ผู้นำระดับประเทศในโลกนี้ ที่เล่นบท “คู่ซี้” กับผู้นำชาติอื่นเกิดขึ้นอย่างถี่บ่อย“หากคบกันอย่างจริงใจจนเป็นที่ประจักษ์” ก็จะได้ฉายา “มหามิตร” ที่เกื้อกูลกันทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมืองและการทหาร อย่าง “แนบแน่น”

ในทางกลับกัน ย่อมจะมีผู้นำบางชาติเป็น “คู่กัด” กับชาติศัตรูตลอดกาลและบาดหมางกันยาวนาน จนเกิด “สงครามไฟไหม้ฟาง” กันอย่างถี่บ่อย

ประเทศสารขัณฑ์และอาณาจักรขอมดำดิน เป็นประเทศที่มีชายแดนติดกันยาวไกลเกือบ 800 กิโลเมตร และคงจะนับเป็น “เพื่อนซี้” หรือ “เพื่อนบ้านที่ดีต่อกันไม่ได้”

“ทั้งนี้ ผู้นำขอมดำดินที่เป็นพ่อมดตาเหล่ครองอำนาจรัฐมายาวนานกว่าสี่ทศวรรษ ทำตัวเป็นเตโชเบาะสะแก ซำเต หรือ มนุษย์จัญไร ที่ขยันกอมบาวก์ (เจ้าเล่ห์) กับฝ่ายสารขัณฑ์ในทุกๆเรื่องอย่างยาวนานถี่บ่อย จนเป็นเพื่อนบ้านเนรคุณที่คบไม่ได้”

แต่น่าแปลกใจ เหตุใดพ่อมดตาเหล่ ผู้มีอำนาจรัฐอย่างเบ็ดเสร็จในอาณาจักรขอมดำดิน กับพ่อมดหน้าเหลี่ยมแห่งนครสารขัณฑ์ ซึ่งเป็นผู้นำจิตวิญญาณแห่งพรรคเสื้อแดงจึงคบกันอย่าง “สุดแนบแน่น ยาวนานกว่าสองทศวรรษ?”

โดย “คู่หูคู่ฮา” ทั้งสองหลี่กงกง บ่อยครั้งที่ “เกื้อกูลต่อกันราวกับญาติ”บ่อยครั้งกลับกลายเป็น “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” และหลายครั้ง “เป็นศัตรูคู่อาฆาตที่สุดคั่งแค้น”

หลังจากทั้งสองฝ่ายต่างเล่นบท “หวังดีและประสงค์ร้าย” ต่อกันมายาวนาน ล่าสุดก็เกิดเหตุการณ์ “แค้นแตกหัก” โดยพ่อมดตาเหล่ “ถีบทายาทของหลี่กงกงหน้าเหลี่ยมตกสวรรค์” ด้วยปฏิบัติการ “เปิดคลิปมรณะ”จน “มาดามเฟียส” สิ้นอนาคตทางการเมือง

“แค้นครั้งนี้” ทุกคนเชื่อกันว่า สองหลี่กงกง คงจะชังกันถึงขั้น“ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ ไปตลอดชีวิต”

“จู่ จู่ อำนาจรัฐในสารขัณฑ์ เปลี่ยนมืออย่างฉับพลันจากพรรคสีแดงมาเป็นพรรคสีน้ำเงิน โดยผู้นำสารขัณฑ์คนใหม่ มีนโยบายอันแน่ชัด จะเล่นงานชาติขอมดำดินในทุกมิติอย่างถึงพริกถึงขิง”

ปรากฏว่า “พ่อมดตาเหล่” แห่งขอมดำดิน ที่เป็นศัตรูสุดอาฆาตกับ “หลี่กงกงหน้าเหลี่ยม” กลับรีบแสดงบทละครสุดอัศจรรย์ ขอนับญาติคืนดีกับท่านทศกัณฐ์อย่างฉับไวเล่นเอาชาวสารขัณฑ์ต่าง “งงเป็นไก่ตาแตก”

แม้แต่กูรูทางการเมืองก็อธิบายไม่ได้ว่า “สองหลี่กงกง ที่คบกันแบบเพื่อนซี้ สลับฟันปลาคบกันแบบศัตรูคู่อาฆาต” นั้น

“คู่หูคู่ฮา คบกันแบบบ้าๆ บอๆ เยี่ยงนี้มีเป้าหมายเพื่ออะไรกันแน่?”

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม