วันศุกร์ ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิด เขียน คุย
คิด เขียน คุย

คิด เขียน คุย

รุ่งเรือง ปรีชากุล
วันศุกร์ ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
‘ทวี สอดส่อง’ติดร่างแห‘ทักษิณ’ป่วยทิพย์ชั้น 14

ดูทั้งหมด

  •  

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชการที่9 ทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทไว้เป็นหลักคิด เพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาชาติบ้านเมือง เกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริตว่า

“ในบ้านเมืองนี้มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทําให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทําให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทําให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอํานาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”


เรื่องราวของนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร เป็นอุทาหรณ์ ที่สามารถยกขึ้นมาเทียบเคียงเป็นตัวอย่างได้ว่า นอกจาก“ทักษิณ”จะเป็นคนไม่ดีเพราะประพฤติทุจริตต่อหน้าที่และศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกแล้ว “ทักษิณ”ก็ยังชักนำและสนับสนุนให้ข้าราชการในกรมราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เป็นคนไม่ดีตามไปด้วย

ทั้งนี้ สามารถยืนยันและอ้างอิงจากคำวินิจฉัยของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่บังคับโทษเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สั่งให้“ทักษิณชินวัตร”กลับเข้าไปติดคุกนับหนึ่งใหม่ในเรือนจำเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งศาลระบุไว้ดังนี้

“การบังคับโทษจำคุกจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยทราบข้อเท็จจริงหรือรับรู้เหตุการณ์ได้ว่า ตนไม่ได้ป่วยวิกฤติฉุกเฉิน แต่จำเลยมีเพียงโรคประจำตั ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่รักษาตัวแบบผู้ป่วยนอกได้ โดยไม่จำเป็นต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เพราะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและสภาวะร่างกายของจำเลยเอง นอกจากนั้นยังได้ความว่า จำเลยเข้ามามีส่วนตัดสินใจในกระบวนการรักษาของแพทย์ โดยปฏิเสธการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจและโรคกระดูกคอกดทับไขสันหลังและเส้นประสาท แต่ให้แพทย์รักษาโดยการรับประทานยาตามอาการ และเลือกรับการผ่าตัดนิ้วล็อกและเอ็นหัวไหล่ขวา ซึ่งไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน และเป็นผลทำให้การรักษาตัวจำเลยในโรงพยาบาลตำรวจ ขยายระยะเวลาออกไป”

โกหกแรกจากข้าราชการที่น่าจะเป็นคนดี แต่ต้องกลายเป็นคนไม่ดีเพราะเวลานี้กำลังถูกสอบสวนคือ ข้าราชการในกรมราชทัณฑ์ ตั้งแต่นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เมื่อครั้งเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาการอธิบดีกรมราชทัณฑ์, นายสิทธิสุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์,นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายนัสทีทองประหลาด เมื่อครั้งเป็นผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครปัจจุบันเกษียณราชการแล้ว เป็นต้น

บุคคลเหล่านี้ มีส่วนในการส่งตัว“ทักษิณ ชินวัตร”ออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำแบบ“ฉุกเฉิน” ในคืนวันที่ 22 สิงหาคมต่อเช้าวันที่ 23 สิงหาคม 2566 โดยอ้างเหตุผลจากการแถลงข่าวในวันรุ่งขึ้นว่า “ทักษิณ”มีอาการนอนไม่หลับ,แน่นหน้าอก,วัดความดันโลหิตสูง และระดับออกซิเจนปลายนิ้วต่ำ แต่คำวินิจฉัยของของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568ชี้ว่า จำเลยคือ“ทักษิณ”ไม่ได้มีอาการแน่นหน้าอก แต่อ้างว่ามีอาการแน่นหน้าอก เพื่อให้เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ใช้เหตุดังกล่าวเป็นข้ออ้างในการส่งตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ

โกหกต่อมา ข้าราชการที่น่าจะเป็นคนดี แต่ต้องกลายเป็นคนไม่ดี เพราะไปเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ“ทักษิณ ชินวัตร” จะด้วยการชักจูงชี้นำสั่งการหรืออะไรก็แล้วแต่ ต้องเป็นหน้าที่ของป.ป.ช.ที่จะสรุปสำนวน นั่นก็คือ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เมื่อครั้งเป็นนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อในวันที่ 23 สิงหาคม 2566ว่า “ทักษิณ”ถูกนำตัวมาที่โรงพยาบาลตำรวจด้วยรถราชทัณฑ์ เนื่องจากมีความดันโลหิตสูงถึง 170 มิลลิเมตรปรอท โดยมีการนำตัวไปชั้น 14 ทันที พร้อมทั้งชี้แจงว่า

“ได้ตั้งคณะแพทย์รักษา ประกอบด้วยแพทย์เชี่ยวชาญด้านหัวใจ, ปอด และ โควิด19 ขณะนี้แพทย์ให้น้ำเกลือและยังต้องสอดสายออกซิเจนช่วยหายใจ ขณะที่ความดันยังอยู่ในระดับสูง มีอาการเหนื่อยหอบ แต่ยังพอสื่อสารได้ ซึ่งแพทย์ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด และสั่งงดเยี่ยมทุกกรณี”

ในประเด็นนี้ คำวินิจฉัยของศาลฯเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 ชี้ว่า อาการของจำเลยตามที่ระบุในเวชระเบียนของโรงพยาบาลตำรวจนั้น โรงพยาบาลราชทัณฑ์สามารถดูแลจำเลยคือ“ทักษิณ ชินวัตร”ได้ตั้งแต่วันรุ่งขึ้น คือวันที่24 สิงหาคม 2566 ซึ่งศาลฯไอ้อ้างคำเบิกความของ พ.ต.อ.ชนะ จงโชคดี นายแพทย์(สบ 5) โรงพยาบาลตำรวจ แพทย์เจ้าของไข้ ที่ยืนยันว่า อาการของจำเลยตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2566 จำเลยสามารถกลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ และพ.ต.อ.ชนะ ก็เป็นหนึ่งใน 12 ข้าราชการประจำที่กำลังถูก ป.ป.ช.ไต่สวนคดีเพื่อชี้มูลอยู่ในเวลานี้

ด้วยเหตุนี้ คำวินิจฉัยของของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงชี้ว่า “อาการแน่นหน้าอกของจำเลยหากเกิดขึ้นจริงดังที่จำเลยอ้าง อาการของจำเลยก็ทุเลาดีขึ้น และจำเลยก็สามารถกลับไปรักษาตัวที่สถานพยาบาลของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หรือโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2566เป็นต้นไป”

อย่างไรก็ตาม สำหรับข้าราชการประจำ 12 คนจากกรมราชทัณฑ์ รวมทั้งแพทย์โรงพยาบาลตำรวจนั้น ถึงอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุด เพราะ ป.ป.ช.กำลังไต่สวนสวนคดีเพื่อชี้มูล ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 “ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”

แต่ที่ต้องติดตามต่อไปก็คือ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่กำกับดูกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเมื่อวันที่ 11กันยายนวานนี้ ตัวแทนประชาชนคนไทย โดยกลุ่ม คปท., กองทัพธรรม และ ศปปส.ได้ไปร้องให้ ป.ป.ช.ไต่สวนคดีเพื่อชี้มูลความผิด พ.ต.อ.ทวี พ่วงไปกับ 12ข้าราชการประจำด้วยอีกหนึ่งคน

เพราะ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นผู้ที่เคยให้สัมภาษณ์ยืนยันมาตลอด ในช่วงที่“ทักษิณ ชินวัตร”ป่วยทิพย์บนชั้น 14โรงพยาบาลตำรวจว่า การพักรักษาตัวของ“ทักษิณ” เป็นไปตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ข้อบังคับของกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ และ“ทักษิณ”ป่วยจริง ส่วนรายละเอียดของอาการป่วยเป็นอย่างไรนั้น พ.ต.อ.ทวี มักจะอ้างกับผู้สื่อข่าวว่า “เป็นข้อมูลส่วนบุคคล และเป็นข้อมูลของผู้ป่วย ซึ่งตามกฎหมายไม่สามารถเปิดเผยได้”

นอกจากนั้น กลุ่ม คปท., กองทัพธรรม และ ศปปส. ก็ยังเคยไปร้อง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ให้ตรวจสอบกรณีที่“ทักษิณ ชินวัตร”ได้รับการพักรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ แต่พ.ต.อ.ก็เพิกเฉยไม่ได้มีการตรวจสอบ และทุกครั้งมักจะยืนยันคำเดิมๆ ว่า“ทักษิณ”ป่วยจริง และเป็นไปตามกฎกระทรวงยุติธรรม เรื่อง“การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจ” ปี 2563 ที่ลงนามประกาศโดยนายสมศักดิ์เทพสุทิน ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น

โดยเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 “ทักษิณ ชินวัตร”รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจเกิน 30 วัน ผู้บัญชาการเรือนจำได้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาให้อยู่ต่อ, วันที่ 21 ตุลาคม 2566 หลังจากครบ60 วัน กรมราชทัณฑ์ได้ออกเอกสารชี้แจงว่า “ทักษิณ”ยังไม่หายป่วยต้องรักษาตัวต่อ ซึ่งในขั้นตอนนี้ นอกจากต้องขอความเห็นชอบจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์แล้ว ยังต้องรายงานให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมทราบด้วย และในวันที่ 22 ธันวาคม 2566 ครบกำหนด 120วัน ขั้นตอนนี้ต้องรายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมทราบ และพ.ต.อ.ทวีสอดส่อง ยังได้ไปตอบกระทู้สดในสภาฯ ว่า“ทักษิณป่วยจริง”

ในขั้นตอนการอนุญาตให้“ทักษิณ ชินวัตร”พักรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตำรวจนี้จากคำวินิจฉัยของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระบุว่า กรณีพักรักษาตัวนอกเรือนจำต่อไปเกินกว่า 30 วันนั้น พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจคนปัจจุบัน ออกใบแสดงความเห็นแพทย์ฉบับลงวันที่ 15 กันยายน 2566 โดยระบุอาการที่“ทักษิณ ชินวัตร”ต้องรักษาคือนิ้วล็อก แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ

กรณีพักรักษาตัวนอกเรือนจำต่อไปเกินกว่า 60 วัน พล.ต.ท. นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ ออกใบแสดงความเห็นแพทย์ฉบับลงวันที่ 18 ตุลาคม 2566 โดยระบุอาการที่ต้องรักษาคือผ่าตัดเอ็นไหล่ขวาฉีก แต่ไม่ใช่เหตุอ้างรักษาตัวนอกเรือนจำ

และกรณีพักรักษาตัวนอกเรือนจำต่อไปเกินกว่า 120 วัน พ.ต.อ. นพ.ชนะ จงโชคดี นายแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ในฐานะแพทย์เจ้าของไข้ และ พล.ต.ต.นพ.สามารถ ม่วงศิริ แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ผู้ออกใบความเห็นแพทย์ ได้ออกใบแสดงความเห็นแพทย์ฉบับลงวันที่ 21 ธันวาคม 2566 โดยอ้างเหตุต้องเตรียมการรักษาอาการสมองขาดเลือด และผ่าตัดภาวะกระดูกคอเสื่อม

อย่างไรก็ตาม การอนุญาตให้“ทักษิณ ชินวัตร”อยู่โรงพยาบาลตำรวจต่อทั้ง 3 ครั้งนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระบุว่า นายนัสทีทองประหลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯในเวลานั้น ได้นำใบแสดงความเห็นแพทย์ทั้ง 4 ฉบับ (กรณี 120 วัน มีแพทย์ออก 2ใบ) ไปทำบันทึกถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาให้จำเลยพักรักษาตัวนอกเรือนจำเกิน 30 วัน 60 วัน และ 120วัน โดยอ้างเหตุต้องรักษาแผลผ่าตัด ต้องรับการผ่าตัดเร่งด่วน ต้องรักษาสมองขาดเลือด และผ่าตัดภาวะกระดูกคอเสื่อม ตามลำดับ

ทั้งที่การผ่าตัดตามที่ระบุในใบแสดงความเห็นแพทย์เป็นการผ่าตัดนิ้วล็อก ผ่าตัดเอ็นหัวไหล่ขวา ซึ่งฉีกขาดเพราะจำเลยประสบอุบัติเหตุขณะพักอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ และมิใช่สาเหตุการป่วย อันเป็นเหตุที่อ้างใช้ส่งตัวจำเลยมาที่โรงพยาบาลตำรวจ

ส่วนการผ่าตัดภาวะกระดูกคอเสื่อม ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระบุว่า แพทย์เคยเสนอจำเลยให้ผ่าตัดภายหลังจากจำเลยอยู่โรงพยาบาลตำรวจ แต่จำเลยปฏิเสธการผ่าตัด ทั้งได้ความว่า ในที่สุดก็ไม่มีการผ่าตัดกระดูกคอกดทับไขสันหลัง และเส้นประสาทของจำเลยแต่อย่างใด จนกระทั่งจำเลยออกจากโรงพยาบาลตำรวจ

ข้อเท็จจริงทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าวนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจึงชี้ว่า การบังคับโทษจำคุกจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมายและตามพฤติการณ์ดังกล่าว บ่งชี้ให้เห็นว่า จำเลยทราบข้อเท็จจริงหรือรับรู้เหตุการณ์ได้ว่าตนไม่ได้ป่วยวิกฤติฉุกเฉิน แต่จำเลยมีเพียงโรคประจำตัวซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่รักษาตัวแบบผู้ป่วยนอกได้ โดยไม่จำเป็นต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เพราะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและสภาวะร่างกายของจำเลยเอง

สรุปแล้ว งานนี้ทั้ง “ทักษิณ ชินวัตร”ผู้เป็น“นายเก่า” และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผู้เป็นลูกน้องมาตั้งแต่สมัย“ทักษิณ”เป็นนายกรัฐมนตรีรัฐบาลพรรคไทยรักไทย คงหนีไม่พ้นคดีอาญา ฐาน“เป็นผู้ร่วมกระทำผิดในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำความผิด”แก่บรรดาข้าราชการประจำ 12คน ที่เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต

ที่เหนื่อยสุดอันเป็นวิบากกรรม ก็คือ“ทักษิณ ชินวัตร” ที่อาจจะต้องเจออีกหนึ่งข้อหา หากมีผู้ร้องกล่าวโทษ ในความผิดมาตรา112 จากการที่“ทักษิณ”ทูลเกล้าฯถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ด้วยข้อความ“อันเป็นเท็จ” ว่า“รับโทษมาแล้ว 10 วัน เหลือโทษจำคุก 7 ปี 11 เดือน 20 วัน อยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร”แต่เมื่อพิจารณาจากคำวินิจฉัยของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว “ทักษิณ”ยังไม่เคยรับโทษอยู่เรือนจำแม้แต่วันเดียว

รวมทั้ง“ทักษิณ ชินวัตร”ไม่ได้มีสุขภาพเจ็บป่วยถึงขั้นวิฤตที่จะต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญรักษา ดังที่ได้กราบบังคมทูล อันเป็นเหตุให้เมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว จึงพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณชินวัตร เหลือโทษจำคุกต่อไปอีก 1 ปี

เห็นทีว่า “ทักษิณ ชินวัตร”อาจจะได้เป็น“วีรบุรุษ”อยู่ในคุกยาว สมความภาคภูมิใจของลูกหลานและคนในตระกูลชินวัตร และก็ไม่น่าจะเหงา เพราะคงจะมีบรรดาข้าราชการประจำ ผู้ร่วมกระทำผิดคคี“ป่วยทิพย์-ชั้น 14” ทยอยตามเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนอีกเป็นขบวน..

โดยเฉพาะลูกน้องเก่า“พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” ?!

รุ่งเรือง ปรีชากุล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:00 น. 'ชาวบ้านชายแดน'ไม่เห็นด้วยเปิดด่าน ไม่ไว้ใจเขมร หวั่นตลบหลัง
21:59 น. 'ครม.หนู 1'ดันทายาท'โกหงวน' บ้านใหญ่กระบี่-นายกฯอบจ.8 สมัย​ ผงาด​นั่ง​'รมต.'
21:38 น. อดกินเลย! ตรวจยึดซากไก่เถื่อนกว่า 60 ลัง คาดลักลอบนำเข้าเขมร แก้ขาดแคลนอาหารหนัก
21:31 น. สุดมันส์!!! 'ตร.พะเยา'ใส่เต็มยศ แข่งวิ่งผลัด 4x100
21:30 น. (คลิป) กลิ่นตุตุ! ปัจจัยค่าเงินบาทแข็ง'ไทย' ส่งออกทองไปยัง'เขมร'
ดูทั้งหมด
โพสต์เด็ด! 'อาร์ต พศุตม์'พูดถึง'ทักษิณ'หลังศาลสั่งจำคุก 1 ปี
(คลิป) 'ทักษิณ' ติดคุก! อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย
เกิดอะไรขึ้น? 'เปิ้ล นาคร'ออกประกาศร่อนจดหมายปลดพนักงาน
'ตู่ นันทิดา'คัมแบ็กวงการบันเทิง! เปิดใจครั้งแรกสาเหตุยุติเส้นทางการเมือง
'ต๊ะ นารากร'ส่ายหัว! ติงพิธีกรร่วม ปล่อย'แขก คำผกา'บูลลี่ สส.ปชน.ป่วยซึมเศร้า
ดูทั้งหมด
‘ทวี สอดส่อง’ติดร่างแห‘ทักษิณ’ป่วยทิพย์ชั้น 14
บันทึกข้อตกลงการเมือง MOU MOA บังคับได้หรือ?
ผู้ยอมจำนนหรือวีรบุรุษ?
คดีอาญา ป่วยทิพย์ชั้น 14 คุกหนักกว่า 1 ปี แน่นอน
บุคคลแนวหน้า : 12 กันยายน 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'ครม.หนู 1'ดันทายาท'โกหงวน' บ้านใหญ่กระบี่-นายกฯอบจ.8 สมัย​ ผงาด​นั่ง​'รมต.'

อดกินเลย! ตรวจยึดซากไก่เถื่อนกว่า 60 ลัง คาดลักลอบนำเข้าเขมร แก้ขาดแคลนอาหารหนัก

(คลิป) กลิ่นตุตุ! ปัจจัยค่าเงินบาทแข็ง'ไทย' ส่งออกทองไปยัง'เขมร'

แฟนคลับสุดเศร้า! 'อวี๋เมิ่งหลง'ดาราจีนชื่อดังพลัดตกตึกเสียชีวิต

GC ประสบความสำเร็จออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯเป็นครั้งแรกมูลค่า 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

(คลิป) ซัดคนละหมัด! ศึกภายในมหาดไทย ถึงเวลา'น้ำเงิน' ล้างบาง 'แดง'

  • Breaking News
  • \'ชาวบ้านชายแดน\'ไม่เห็นด้วยเปิดด่าน ไม่ไว้ใจเขมร หวั่นตลบหลัง 'ชาวบ้านชายแดน'ไม่เห็นด้วยเปิดด่าน ไม่ไว้ใจเขมร หวั่นตลบหลัง
  • \'ครม.หนู 1\'ดันทายาท\'โกหงวน\' บ้านใหญ่กระบี่-นายกฯอบจ.8 สมัย​ ผงาด​นั่ง​\'รมต.\' 'ครม.หนู 1'ดันทายาท'โกหงวน' บ้านใหญ่กระบี่-นายกฯอบจ.8 สมัย​ ผงาด​นั่ง​'รมต.'
  • อดกินเลย! ตรวจยึดซากไก่เถื่อนกว่า 60 ลัง คาดลักลอบนำเข้าเขมร แก้ขาดแคลนอาหารหนัก อดกินเลย! ตรวจยึดซากไก่เถื่อนกว่า 60 ลัง คาดลักลอบนำเข้าเขมร แก้ขาดแคลนอาหารหนัก
  • สุดมันส์!!! \'ตร.พะเยา\'ใส่เต็มยศ แข่งวิ่งผลัด 4x100 สุดมันส์!!! 'ตร.พะเยา'ใส่เต็มยศ แข่งวิ่งผลัด 4x100
  • (คลิป) กลิ่นตุตุ! ปัจจัยค่าเงินบาทแข็ง\'ไทย\' ส่งออกทองไปยัง\'เขมร\' (คลิป) กลิ่นตุตุ! ปัจจัยค่าเงินบาทแข็ง'ไทย' ส่งออกทองไปยัง'เขมร'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

‘ทวี สอดส่อง’ติดร่างแห‘ทักษิณ’ป่วยทิพย์ชั้น 14

‘ทวี สอดส่อง’ติดร่างแห‘ทักษิณ’ป่วยทิพย์ชั้น 14

12 ก.ย. 2568

‘ทุรบุรุษ’ที่ชื่อ‘ทักษิณ ชินวัตร’

‘ทุรบุรุษ’ที่ชื่อ‘ทักษิณ ชินวัตร’

11 ก.ย. 2568

‘ทักษิณ’นายกฯไทยคนแรกโกงแล้วติดคุก

‘ทักษิณ’นายกฯไทยคนแรกโกงแล้วติดคุก

10 ก.ย. 2568

‘ทักษิณ’ต้องติดคุก

‘ทักษิณ’ต้องติดคุก

9 ก.ย. 2568

ภูมิใจไทย‘แลนด์สไลด์’ถ้า‘อนุทิน’กล้าทำ

ภูมิใจไทย‘แลนด์สไลด์’ถ้า‘อนุทิน’กล้าทำ

8 ก.ย. 2568

‘ชัยเกษม’ประลองยุทธ์‘อนุทิน’

‘ชัยเกษม’ประลองยุทธ์‘อนุทิน’

5 ก.ย. 2568

‘เผือกร้อนยุบสภาฯ’ระคายเคืองสถาบัน

‘เผือกร้อนยุบสภาฯ’ระคายเคืองสถาบัน

4 ก.ย. 2568

‘อนุทิน’นายกฯ‘ทักษิณ’ติดคุก

‘อนุทิน’นายกฯ‘ทักษิณ’ติดคุก

3 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved