แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn ความเจริญมั่นคงของส่วนรวมนั้นต้องอาศัยความเจริญมั่นคงของแต่ละบุคคลเป็นพื้นฐานสำคัญ ถ้าบุคคลอันเป็นองค์ประกอบของส่วนรวม ไม่มีความเจริญและมั่นคง ส่วนรวมจะเจริญและมั่นคงได้ยากยิ่งดังนั้น แต่ละคนจึงควรจะมุ่งสร้างความมั่นคงให้แก่ฐานะ และสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่การงานของตัวเป็นข้อแรกและข้อใหญ่...(ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 15 กรกฎาคม 2531)
...nn มีคำถามว่าพรรคเพื่อไทยจงใจสร้างความระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทหรือไม่ กับการที่จงใจทูลเกล้าฯ เรื่องยุบสภา ทั้งๆ ที่รัฐบาลชุดปัจจุบันไม่มีนายกรัฐมนตรีอีกต่อไปแล้ว หลังจาก แพทองธาร ชินวัตร ถูกคำพิพากษาโดยศาลรัฐธรรมนูญให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 เมื่อไม่มีนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป ก็หมายความว่าไม่ต้องมีนายกรัฐมนตรีรักษาการ แต่ยังคงมีคณะรัฐมนตรีรักษาการเท่านั้น เพราะฉะนั้น การที่ภูมิธรรม เวชยชัย อ้างว่าตนเองยังทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีจึงเป็นเรื่องพิสดารมาก ขอย้ำว่าประเทศไทยในยามนี้ไม่มีนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ภูมิธรรมยังคงเพ้อว่าตนเองยังทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี
...nn อย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญไทยกำหนดไว้ว่าการยุบสภาเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ โดยต้องมีผู้ทูลเกล้าฯ ถวายเรื่องให้ทรงยุบสภา แล้วก็ต้องมีผู้รับสนองพระบรมราชโองการยุบสภาด้วย ดังนั้น เมื่อไม่มีนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ไม่มีผู้ทำหน้าที่ทูลเกล้าฯ และรับสนองพระบรมราชโองการ ขอย้ำว่าภูมิธรรมไม่ใช่นายกรัฐมนตรี ดังนั้น ภูมิธรรมไม่มีสิทธิ์ทูลเกล้าฯ และไม่มีอำนาจรับสนองฯ ด้วย เพราะฉะนั้น ต้องย้ำๆๆ ว่าอย่าพยายามดึงฟ้าต่ำอีก เพราะเท่าที่ดูๆ นั้น สาธารณชนก็พอจะเข้าใจดีและเข้าใจตรงกันว่าเจ้าของพรรคเพื่อไทยมีพฤติกรรมทำนองดึงฟ้าต่ำมาแล้วหลายครั้ง
...nn อ้อ! มีอีกเรื่องที่สำคัญคือเรื่องราชกิจจานุเบกษาที่ไม่น่าจะเป็นความจริง โดยเฉพาะเรื่องที่มีนักการเมืองบางคนจากบางพรรคพยายามสร้างเอกสารเท็จเรื่อง ปัญญา อุดชาชนพ้นตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยพยายามสร้างความเท็จว่าปัญญาพ้นตำแหน่งเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 แต่เมื่อสาธารณชนได้เห็นราชกิจจานุเบกษาตัวจริงที่ระบุว่า ปัญญา พ้นตำแหน่งวันที่ 30 สิงหาคม ก็หมายความว่าต้องมีคนคนหนึ่ง(ที่หลายคนบอกตรงกันว่าเป็นนักการเมืองจากพรรคพรรคหนึ่ง) จงใจปลอมราชกิจจานุเบกษา เพื่อหวังให้เกิดความสับสนและจงใจให้เกิดการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท คำถามคือทำไมตำรวจ หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่ทำความจริงเรื่องนี้ให้กระจ่างไม่มีปัญญาทำความจริงเรื่องนี้ให้ปรากฏ ทำไมปล่อยให้คนที่ตั้งใจสร้างเอกสารเท็จลอยนวลอยู่ได้
...nn ในที่สุด อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ได้รับเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งจากจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดให้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 โดยอนุทินได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชนด้วย แต่ก็มีความพิสดารตรงที่พรรคประชาชนไม่ยอมรับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ โดยอ้างว่าจะขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาต่อไป เพราะต้องการกดดันให้รัฐบาลใหม่ที่มีพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำต้องทำตามคำสัญญาที่ให้กับพรรคประชาชน โดยเฉพาะการประกาศยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้ง สส. ใหม่หลังจากรัฐบาลอนุทินทำงานได้ครบ 4 เดือน และยังมีเงื่อนไขอื่นๆ เช่น ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เป็นต้น
...nnเหตุผลที่พรรคประชาชนเลือกสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยก็เพราะว่า สส. ของพรรคภูมิใจไทยมีจำนวนไม่มากจนเกินไป คือมีเสียงเพียง 70 เสียง ดังนั้นหากภูมิใจไทยบิดพลิ้วไม่ทำตามสัญญา พรรคประชาชนก็สามารถล้มรัฐบาลผสมที่นำโดยภูมิใจไทยได้ด้วยการเปิดอภิปรายตามมาตรา 151 ขอย้ำว่าการเมืองไทยในยุคใหม่นี้แสนประหลาดมาก เพราะพรรครัฐบาลตกอยู่ใต้อำนาจชี้นำของพรรคที่ประกาศตัวเป็นพรรคฝ่ายค้าน แต่ก็ต้องถามกลับว่า แล้วตกลงพรรคประชาชนเป็นพรรคฝ่ายค้านจริงหรือ แต่จะเป็นฝ่ายค้านได้อย่างไร ในเมืองพรรคประชาชนสนับสนุนให้ภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แบบนี้ไม่เรียกว่าพิสดารพันลึกแล้วจะให้เรียกอะไรมิทราบ แล้วก็ต้องถือว่าเรื่องแบบนี้ไม่เคยมีในตำรารัฐศาสตร์บนโลกมนุษย์มาก่อน แต่ได้บังเกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย ในยุคที่พรรคฟันน้ำนม (หมายถึงพรรคเด็กละอ่อน) มีอำนาจควบคุมพรรคฟันปลอม (พรรคคนแก่เขี้ยวลากดิน)
...nn ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทยอยากมีชีวิตแสนหรูอยู่ในอำนาจรัฐมากมายเสียจนถึงขนาดยอมบากหน้าไปพบปะกับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เจ้าของพรรคประชาชน (แต่บางคนบอกว่าเป็นผู้นำจิตวิญญาณของพรรคประชาชน) ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าทักษิณเคยประกาศก้องพร้อมเสียงเย้ยหยันหยามเหยียดบนเวทีหาเสียงที่ภาคเหนือ โดยเอ่ยวาจาปรามาสเหยียดเย้ยพรรคประชาชนว่าเป็นพวกละอ่อนฟันน้ำนม ไร้เดียงสา พรรคเพื่อไทยไม่มีวันร่วมทำงานกับพรรคประชาชน เพราะฉะนั้น พรรคประชาชนไม่ต้องหวังจะได้ทำงานกับพรรคเพื่อไทย แต่แล้วสุดท้ายทักษิณก็ต้องก้มลงใช้ลิ้นเลียน้ำลายของตนที่ถ่มลงพื้นเพราะต้องการดูถูกพรรคประชาชน แต่ทว่าน้ำลายของทักษิณถูกพรรคประชาชนเหยียบไปแล้ว แต่ถึงกระนั้นทักษิณก็ยังยอมเลียน้ำลายที่อยู่ใต้เบื้องบาทาพรรคประชาชน
...nn ปิดท้ายด้วยการเตือนสติอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ล่าสุดว่า อย่าลืมนะหนู คนเรานั้นมีโอกาสดีๆ ในชีวิตไม่กี่ครั้งนักหรอก บางคนมีโอกาสครั้งเดียวเท่านั้น แต่บางคนอาจมีโอกาสดีๆ 2-3 ครั้ง แต่สำหรับกรณีของหนู-อนุทินนั้นไม่แน่ใจหรอกว่าจะมีโอกาสดีกี่ครั้ง แต่ที่แน่ๆ เมื่อมีโอกาสทำดีเพื่อประเทศชาติและเพื่อคนไทย รวมถึงสร้างเกียรติภูมิให้กับตนเองและโคตรเหง้าศักราชของตนแล้ว ก็ต้องทำความดีให้ปรากฏให้บังเกิด เพราะฉะนั้น หวังว่าการตั้งคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลหนู-อนุทิน ที่อาจจะมีอายุ 4 เดือน แต่อาจจะขยายไปได้ยาวถึง 9 เดือน จึงควรจะเลือกสรรรัฐมนตรีว่ากระทรวงต่างๆ ให้ดีที่สุด ขอให้เลือกคนดี มีปัญญามีความสามารถ มีความละอาย และต้องไม่เลือกสิ่งมีชีวิตจำพวกขายแป้งมัน (แต่เป็นแป้งมันที่ออสเตรเลียห้ามเข้าประเทศตลอดชีวิต) ขายตัว ขายชาติ ขายศักดิ์ศรีให้เข้าไปรับตำแหน่งรัฐมนตรี แต่หาก หนู-อนุทิน อยากจะหล่อแบบชนิดที่ว่าหล่อตลอดกาล แม้ตัวเองตายไปแล้ว ความหล่อก็ยังถูกจดจารึกไว้ตลอดไป หนู-อนุทิน ก็ต้องให้คนดีมีฝีมือแท้ๆไปทำหน้าที่รัฐมนตรีกระทรวงสำคัญ เช่น คลัง การต่างประเทศ พาณิชย์ กลาโหม แล้วก็ต้องไม่ลืมกระทรวงอุดมศึกษาฯกระทรวงศึกษาฯ และกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ด้วย เพราะรากฐานการศึกษาที่ดีคือรากฐานที่มั่นคงของประเทศ ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวฯ หากได้คนดีมีฝีมือมีสติปัญญาไปบริหารวางนโยบายเจ๋งๆ ก็รับรองว่าจะช่วยสร้างรายได้ให้ประเทศได้โดยเร็ว เพราะเมืองไทยมีทรัพยากรการท่องเที่ยวอุดมสมบูรณ์มากที่สุด แต่ขาดเพียงรัฐมนตรีที่มีปัญญามีวิสัยทัศน์ไปวางนโยบายและผลักดันให้นโยบายเกิดผลจริง...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี