แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...■■ ผู้ที่ควรแก่นามว่า “บัณฑิต” นั้น นอกจากความรู้ความสามารถแล้ว ยังต้องมีผู้มีจิตใจสูง มีศีลมีธรรม มีสติสัมปชัญญะ อดทน อดกลั้นประพฤติแต่ในสิ่งที่ชอบที่ควร วางตนให้สมเกียรติ เป็นผู้ที่ควรแก่การนับถือเป็นแบบอย่าง... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 26 มิถุนายน 2495)
...■■ ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญมากมายหลายฉบับจนทำให้บังเกิดความมหัศจรรย์ผสมความน่าสมเพช จาก 2475 ถึงปัจจุบัน ไทยมีรัฐธรรมนูญมาแล้ว 20 ฉบับ แต่ที่สุดๆ คือรัฐธรรมนูญบางฉบับมีอายุการใช้งานแสนสั้นเพียง 1-2 ปี เรียกว่าอายุสั้นกว่ากางเกงหรือถุงเท้าของคนจำนวนมากในประเทศนี้เสียอีก สาเหตุที่ไทยมีรัฐธรรมนูญมากมายหลายฉบับ เพราะมีการรัฐประหารบ่อยมาก คือมีมาแล้ว 13 ครั้งที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ แต่มีอีกสามครั้งที่พยายามทำแต่ไม่สำเร็จ คือปี 2494 กบฏแมนฮันตัน ปี 2520 โดย ฉลาด หิรัญศิริ ปี 2524 กบฏยังเติร์ก และปี 2528 โดยทหารนอกราชการกลุ่มหนึ่ง แต่ก็น่าสนใจมากที่ผู้ทำรัฐประหารบ่อยๆ คือ แปลก พิบูลสงคราม สฤษดิ์ ธนะรัชต์ และสงัด ชลออยู่
...■■ ไทยคือประเทศที่ถูกโลกบันทึกว่าเป็นประเทศที่ทำรัฐประหารมากเป็นอันดับสามของโลก โดยอันดับหนึ่งคือโบลิเวีย ซีเรีย ไทย เฮติ และบูร์กินาฟาโซ ดูสถิติการทำรัฐประหารในไทยแล้วไม่รู้ว่าจะเสียใจหรือดีใจ แต่ที่แน่ๆ คือไทยอยู่ในกลุ่มประเทศเดียวกับชาติด้อยพัฒนาในเรื่องการทำรัฐประหาร
...■■ มูลเหตุของการรัฐประหารในไทยคือทหาร เพราะทหารเป็นผู้ทำรัฐประหาร แต่ต้นเหตุของการรัฐประหารในไทยมีหลายหลาก แต่ที่เห็นใช้อ้างกันบ่อยๆ ก็คือนักการเมืองทุจริตคอร์รัปชั่นโกงบ้านกินเมือง แต่เมื่อทำรัฐประหารแล้วก็ไม่เห็นว่าจะสามารถทำลายล้างขุดรากถอนโคนนักการเมืองโกงบ้านกินเมืองได้สำเร็จ แต่ที่น่าสังเวชยิ่งกว่าคือผู้ทำรัฐประหารดันไปจับมือกับนักการเมืองโกงชาติ เพื่อให้นักการเมืองทำตัวเป็นนั่งร้านให้ผู้ทำรัฐประหารเสวยอำนาจรัฐ หากไม่เชื่อก็ลองดูรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ในสมัยที่สองที่ยอมให้นักการเมืองที่ตนเองประกาศประจานประณามว่าเป็นตัวเลวร้ายเข้าไปร่วมเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลประยุทธ์
...■■ มีผู้ตั้งคำถามว่านักการเมืองไทยจำพวกเลวทรามสามานย์มีมากมายก็จริง แต่เราจะทำอย่างไรจึงจะกำจัดพวกมันให้สิ้นซากได้ ประชาชนลุกขึ้นร่วมตัวประท้วงขับไล่มันก็ไม่ไป ไล่มันนานหลายเดือน มันก็ไม่ยอมไป สุดท้ายก็จบด้วยการทำรัฐประหาร ทำรัฐประหารเสร็จก็กลายเป็นได้นักรัฐประหารร่วมผสมพันธ์ุกับนักการเมืองโกงบ้านกินเมือง แล้วก็จบลงที่รัฐประหารเช่นเดิม นี่คือวงจรอุบาทว์โดยแท้ เมื่อไรวงจรนี้จะจบสิ้นสูญหายไปจากประเทศไทย
...■■ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 5 ต่อ 2 มีมติให้ทำประชามติ 3 ครั้ง ก่อนร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยเรื่องนี้มีมูลเหตุจากประธานรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปัญหาที่เกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของรัฐสภา ทั้งนี้ เปรมศักดิ์ เพียยุระสว. และวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ร่วมเสนอเรื่องให้รัฐสภาพิจารณาโดยส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป และแล้วศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำวินิจฉัยว่ารัฐสภามีอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนทำประชามติว่าสมควรร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ โดยมีรายชื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 5 คน คือ นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นภดล เทพพิทักษ์ จิรนิติ หะวานนท์ วิรุฬห์ แสงเทียน และอุดม สิทธิวิรัชธรรม ส่วนเสียงข้างน้อยคือ สุเมธ รอยเจริญกุล และ บรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์
...■■ ส่วนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีความเห็น 6 ต่อ 1 ในประเด็นต้องทำประชามติสามครั้งหรือไม่ โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อยคือ อุดม สิทธิวิรัชธรรม มีความเห็นว่าทำประชามติเพียง 2 ครั้ง สำหรับประเด็นการทำประชามติครั้งที่หนึ่งคือสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ครั้งที่สองประเด็นวิธีการทำรัฐธรรมนูญ และเนื้อหาสำคัญ และครั้งที่สามคือเมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ถามประชาชนว่าเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ทั้งนี้การทำประชามติประเด็น 1 และ 2 สามารถทำพร้อมกันได้ในคราวเดียวกัน
...■■ วันนี้ก็ยังคงต้องย้ำเหมือนเดิมว่ายังไม่เห็นโฉมหน้าค่าตาที่แท้จริงของรัฐมนตรีในรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล (เพราะขณะที่ส่งต้นฉบับยังไม่มีประกาศชัดเจนว่าใครเป็นรัฐมนตรีบ้าง) การที่ยังไม่ประกาศชื่อรัฐมนตรีให้ชัดแจ้ง น่าจะมาจากการเกลี่ยตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ลงตัว และอาจจะมาจากการตรวจสอบคุณสมบัติของคนที่อยากเป็นรัฐมนตรีเป็นเรื่องสุดโกลาหล เพราะบางคนที่กระสันจะเป็นรัฐมนตรีนั้นมีเบื้องหลังสุดโสโครก บางคนก็ถูกระบุว่าค้ายาเสพติดในต่างประเทศ บางคนก็มีพฤติกรรมเจ้าพ่อมาเฟียบางรายก็มีพฤติกรรมเน่าหนอนฉาวโฉ่ เมื่อคนเน่าๆ ฉาวโฉ่อยากเป็นรัฐมนตรีก็จึงต้องตรวจสอบคุณสมบัติกันนานเป็นพิเศษ เพราะหากพลาดไปละก็รับรองได้เลยว่าอนุทินจะเละไม่ต่างจาก เศรษฐา ทวีสิน
...■■ มีเสียงวิจารณ์ว่าดูๆ ไปแล้วคล้ายๆ กับว่าอนุทินเน้นสร้างภาพรัฐมนตรีคนนอกมากกว่าการเน้นเรื่องความสามารถโดยแท้ของบุคคล เพราะการมีชื่อของคนบางคนที่อยู่ในแวดวงธุรกิจเอกชนแล้วจะให้ไปกินตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น มิใช่ว่าคนทำงานเอกชนอะไรก็ได้จะมีปัญญาเป็นรัฐมนตรีที่มีความสามารถ อย่าคิดว่าคนทำงานเอกชนในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงจะมีความสามารถเป็นรัฐมนตรีตำแหน่งอะไรก็ได้ เพราะคนทำงานเอกชนในแต่ละสาขาจะมีความชำนาญต่างกันไป เพราฉะนั้นขอเตือนอนุทินว่าเลือกคนให้ดี ให้เหมาะโดยเน้นคุณสมบัติการทำงาน อย่าเน้นแค่หน้าตา อย่าเน้นแค่ภาพลักษณ์ภายนอก เพราะบางคนนั้นภาพภายนอกดูดี แต่เนื้อในเน่าหนอนไม่ต่างไปจากนักการเมืองเลวๆ
...■■ การประท้วงอย่างรุนแรงแล้วกลายเป็นจลาจล โดยประชาชนที่ไม่พอใจนักการเมืองและรัฐบาลที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซีย เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์กว่าๆ ที่ผ่านมา และที่เนปาลที่เกิดขึ้นเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา คือเครื่องเตือนใจนักการเมืองไทยให้พึงสำเหนียกไว้ว่า อย่าปรามาส อย่าประมาทกำลังของประชาชนพลเมือง และเตือนให้นักการเมืองรู้ไว้ว่าอย่าใช้อำนาจรัฐกระทำย่ำยีประชาชนพลเมือง อย่าลิดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้คนที่ตนเองคิดว่าพวกเขาคือลูกไก่ในกำมือ อย่าคิดว่าตนเองเป็นรัฐบาลและเป็น สส. แล้วจะทำอะไรก็ได้ตามความบ้าบอไร้สติ แล้วคิดเอาเองว่าประชาชนพลเมืองไม่มีอำนาจต่อต้าน แต่จงจำไว้ว่าเมื่อประชาชนผู้ร่วมเป็นเจ้าของประเทศไม่พอใจพฤติกรรมไร้สาระของนักการเมืองและรัฐบาลแล้ว จะไม่มีอำนาจใดทัดทานพละกำลังมหาศาลของประชาชนได้
...■■ มีข้อมูลว่ารากเหง้าของการประท้วงอย่างรุนแรงจนกลายเป็นจลาจลในเนปาลเกิดมาจากคนหนุ่มสาวประสบปัญหาไร้งานทำ อัตราการว่างงานสูงมาก และยังมีความไม่พอใจอันเกิดมาจากเหตุที่พบเห็นเป็นประจำว่านักการเมือง ข้าราชการก่อการทุจริตคอร์รัปชั่นสูงมาก แต่ไม่มีการลงโทษคนทำผิดอย่างจริงจัง ปล่อยให้คนโกงบ้านกินเมืองลอยนวลแล้วก่อเหตุทุจริตอย่างซ้ำซาก หนุ่มสาวชาวเนปาลบอกว่าหางานทำในประเทศยากเย็นเข็ญใจมาก จึงต้องออกไปทำงานนอกประเทศ โดยเฉพาะไปหางานทำในประเทศตะวันออกกลาง และมีเสียงวิพากษ์ว่าคนชั้นสูงนักการเมือง และข้าราชการระดับสูงทำเรื่องทุจริตร้ายแรงแต่ไม่เคยถูกลงโทษอย่างจริงจัง และคนกลุ่มดังกล่าวนั้นก็สะสมเงินทอง ทรัพย์สินต่างๆ ไว้มากมาย ในขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ประสบปัญหายากจนอย่างหนัก
...■■ ปิดท้ายด้วยเรื่องตลกแบบน่าสมเพชกับข่าว ทักษิณ ชินวัตร จากนักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดินในอดีตจนบัดนี้ข่าวบอกว่ายอมติดคุก ย้ำว่ายอมติดคุกหลังจากหนีคดีไปเกือบ 20 ปี แถมยังอ้างว่าตนเองทำดีสารพัดสารพันกับบ้านเมืองนี้ แต่คำถามคือทำดีแล้วติดคุกได้อย่างไร อ้างว่าทำดีสารพัดเรื่อง แต่ไม่ยอมรับเรื่องทำไม่ดีสารพัดสารพันกับบ้านเมือง อันที่จริงหากนำความดีกับความไม่ดี หรือความเลวของทักษิณมาวางเรียงกัน ก็จะตอบได้โดยพลันว่าเขาทำเลวมากกว่าทำดี หรือทำดีมากกว่าทำเลว เรื่องแบบนี้วัดกันได้ไม่ยาก เห็นกันชัดๆ ว่าเลวมากกว่าดี หรือดีมากกว่าเลว ส่วนที่ลูกสาวทักษิณ คือแพทองธารบอกว่าพ่อตนเองดีสารพัดดี ก็ต้องบอกว่าเป็นเพียงความเห็นของลูกที่มีต่อพ่อ แต่คนอื่นๆ เขาไม่ได้มองเหมือนแพทองธารมองทักษิณ แต่ก็ไม่ว่าอะไร หากแพทองธารจะยื่นยันว่าพ่อของเธอดีเด่นแสนวิเศษ แต่ต้องไม่ลืมว่าพ่อเธอนั้นหนีคดีอาญาแผ่นดินไปเกือบ 20 ปี ความผิดที่ต้องถูกจำคุก 10 ปี ลดเหลือ 8 ปี แล้วได้รับพระราชทานอภัยโทษเหลือจำคุก1 ปี แต่พ่อเธอยังไม่ยอมเข้าคุกตั้งแต่ปี 2566 จนสุดท้ายยอมเข้าคุกในวันนี้ แต่ก็มีคำถามจากสาธารณชนว่าเวลาทักษิณเข้าคุกนั้น เขาเข้าคุกจริงๆ หรือเปล่า คนคุมคุกปฏิบัติต่อทักษิณเฉกเช่นเดียวกับปฏิบัติต่อนักโทษคนอื่นๆ หรือเปล่า แล้วก็มีเสียงจากสาธารณชนบอกว่า อย่าให้รู้เป็นอันขาดนะว่าทักษิณไม่ได้ติดคุกจริงๆ หากรู้ละก็มีหวังประเทศไทยเดือดลุกเป็นไฟไม่ผิดจากเนปาล...■■
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี