเป็นที่ปรึกษา..คอยให้คำแนะนำและดูแลสำนวนเอกสารคำชี้แจงของ“แพทองธาร ชินวัตร”..กรณีถูก 36 สว.ร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี..อันเนื่องมาจาก“คลิปอัปยศ”เรื่องเขมร..ซึ่งเข้าข่าย“ทรยศขายชาติ”ในการสนทนากับ“ฮุน เซน”ผู้ทรงอำนาจแห่งเขมร..โดยขณะนี้“แพทองธาร”ได้ขอยืดเวลาส่งคำชี้แจงให้แก่ศาลรัฐธรรมนูญต่อไปอีก 15 วันเป็นครั้งที่สอง..หลังจากครั้งแรกครบกำหนด 15 วัน..เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา
...หากย้อนไปดูความสัมพันธ์..ระหว่าง“วิษณุ เครืองาม”กับ“ทักษิณ ชินวัตร”..ซึ่งต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับนักการเมืองใน“คอกเพื่อไทย”..ที่โดยธรรมชาติต้องจำยอม“เจ้าของคอก”..อันเป็นเรื่องปกติของความสัมพันธ์ระหว่าง“นาย”กับ“ลูกน้อง”
...แต่สำหรับ“วิษณุ เครืองาม”นั้น..ไม่ใช่..เพราะบุคคลผู้นี้ไม่ใช่นักการเมืองในสังกัดพรรคเพื่อไทย..หรือนักการเมืองสังกัดพรรคไทยรักไทยในอดีต..เพียงแต่“วิษณุ”ถูกดึงตัวมาใช้งานด้านกฎหมายให้แก่รัฐบาลไทยรักไทย..ที่มี“ทักษิณ ชินวัตร”เป็นนายกรัฐมนตรี..โดยได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 2545-2549
...คำถามจึงมีว่า..ทำไม“วิษณุ เครืองาม”จึงต้องยอมรับใช้“ทักษิณ ชินวัตร”เหมือนทาสที่ปล่อยไม่ไป..และอันที่จริงแล้ว“วิษณุ”ก็มีบทเรียนให้จำ..ว่าเคยถูก“ทักษิณ”เทมาแล้ว..เรื่องการขอใช้วัดพระแก้ว..หรือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม..ต่อสำนักพระราชวัง“ทำบุญประเทศ”..เมื่อเดือนเมษายน ปี 2548..สมัยที่“ทักษิณ”เป็นนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลพรรคไทยรักไทย
...งานนี้“ทักษิณ ชินวัตร”ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่า..กระทำการโดยมิบังควร..ที่ไปนั่งเป็นประธานพิธีในอุโบสถวัดพระแก้ว..เนื่องจากอุโบสถวัดพระแก้ว..เป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับประกอบศาสนพิธีของพระมหากษัตริย์..ตั้งแต่ครั้งโบราณจนถึงปัจจุบัน
...กรณีนี้..ในเวลาต่อมา“ทักษิณ วัตร”ได้โยนบาปไปให้“วิษณุ เครืองาม”..ในช่วงที่เป็นสัมภเวสีหลบหนีโทษอยู่ในต่างประเทศ..จากการกล่าวในรายการ“CareTalk X Clubhouse”..เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2565..โดยเผยแพร่ทางเพจเฟซบุ๊ก“CARE คิด เคลื่อน ไทย”ทุกคืนวันอังคาร..ที่มี“นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี”เป็นหนึ่งในผู้จัดรายการ..ซึ่ง“ทักษิณ”ในนาม“โทนี่ วู้ดซัม” (Tony Woodsome)..ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
...“เรื่องวัดพระแก้ว..ผมไปทำบุญประเทศ..มัคนายกประจำ ครม.คือ วิษณุ เครืองาม..ซึ่งผมไม่รู้เรื่อง..ผมทำงานอย่างเดียว..เขาประสานงานทุกอย่าง..แล้วจัดทำบุญในวัดพระแก้ว..แต่เหตุการณ์ที่มีปัญหา..คือตอนนั้นวิษณุเป็นรองนายกรัฐมนตรี..ทำหน้าที่จัดการ..วิษณุทำหนังสือถึงสำนักพระราชวังเพื่อขอใช้วัดพระแก้ว..ผมทำงานอย่างเดียวไม่รู้เรื่อง”
...เรื่องนี้..ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์“วิษณุ เครืองาม”ในวันรุ่งขึ้น..คือวันที่ 25 พฤษภาคม 2565..หลังจาก“ทักษิณ ชินวัตร”โยนบาปให้..โดย“วิษณุ”ที่นั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา..กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า
...“ไม่เป็นไร..ก็โยนมาเถอะ..ผมเป็นรองนายกฯ..ท่านเป็นนายกฯ..ไม่เป็นไร..เรื่องข้าวก็เห็นโยนให้คุณบุญทรง (เตริยาภิรมย์)..เรื่องบ้านเอื้ออาทรก็โยนให้คุณวัฒนา (เมืองสุข)..ไม่มีรัฐบาลไหนหรอก..ที่ให้รองนายกฯลุกขึ้นมาทำโน่นทำนี่..โดยที่หัวหน้ารัฐบาลไม่รู้เรื่อง..หลายเรื่องผมจำไม่ได้แล้ว..แต่บังเอิญผมเก็บเอกสารไว้หมด”
...ถัดจากนั้นมาอีกหนึ่งปี..คนไทยส่วนใหญ่ก็เข้าใจว่า..“วิษณุ เครืองาม”ที่โดน“ทักษิณ ชินวัตร”..ผู้ซึ่งแม้แต่“ฮุน เซน”เพื่อนรัก..ยังเพิ่งจะเอ่ยปากออกมาไม่กี่วันก่อนว่า..“เขาทรยศแม้กระทั่งชาติบ้านเมืองของเขาเอง..ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะทรยศต่อคนชาติอื่นอย่างผม”..แต่สำหรับ“วิษณุ”ถูกทักษิณโยนบาปโยนความผิดให้ถึงขนาดนั้น..ก็“ไม่เข็ด”และ“ไม่จำ”ยังยอมสนองงานให้“ทักษิณ”อีก
...โดยเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566..ในวันที่“ทักษิณ ชินวัตร”ขอกลับเข้ามารับโทษจากที่หลอกศาลหนีไปอยู่ต่างประเทศนานกว่า 15 ปี..ปรากฏว่า..“วิษณุ เครืองาม”รองนายกรัฐมนตรี..ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม..ถึงกับเข้าไปอำนวยความสะดวก..ดูแลความเรียบร้อยในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ..ที่จะใช้เป็นที่คุมขัง“น.ช.ทักษิณ”ด้วยตนเอง
...อีกทั้ง..ต่อมาในภายหลัง..“วิษณุ เครืองาม”ผู้นี้..ก็ยังเคยยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า..“ทักษิณ ชินวัตร”ได้เข้าไปติดคุกในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..โดยได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 ว่า
...“เข้า(คุก)นะ..ผมยืนยัน..คุณไปนึกภาพห้องขังเป็นลูกกรงๆ ซีกๆ..ห้องขังไม่ได้เป็นแบบนั้น..ซึ่งผมเดินทางไปช่วงบ่าย..ซึ่งคุณทักษิณเข้าไปก่อนแล้ว..ช่วงขั้นตอนต่างๆ..ผมไม่อยากไปยุ่งตอนนั้น..มีขั้นตอนการถอดเสื้อ..เปลี่ยนเสื้อ..ถ่ายรูป..ทำบัตร..ตรวจโรค..กักโรคเรียบร้อยแล้ว..ก็มาส่งที่ห้องขัง..เพียงแต่ทำดี..สะอาดหน่อยเท่านั้น..ปัด..กวาด..เช็ดถูห้องน้ำให้ดูดี..เดิมถ่ายห้องหนึ่ง..อาบน้ำไปอีกห้องหนึ่ง..เราก็ติดฝักบัวให้เขา..ก็จบเรื่อง..ซึ่งตอนติดฝักบัว..ผมไปดู..ตรงนั้นแหละคือห้องขัง”
...และในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้..“วิษณุ เครืองาม”..ก็ยังจะไปเป็นพยานฝ่ายจำเลยคดี“ป่วยทิพย์-ชั้น 14“ให้“ทักษิณ ชินวัตร”..ต่อศาลแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นปากสุดท้าย..ก่อนศาลจะนัดวันฟังคำตัดสินต่อไป
...จับยามสามตาดูแล้ว..“ทักษิณ ชินวัตร”ไม่น่าจะรอดคุก..เพราะในระยะหลังมานี้ ใครก็ตามที่ใช้“วิษณุ เครืองาม”เป็น“เนติบริกร”..ไม่รอดสักราย..ดู“เศรษฐา ทวีสิน”ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นตัวอย่าง
...งานนี้ไม่น่าจะรอดทั้งพ่อและลูก !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี