วันนี้วันที่ 5 กันยายน..จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่..ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร..ซึ่งพรรคเพื่อไทยยังไม่ลดละที่จะให้พรรคประชาชนถอนการตัดสินใจ..จากการที่จะโหวตนายอนุทิน ชาญวีรกูล..หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย..และแคนดิเดตนายกรัฐมนนตรีของพรรคภูมิใจไทย..เป็นนายกรัฐมนตรี..เปลี่ยนมาเป็นนายชัยเกษม นิติสิริ..แคนดิเดตนายกรัฐมนนตรี ของพรรคเพื่อไทย
ฟังเสียงจากชาวบ้านแล้ว..ชาวบ้านบอกว่า...พรรคเพื่อไทยนั้นมีแต่นักการเมืองปลิ้นปล้อนไร้ศีลไร้สัตย์..ประเภทที่เมื่อวานพูดอย่างวันนี้พูดอย่าง..เล่นการเมืองเพื่อการเมือง..โดยเฉพาะเพื่อผลประโยชน์ของเจ้าของคอกที่ชื่อ“ทักษิณ ชินวัตร”เท่านั้น
และเมื่อเย็นวันที่ 4 กันยายนเมื่อวานนี้ ก็มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่การท่าฯสนามบินดอนเมือง..ร่วมกับ ตม.ตรวจพบ“ทักษิณ ชินวัตร”..ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง..นัดฟังคำพิพากษาคดี“ป่วยทิพย์-ชั้น 14”..และมีแนวโน้มว่าจะต้องกลับไปติดคุก..อยู่ในเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวพร้อมทีมงาน..อ้างว่าจะเดินทางไปอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์..ก่อนถูกตรวจยึดหนังสือเดินทาง..และถูกควบคุมตัวอยู่ภายในสนามบิน
จากนั้นในเวลาต่อมาได้รับการปล่อยตัว..เนื่องจากหนังสือเดินทางของ“ทักษิณ ชินวัตร”ถูกต้อง..และพ้นคำสั่งที่จะต้องขออนุญาตต่อศาลในการเดินทางออกนอกประเทศ..เพราะศาลชั้นต้นได้ยกฟ้องคดีความผิดมาตรา 112 ไปแล้ว..โดย“ทักษิณ”แจ้งว่าจะเดินทางไปสิงคโปร์ 2 วัน..เพื่อพบแพทย์และตรวจร่างกาย..และจะกลับมาฟังคำพิพากษาในวันที่ 9 กันยายน..ก็คงต้องดูกันต่อไปว่า“สัจจะมีในหมู่โจร”หรือไม่..ซึ่งไปแล้วจะไปลับเหมือนเผ่นหนีในปี 2551 หรือไม่
อย่างไรก็ตาม..สำหรับการโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น..การที่พรรคเพื่อไทยถูกปฏิเสธจากพรรคประชาชน..ซึ่งอุตส่าห์แบกหน้าไปขอเสียง พร้อมทั้งยอมรับเงื่อนไทยทุกประการของพรรคประชาชนนั้น..คงเป็นเพราะพรรคประชาชนเมื่อครั้งยังเป็นพรรคก้าวไกล..เคยถูกพรรคเพื่อไทยหักหลังมาแล้ว..จากการฉีก“MOU”เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคก้าวไกลในปี 2566..จึงรู้สึกเข็ด..เลยมาสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล..เป็นนายกรัฐมนตรี
และก็ด้วยเหตุนี้เอง..พรรคเพื่อไทยจึงใช้“วิชามาร”ชิงยุบสภาฯ..โดยการนำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯขึ้นทูลเกล้าฯ..เพื่อสกัดไม่ให้“อนุทิน ชาญวีรกูล”เป็นนายกรัฐมนตรี..เพราะพรรคภูมิใจไทยจะเป็นคู่แข่งสำคัญทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย..ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
แต่พรรคเพื่อไทยก็ต้องฝันสลาย..เพราะสำนักงานองคมนตรีตีกลับร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ..เนื่องจากพิจารณาเห็นว่า..“ภูมิธรรม เวชยชัย”ในฐานะนายกรัฐมนตรีรักษาการ..ไม่มีอำนาจในการทูลเกล้าฯถวายร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ..จึงเป็นอันว่า..เป้าหมายที่พรรคเพื่อไทยคิดจะใช้การยุบสภาฯสกัดคู่ต่อสู้..ไม่สามารถไปต่อได้
นอกเหนือจากนั้น..“ภูมิธรรม เวชยชัย”ก็ยังได้คดีติดตัวมาด้วยอีก 2 คดี..คือ..คดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157..ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ..จากการใช้อำนาจเกินขอบเขต..ยื่นทูลเกล้าฯขอพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ..และอีกหนึ่งคดี..เป็นความผิดตามมาตรา 112..ฐานกระทำการอันมิบังควร..และส่อเจตนาดึงสถาบันเบื้องสูงมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง
ทั้ง 2 คดีดังกล่าว..แม้คดีความผิดตามมาตรา 157..ซึ่งนายศุภชัย ใจสมุทร ประธานที่ปรึกษากฎหมายพรรคภูมิใจไทย..จะไปแจ้งความดำเนินคดีนายภูมิธรรม เวชยชัย..ที่ สน.ดุสิต เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา..และได้มีการถอนแจ้งความเมื่อวันที่ 4 กันยายนเมื่อวานนี้แล้วก็ตาม
เช่นเดียวกับคดีความผิดมาตรา 112..ซึ่งนายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปไตยใหม่..และนายไทกร พลสุวรรณ..นักเคลื่อนไหวทางการเมือง..ได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)..กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.)..เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา..ก็ได้มีการถอนแจ้งความแล้ว
ทั้งนี้..การถอนแจ้งความดังกล่าว..ก็เพื่อรักษาไมตรีกับพรรคประชาชน..ที่เรียกร้องให้มีการถอนคดี..โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ..หัวหน้าพรรคประชาชน..อ้างว่าเพื่อสร้างบรรยากาศในการหาทางออกให้กับประเทศ..ไม่เห็นด้วยกับการที่จะใช้กฎหมายเป็นการกลั่นแกล้ง..หรือใช้เป็น“นิติสงคราม”..แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าคดีความที่ติดตัวนายภูมิธรรม เวชยชัย..จะหมดไป..เพราะยังมีบุคคลอื่นอีกหลายคนที่แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับนายภูมิธรรมไว้..และยังไม่ได้มีการถอนแจ้งความ
อย่างไรก็ตาม..สำหรับการโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น..มาถึงขนาดนี้แล้ว..แทนที่พรรคเพื่อไทย..โดยเฉพาะ“ภูมิธรรม เวชยชัย”จะหยุด..เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชนดำเนินกันไปตามครรลอง..กลับกลายเป็นว่า..พรรคเพื่อไทยยังแสดงตนที่“จะเอาให้ได้”..ทั้งกดดันและเสนอทางเลือกใหม่เหมือน“โปรสินค้าใหม่”..เพื่อล่อใจให้พรรคประชาชน..เปลี่ยนมาโหวตให้นายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี..คือ..ถ้าโหวตนายชัยเกษมเป็นนายกรัฐมนตรี..ก็จะประกาศยุบสภาทันที
“โปรใหม่”ที่ว่านั้น..นายภูมิธรรม เวชยชัย..ซึ่งเวลานี้ขาได้เข้าไปอยู่ในคุกข้างหนึ่งแล้ว..จากการทูลเกล้าฯพระราชกฤษฎีกายุบสภาดังที่กล่าวไว้..ได้โพสต์ส่งเสริมการขายในเฟซบุ๊ก“Phumtham Wechayachai”..เมื่อวันที่ 4 กันยายนวานนี้..เป็นแถลงการณ์ฉบับที่ 2 โดยจั่วหัวว่า..“เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย”..ซึ่งมีเนื้อหาหลัก 3 ประเด็น
ประเด็นแรก..นายภูมิธรรม เวชยชัย..โพสต์ข้อความว่า “พรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่า..จะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย..และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว..ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน..ให้ประชาชนได้เห็นว่า..กลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ”
ประเด็นต่อมา..จะเรียกกว่าเป็น“โปรใหม่”หรือทางเลือกใหม่ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย..หยิบยื่นมาล่อพรรคประชาชน..และเรียกคะแนนนิยมจากประชาชนพร้อมกันไปด้วย..มีเนื้อหาตามนี้ “สำหรับพรรคเพื่อไทย..เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ..เป็นนายกรัฐมนตรี..และขอยืนยันต่อประชาชนว่า..หากเราได้รับเสียงสนับสนุน..เราจะประกาศยุบสภาทันที..ไม่รอครบกำหนด 4 เดือน..เพื่อให้ประเทศเดินหน้าอย่างรวดเร็ว..และคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินอนาคตประเทศด้วยมือของตนเอง”
ประเด็นสุดท้าย..ทั้งที่นายภูมิธรรม เวชยชัย..เพิ่งจะอ้างเหตุผลในการยุบสภาฯว่า.. “ขณะนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น..ระบบประชาธิปไตยมันบิดเบี้ยว..ไม่เป็นไปตามครรลองที่ควรจะทำ”ก็ตาม..แต่นายภูมิธรรมได้พลิกลิ้นตามที่โพสต์ไว้อย่างนี้..“เรายังคงหวังให้กระบวนการประชาธิปไตยสามารถเดินหน้าได้อย่างสง่างาม..ให้สภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรีตามเอกสิทธิ์อย่างเต็มที่..และกำหนดทิศทางของประเทศไทยอย่างแท้จริง”
และเพื่อเป็นการยืนยันว่า..“โปรใหม่”ที่จะลดแลกแจกแถมแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์นั้น..เมื่อวันที่ 4 กันยานเมื่อวานนี้..เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย..ได้นำคลิปวิดีโอที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ..นั่งแถลงข่าว..พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย, นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไททย, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ และนางสาวจิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย..ออกเผยแพร่สู่สาธารณะ
โดยนายชัยเกษม นิติสิริ...ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า..“สวัสดีครับพี่น้องประชาชน..และท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพ..กระผมนายชัยเกษม นิติสิริ..แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย..ขอยืนยันว่า..พรรคเพื่อไทยตอบรับข้อเสนอทุกข้อของพรรคประชาชน..และหากกระผมได้รับการลงคะแนนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี..จะยุบสภาทันที..โดยไม่ต้องรอเวลาถึง 4 เดือน..เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเข้าสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยต่อไป..กระผมขอยืนยันอีกครั้งว่า..นี่คือสัญญาที่ทำไว้ต่อพี่น้องประชาชน..และท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน..ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาล..จะปฏิบัติตามข้อตกลงนี้..โดยไม่มีข้อเปลี่ยนแปลง..ไม่มีเงื่อนไขเพิ่มเติมใดๆ"
จับตาดูกัน..วันนี้ถ้าเป็นหนังบู๊ลิ้มกำลังภายใน..คนที่จะโชกเลือดคาห้องประชุม“พระสุริยัน”ในสัปปายะสภาสถาน..ก็เห็นจะเป็นนายชัยเกษม นิติสิริ..ที่ถูกพรรคเพื่อไทยลากขึ้นสู่ลานประหารในครั้งนี้
ผู้ที่แกร่งและเข้มแข็งกว่า..ย่อมเป็น“อนุทิน ชาญวีรกูล”..ที่จะเดินออกจาก“ห้องพระสุริยัน”..เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี