การสู้รบที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในเขตภาคอีสานตอนใต้ ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีถูกสาธารณชนวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีต้นเหตุมาจากความบาดหมาง ขัดแย้งระหว่างทักษิณ ชินวัตร แห่งพรรคเพื่อไทยกับ ฮุนเซน แห่งกัมพูชา และแพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรีไทยกับ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
แม้คนไทยจะไม่ต้องการให้มีการสู้รบเกิดขึ้นแต่ฝ่ายกัมพูชาก็จงใจยั่วยุ แล้วสุดท้ายก็เปิดศึกยิงจรวดและอาวุธสงครามเข้าใส่ไทยก่อน ดังเหตุการณ์ปรากฏชัดเจนแล้วเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 และที่จำเป็นต้องย้ำก็คือกัมพูชาจงใจระดมยิงจรวดและอาวุธสงครามเข้าใส่บ้านเรือนประชาชน ตลาด ร้านค้า โรงพยาบาล โรงเรียน และโบราณสถานของไทย จนเป็นเหตุให้พลเรือนไทยเสียชีวิตไปแล้วกว่า 10 ศพ บาดเจ็บรวมกันกว่า 50 คน ส่วนการสู้รบกันของทหารสองฝ่าย ทำให้ทหารของไทยเสียชีวิตไปแล้ว 15 นาย บาดเจ็บรวมกันแล้วกว่าร้อยนาย ส่วนทหารกัมพูชาเสียชีวิตจำนวนเท่าไร ทางการกัมพูชาไม่ยอมเปิดเผย
แม้ว่าไทยไม่ต้องการทำสงครามกับกัมพูชาแต่กัมพูชายังพยายามก่อสงครามขึ้นก่อน ด้วยหวังว่าจะนำเรื่องไปฟ้องสหประชาชาติ และฟ้องศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยจงใจบิดเบือนว่าไทยรุกรานโจมตีกัมพูชาก่อน
สำหรับปัญหาไทยถูกกัมพูชาใส่ร้ายใส่ความ จงใจบิดเบือนข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อหวังให้นานาชาติประณามว่าไทยรุกรานกัมพูชา ปัญหานี้เป็นสิ่งที่นับได้ว่าเป็นความอ่อนด้อยของรัฐบาลไทย เพราะปล่อยให้ฝ่ายกัมพูชาสร้างเรื่องโจมตีไทยด้วยความเท็จตลอดเวลา ถามว่าทำไมรัฐบาลไทยไม่เปิดเผยความจริงให้โลกรับรู้ว่าไทยถูกกัมพูชาโจมตีก่อน แล้วที่สำคัญว่าคือเหตุใดไทยจึงทำงานด้านการข่าวช้ากว่าฝ่ายกัมพูชาตลอดเวลา ทำไมรัฐบาลไทยปล่อยให้ภาพพจน์ของประเทศไทยเสื่อมเสียในสายตาประชาคมโลก เพราะรัฐบาลไทยไม่ชี้แจง ไม่นำเสนอความจริงให้โลกได้รับรู้ แน่นอนว่าไทยไม่จำเป็นต้องโกหกมดเท็จประชาคมโลก เหมือนกับที่กัมพูชาจงใจโกหกโลกตลอดเวลา แต่ขอย้ำว่ารัฐบาลไทยต้องบอกความจริงให้โลกรับรู้โดยทันทีเมื่อกัมพูชาโจมตีเขตอธิปไตยของไทย
ล่าสุด กัมพูชาออกข่าวลวงโลกว่าไทยจงใจลอบสังหารฮุนเซน และฮุน มาเนต แต่ยังดีที่ฝ่ายไทยโดยกระทรวงการต่างประเทศออกมาโต้ข่าวเท็จนี้อย่างทันทีทันควัน โดยบอกว่าฝ่ายกัมพูชาสร้างเรื่องโกหก แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องย้ำว่าการให้ข่าวสารใดๆ ที่เป็นข้อเท็จจริงกับประชาชนชาวไทย รวมถึงประชาคมนานาชาติ โดยฝ่ายไทยนั้นเชื่องช้ามาก มากจนกลายเป็นฝ่ายตั้งรับข่าวเท็จจากกัมพูชา
ถามว่าทำไมรัฐบาลไทยจึงไม่ทำงานด้านการข่าวในเชิงรุกให้หนักหน่วงกว่าที่กำลังเป็นอยู่ ทำไมจึงตั้งใจให้ไทยอยู่ในฝ่ายรับมาโดยตลอด การที่รัฐบาลไทยไม่ทำงานเชิงรุก ไม่พยายามทำให้นานาชาติ ขอย้ำว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยเห็นชัดว่ารัฐบาลไทยไม่ตั้งใจทำงานอย่างจริงจังเพื่อรักษาเอกราชของชาติไทย และไม่ตั้งใจทำงานด้านการข่าวให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้เมื่อรัฐบาลด้อยประสิทธิภาพก็จึงไม่ต่างจากการที่รัฐบาลไทยจงใจปล่อยให้ชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือของไทยตกต่ำในสายตาชาวโลก
ประชาคมโลกที่ไม่โง่เขลาต่างรู้ดีว่าฮุนเซน แห่งกัมพูชามีความเลวทรามเพียงใด มีความเป็นเผด็จการอำนาจนิยมหนักหนาสาหัสเพียงใด แต่ขณะเดียวกันประชาคมโลกก็ประจักษ์ถึงความเลวทรามของทักษิณ ชินวัตร โดยเฉพาะในประเด็นทุจริตโดยอาศัยการมีอำนาจการเมืองเป็นเครื่องมือ แล้วยังทราบดีว่าการสู้รบกันระหว่างไทยกับกัมพูชาในขณะนี้เกิดมาจากความจงใจของฝ่ายฮุนเซนที่ต้องการแก้แค้นเอาคืนกับ ทักษิณ ชินวัตร
แต่ถึงแม้ฮุนเซนจงใจเปิดศึกกับฝ่ายไทยก่อน แต่ทักษิณและรัฐบาลไทยภายใต้คำบงการของทักษิณก็ไม่ได้ตอบโต้อย่างสมน้ำสมเนื้อ จนมีเสียงวิพากษ์ว่าทักษิณไม่กล้าตอบโต้กัมพูชาอย่างจริงจัง เพราะฮุนเซนยังกำความลับมืดดำของทักษิณ และคนเสื้อแดงอยู่ในมือของฮุนเซน
แต่ประชาชนไทยกำลังเฝ้าจับตามองว่าทักษิณจะมีข้อตกลงใดๆ กับฮุนเซนอีกหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ประชาชนไทยหมดหวัง สิ้นศรัทธากับทักษิณ แพทองธารและรัฐบาลไทยทั้งคณะ รวมถึงไม่มีศรัทธาใดๆ ให้กับฝ่ายค้านของไทย
คนไทยจำนวนไม่น้อยวิพากษ์วิจารณ์ และประณามรัฐบาลชุดปัจจุบันว่ามีตำแหน่งเป็นรัฐบาลไทย แต่ทว่ามีพฤติกรรมไม่ต่างจากขี้ครอกของทักษิณและฮุนเซน แล้วยังไม่รักษาผลประโยชน์ของไทย เพราะมัวแต่เกรงกลัวอิทธิพลของกัมพูชาที่มีเหนือคนของพรรคเพื่อไทย รัฐบาลที่มีพฤติกรรมดังกล่าวนี้คือรัฐบาลที่สมควรถูกประณามว่าเป็นคนไทยแต่เป็นทาสของกัมพูชา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี